เรือบีเกิ้ลใช้เวลาในการเดินทางครั้งนี้ทั้งหมด
5 ปี โดยถึงประเทศอังกฤษในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 1836 เมื่อดาร์วินกลับบ้าน
เขาก็ยังหมกหมุ่นอยู่กับการศึกษาแยกหมวดหมู่ ให้กับซากพืช ซากสัตว์
ที่เขาเก็บมา และในปีเดียวกันนี้ดาร์วินได้ตีพิมพ์ผลงาน
ของเขาออกมาเล่มหนึ่งชื่อว่า A Naturalist's Voyage Around the World
ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพบเห็น
มาตลอดระยะเวลา 5 ปี ในการเดินทางสำรวจโลกไปกับเรือบีเกิ้ล
และจากผลงานชิ้นนี้
ดาร์วินได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการธรณีวิทยาสมาคม (Geological
Society) ในปี
ค.ศ. 1838 และต่อมาในปี ค.ศ. 1842 ดาร์วินได้ย้ายไปอยู่ที่มณฑลเคนท์
(Kent) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุง
ลอนดอน ในระหว่างที่เขาพำนักอยู่ที่นี่ดาร์วินได้ทำการศึกษาค้นคึว้าเกี่ยวกับธรรมชาติ
พร้อมกับตีพิมพ์ผลงานออกมาอีก 1 เล่ม
ชื่อว่า The Structure and Distribution of Coral Reef ต่อมาอีก
2 ปี ดาร์วินได้ตีพิมพ์ผลงานออกมาอีก 1 เล่มชื่อว่า
Geological Observations of South America และในปี ค.ศ. 1846 ดาร์วินได้ตีพิมพ์ผลงานออกมาอีกเล่ม
ชื่อว่า
Geological Observation on Volcanic Island หนังสือทั้ง 3 เล่มนี้
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของดาร์วิน
ในการสำรวจโลกกับเรือบีเกิ้ล หลังจากนั้นดาร์วินมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องเพรียง
ซึ่งเขาเก็บมาจากชายฝั่งประเทศซิลี เมื่อครั้งที่
เขาเดินทางนั่นเอง ดาร์วินได้ศึกษาลักษณะทางกายภาพของเพรียงอย่างละเอียด
โดยการผ่าตัดดูเพรียงทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต
จากการศึกษาเพรียงดาร์วินได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเพรียงถึง 4 เล่ม
จากเรื่องเพรียง
ดาร์วินได้หันมาให้ความสนใจศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตโดยเขามีแรงบันดาลใจมาจาก
ซากฟอสซิล (Fossil) ดาร์วินใช้เวลาในการค้นคว้าเรื่องนี้นานกว่า
20 ปี เขารวบรวมข้อมูลเพื่อค้นหาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
ดาร์วินศึกษาสิ่งมีชีวิตหลายชนิดทั้งคนม้า สุนัข และลิง เป็นต้น
จากการ้นคว้าเขาสามารถสรุปและตั้งเป็นทฤษฎีวิวัฒนาการได้ว่า
สิ่งมีชีวิตในปัจจุบันนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตในอดีต
ต่อมาในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1859 ดาร์วินได้ตีพิมพ์
เผยแพร่ผลงานออกมาเล่มหนึ่งมีชื่อว่า The Original of Species หรือ
กำเนิดพืชและสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งมีเนื้อหาอธิบายถึง
กำเนิดของสิ่งมีชีวิต รวมถึงวิวัฒนาการจากรูปแบบหนึ่งมาสู่รูปแบบหนึ่งด้วย
ซึ่งมีผลมาจากสภาพแวดล้อมเป็นสำคัญ คือ
เมื่อสภาพแวดล้อมเป็นเช่นไร สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจำเป็นต้องปรับสภาพให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้น
เพื่อชีวิตที่จะคงอยู่ต่อไป โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ต้องใช้ระยะเวลาอันยาวนานจะเปลี่ยนแปลงทั้งโครงสร้างทางร่างกายและลักษณะ
นิสัย การวิวัฒนาการเช่นนี้ดาร์วินเรียกว่า "การคัดเลือกโดยธรรมชาติ
(Natural Selection)" นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้
ยังอธิบายเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ว่ามาจากลิง เมื่อหนังสือของดาร์วินได้รับการเผยแพร่ออกไป
ปรากฏว่าถูกคัดค้านจากพวก
เคร่งศาสนาอย่างหนัก บางคนถึงกับว่ากล่าวดาร์วินอย่างรุนแรงว่าเป็นพวกนอกศาสนา
นอกรีต แม้แต่กัปตันเรือบีเกิ้ลซึ่งทั้งสอง
เคยร่วมเดินทางสำรวจด้วยกันเป็นเวลานานถึง 5 ปี ก็ได้ว่ากล่าวดาร์วินอย่างรุนแรงเช่นกัน
เหตุการณ์เป็นเช่นนี้เพราะคนเหล่านี้
มีความเชื่อว่าสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนแต่พระเจ้าสร้างมา ซึ่งมีรูปแบบเช่นนี้มาตั้งแต่แรก
แต่ต่อมาไม่นานนักคนเหล่านี้ก็ให้การ
ยอมรับทฤษฎีข้อนี้ สำหรับวงการวิทยาศาสตร์ และประชาชนส่วนใหญ่ต่างก็ยอมรับในทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน
ตั้งแต่
ครั้งแรกที่มีการเผยแพร่ออกมา ดาร์วินพิมพ์ผลงานเกี่ยวกับธรรมชาติออกมาอีกหลายเล่ม
ได้แก่
- ค.ศ. 1862 พิมพ์หนังสือชื่อว่า
The Fertilization of Orchids
- ค.ศ. 1868 พิมพ์หนังสือชื่อว่า
The Variation of Animal and Plants under Domestication
- ค.ศ. 1871 พิมพ์หนังสือชื่อว่า
The Descent of Man and Selection in Relation to Sea
- ค.ศ. 1872 พิมพ์หนังสือชื่อว่า
The Expression of the Emotion in Man and Animal
- ค.ศ. 1875 พิมพ์หนังสือชื่อว่า
The Effect of Cross and Self - Fertilization in the Vegetable
Kingdom
- ค.ศ. 1877 พิมพ์หนังสือชื่อว่า
Different Forms of Flower and Plant of The Same Species
- ค.ศ. 1880 พิมพ์หนังสือชื่อว่า
The Power of Movement in Plants
- ค.ศ. 1881 พิมพ์หนังสือชื่อว่า
The Formation of Vegetable Mould Through The Action of Worms
ซึ่งเป็นหนังสือเล่มสุดท้ายก่อนที่ดาร์วินจะเสียชีวิตในวันที่
19 เมษายน ค.ศ. 1882 ศพของเขาถูกฝังอยู่ที่วิหารเวสเตอร์
ผลงานของดาร์วินที่เขาได้ถ่ายทอดลงในหนังสือของเขา ล้วนแต่เป็นผลงานที่มีประโยชน์อย่างมากทั้งทางชีววิทยา
และ
มนุษยวิทยา โดยเฉพาะทฤษฎีวิวัฒนาการถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในวงการชีววิทยา
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256
แฟกซ์ 0 201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง :
Tuesday, November 30, 2010 10:03 AM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร