เกิด 460
ก่อนคริสต์ศักราช ที่เกาะโคส (Cose) ประเทศกรีซ (Greece)
เสียชีวิต 347 ก่อนคริสต์ศักราช ที่เกาะโคส (Cose) ประเทศกรีซ (Greece)
ผลงาน - บุกเบิกวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน และได้รับการยกย่องให้เป็น
บิดาแห่งวิชาการแพทย์ (Father of the Medicine)
การรักษาโรคด้วยวิธีการที่ทันสมัย
ได้มีการพัฒนาอย่างจริงจังเมื่อประมาณ 200 กว่าปี มานี้เอง แต่การเริ่มต้นของวิชาการ
ด้านนี้มีมานานกว่า 2,000 ปี มาแล้ว จากความคิดริเริ่มของนายแพทย์ชาวกรีกผู้หนึ่งที่มีนามว่า
ฮิปโปเครตีส ผู้ซึ่งเป็นบิดาแห่ง
วิชาการแพทย์แผนปัจจุบัน
ฮิปโปเครตีสเป็นนายแพทย์คนแรกของโลกที่ทำการรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการสมัยใหม่
คือ วินิจฉัยถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคก่อน
แล้วจึงทำการรักษา ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันมาจนทุกวันนี้ ก่อนหน้าที่ฮิปโปเครตีสจะบุกเบิกวิธีการรักษาเช่นนี้
ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า
เทพเจ้าดลบันดาลให้เกิดความเจ็บป่วย เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาอาการป่วยก็คือ
การบวงสรวง อ้อนวอน ขอร้องเทพเจ้าให้หายจาก
อาการ เจ็บป่วยเหล่านี้ ซึ่งผู้ที่ทำการรักษาผู้ป่วยในสมัยนั้นส่วนใหญ่จึงไม่ใช่แพทย์
แต่เป็นนักบวชที่ทำพิธีกรรมบวงสรวงเทพเจ้า
ฮิปโปเครตีสเกิดเมื่อประมาณ
460 ก่อนคริสต์ศักราช ที่เกาะโคส ประเทศกรีซ เขาได้รับการศึกษาจากครูผู้หนึ่งเกี่ยวกับวิชา
ปรัชญา คณิตศาสตร์ และการแพทย์ ฮิปโปเครตีสต้องการที่จะเปลี่ยนแนวความคิดของคนในสมัยนั้นที่เชื่อว่า
อาการเจ็บป่วยเกิดจาก
การดลบันดาลของเทพเจ้า โดยเขาอธิบายว่าอันที่จริงแล้วอาการเจ็บป่วยอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ
เป็นต้นว่า ความผิดปกติ หรือ
ความบกพร่องของร่างกาย อาหาร อากาศ และเชื้อโรค เป็นต้น เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาโรคก็ควรจะต้องวินิจฉัยสาเหตุของโรค
ว่าเกิดจากสาเหตุใด แล้วจึงหาวิธีการรักษาต่อไป ฮิปโปเครตีสใช้เวลาในการศึกษาวิธีการรักษาผู้ป่วยตลอดชีวิตของเขาจากผู้ป่วย
นั่นเอง เพราะผู้ป่วยแต่ละคนก็แตกต่างกันไปทั้งอาการของโรคและวิธีการรักษา
เขาจะดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด และจดบันทึกเกี่ยวกับ
ผู้ป่วยอย่างละเอียด ทั้งประวัติส่วนตัว อาการ สาเหตุของโรค รวมถึงวิธีการรักษาด้วย
วิธีการรักษาผู้ป่วยของฮิปโปเครตีสจะเป็น
ไปอย่างละเอียดทุกขั้นตอน แม้แต่ยาที่รักาผู้ป่วยก็เป็นยาที่ไม่รุนแรงและใช้เฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
เพราะเขาเชื่อว่าธรรมชาติ
ของคนนั้นสามารถรักษาตัวเองได้ โดยผู้ป่วยทุก ๆ คนต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ
ทั้งเรื่องอากาศ ผู้ป่วยควรอยู่ในที่ ที่มี
อากาศบริสุทธิ์ อาหารก็ควรได้รับประทานที่เหมาะสม คืออาหารอ่อนที่รับประทานง่าย
เช่น ข้าวต้ม ซุป เป็นต้น เพราะร่างกาย
ของผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ แม้แต่เรื่องความสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญ
ทั้งความสะอาดของร่างกาย และของใช้ทั้งของผู้ป่วยเอง
เช่น เสื้อผ้า เครื่องนอน เป็นต้น และอุปกรณ์การแพทย์ยิ่งต้องรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ
ไม่เพียงแต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคเท่านั้น
ฮิปโปเครตีสยังรักษาผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุจนกระดูกหัก หรือเป็นแผลฉกรรจ์
เขาก็สามารถรักษาได้ เขาเรียนรู้วิธีการรักษาบาดแผล
ให้สะอาด โดยการใช้น้ำมันดินมาทาที่แผลซึ่งสามารถป้องกันบาดแผลไม่ให้ลุกลามได้เป็นอย่างดี
การรักษาโรคเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้คนพ้นจากความทุกข์ทรมาน
แต่วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคเป็นสิ่งที่ดีกว่า และฮิปโปเครตีส
ก็ให้ความสนใจเรื่องการรักษาสุขภาพนี้ด้วยเช่นกัน เขาคิดว่าคนที่มีสุขภาพแข็งแรงก็จะไม่ล่มป่วยได้ง่าย
ๆ และวิธีการรักษาสุขภาพ
ให้แข็งแรงอยู่เสมอก็คือการออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
และการทำจิตใจให้ผ่องใสก็เป็น
สิ่งสำคัญเช่นกัน
ฮิปโปเครตีสได้ตั้งโรงเรียนสอนวิชาแพทย์ขึ้นที่เกาะโคส
และเขียนตำราแพทย์ไว้มากมายที่เกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยวิธีการ
ต่าง ๆ วิธีการใช้ยา วิธีการรักษาบาดแผล กระดูกหัก และวิธีการผ่าตัด
แม้แต่วิธีการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเขาก็ได้เขียนขึ้น ซึ่งส่วน
ใหญ่เป็นสิ่งที่เขาบันทึกจากผู้ป่วยที่เขาทำการรักษา ดังนั้นตำราแพทย์ของเขาจึงเป็นตำราที่น่าเชื่อถือ
เพราะเขียนขึ้นจากความจริง
ทั้งสิ้น
ฮิปโปเครตีสถือว่าเป็นผู้ให้กำเนิดวิชาการแพทย์แผนปัจจุบัน
วิธีการรักษาของเขามีระเบียบแบบแผนเป็นที่น่าเชื่อถือ ซึ่งใน
ปัจจุบันผู้ที่จบวิชาแพทย์ก็ยังต้องกล่าวคำปฏิญาณ (Hippocratic Oath)
ตามที่ฮิปโปเครตีสเคยกล่าวไว้ต่อหน้าเทพเจ้า
แอสเคลปิอุส (Asclepius) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการแพทย์ของกรีก และส่วนหนึ่งในคำปฏิญาณนี้
ได้ถูกนำมาเป็นข้อบังคับ หรือ
จรรยาบรรณของแพทย์ด้วย ดังจะยกตัวอย่างมาส่วนหนึ่ง "จรรยาและข้อกำหนดที่ข้าพเจ้ายึดถือและประกาศไว้นี้
เป็นไปเพื่อ
ประโยชน์สุขของผู้ป่วยในความดูแล ซึ่งข้าพเจ้าจะใช้พละกำลังของข้าพเจ้าช่วยเหลือผู้ป่วยจนสุดความสามารถ
ข้าพเจ้าจะไม่ใช้
ความรู้ของข้าพเจ้าให้เป็นอันตรายต่อผู้อื่น หรือรักษาผู้อื่นด้วยวิธีการที่ผิด
ข้าพเจ้าจะไม่สั่งจ่ายยาที่ทำให้ต้องเสียชีวิตเป็นอันขาด
ข้าพเจ้าจะไปเยี่ยมบ้านเรือน เพื่อประโยชน์สุขของผู้ป่วยเท่านั้น
โดยงดเว้นจากการคดโกง และประสงค์ร้าย"