หลังจบงานอีเวนต์ใดก็ตาม สิ่งตามมาด้วยเสมอ คือ “ขยะ” ของผู้คนร่วมงานที่มีทั้งในถังขยะและอาจจะล้นออกมาอยู่นอกถัง หรือตกอยู่เกลื่อนบริเวณพื้นที่จัดงาน ขยะถูกปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดและหน่วยงานรักษาความสะอาดมารับช่วงต่อ ซึ่งแต่ละงานคงไม่มีใครรู้หรอกว่า กองขยะสารพัดประเภทในงานอีเวนต์เหล่านั้นจะไปตกค้างอยู่ที่ไหนบ้าง “แต่จะไม่เกิดขึ้นที่งานฟุตบอลประเพณีจุฬาลงกรณ์-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 74 ณ สนามศุภชลาศัย ในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์นี้” เพราะคนจัดงานยืนยันถึงกระบวนการจัดการขยะแต่ละประเภทมีเส้นทางไปต่ออย่างชัดเจน จึงแทบไม่เหลือขยะตกค้างมาก่อมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม “ขยะ” ในงานฟุตบอลประเพณีครั้งที่ 74 จะมีตั้งแต่ เศษอาหาร ภาชนะ บรรจุภัณฑ์ ขยะจากขบวนพาเหรด หรือบนแสตนด์ ขยะพวกนี้จะได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม และเราจะทำให้ขยะเหล่านี้กลับมาสร้างประโยชน์สูงสุดในแต่ละวงจร .”เศษอาหาร” ของกินเหลือเททิ้งแล้วจะไปไหน หลังจากถูก “แยก” เรียบร้อยแล้ว จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่อ โดยฝ่ายกายภาพ จุฬาฯ จะส่งต่อให้เกษตรกรเพื่อเข้าสู่กระบวนการหมัก ทำปุ๋ย ปลูกต้นไม้ และทำเป็นอาหารสัตว์ต่อไป แต่สิ่งที่ควรเป็นสำหรับทุกคน คือไม่ทิ้งสิ่งของที่ไม่สามารถเป็นอาหารได้ เช่น ไม้เสียบ ถาดใบตอง และกล่องชานอ้อย ลงไปรวมกับเศษอาหารในขณะที่แยก “แก้วไบโอ” (Bio-Compostable) วัสดุอีกหนึ่งชิ้นที่เป็นกิมมิกภายในงาน ซึ่งจริงๆ ได้ถูกนำมาใช้แทนบรรจุภัณฑ์ในมหาวิทยาลัยแล้ว เป็นแก้วที่ผลิตจากเส้นใยพืชระยะสั้น (อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง) มีลักษณะพิเศษคือ ย่อยสลายได้ภายใน 4-6 เดือน (ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม) โดยไม่มีสารเคมีตกค้าง แก้ว Bio-Compostable ที่ถูก “แยก” จากงานนี้ จะถูกนำไปใช้เป็นกระถางเพาะชำแทนการใช้ถุงเพาะชำพลาสติก เพราะเมื่อแก้วเหล่านี้อยู่ในดินที่เหมาะสม จะสามารถย่อยสลายเป็นมวลชีวภาพ เป็นประโยชน์กับดินและพืชต่อไป “ขยะบนสแตนด์เชียร์” ส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุหรืออุปกรณ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก เช่น กระบองลม กระป๋อง ขวดแก้ว หรือบรรจุภัณฑ์ใส่เครื่องดื่ม เราจึงเลือกวิธีจัดการด้วยการ “แยก” เพื่อนำไปส่งขายเพื่อนำกลับคืนสู่กระบวนการ Recycle จนกลายเป็นวัสดุชิ้นใหม่ได้หลากหลายประเภท แล้วถ้าเป็นขยะที่ไม่สามารถ Recycle ได้ล่ะ เพราะบนสแตนด์หรือขบวนพาเหรด ยังมีขยะจำพวกวัสดุเหลือใช้ที่เป็นวัสดุแห้ง ไม่ว่าจะเป็น พู่กระดาษ ของตกแต่งอื่น ๆ ด้วย ขยะเหล่านี้เมื่อเรา “แยก” ออกมาแล้ว เราจะส่งต่อให้โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ นำมันไปเผาเป็นพลังงานความร้อนทดแทนการใช้ถ่านหิน ผ่านกระบวนการ RDF (Refuse Derived Fuel) ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะว่าขยะจากสแตนด์หรือขบวนพาเหรดบางชนิด ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถนำไปเข้ากระบวนการเพื่อเพิ่มมูลค่า หรือเรียกว่า Upcycle จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ขวด PET หรือขวดน้ำพลาสติกที่เราคุ้นเคย เส้นใยของมันสามารถนำมาผ่านกระบวนการเพื่อทำเป็นผ้าได้ด้วย ซึ่งขวดเพียงแค่ 7 ขวด ก็สามารถผลิตเป็น “รองเท้า” คู่ใหม่ได้แล้ว ส่วนไวนิล ผ้าต่วน หรือผ้าดิบ ที่ใช้ตกแต่งในขบวนพาเหรด ก็สามารถนำมา Upcycle เพื่อผลิตเป็น “กระเป๋า” ได้ด้วยเช่นกัน และเมื่อเราได้รองเท้าและกระเป๋าใบใหม่มาแล้ว เราก็จะนำไปบริจาคให้กับโรงเรียน หรือน้องๆ เด็กนักเรียนที่ต้องการ ผ่านค่ายอาสาฯ ของทั้งสองมหาวิทยาลัย เพื่อทำให้ผลลัพธ์ของการจัดการขยะในครั้งนี้ สร้างประโยชน์แก่ผู้อื่นได้อีกทอดหนึ่ง Manager online 6.02.20 Manager online 6.02.20
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร