พื้นที่อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมานั้น ส่วนใหญ่ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์นัก บริเวณใดที่ติดลำน้ำหรือมีระบบชลประทาน บริเวณนั้นจะถูกใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้ดี แต่ส่วนใหญ่แล้วพบว่าเป็นที่นา ถึงช่วงฤดูฝนนั่นแหละ จึงจะได้หว่านไถ
สภาพความเป็นอยู่ของคนอำเภอนี้ ไม่ค่อยแตกต่างจากถิ่นอื่นของอีสาน ดังนั้น เสร็จจากงานนา คนที่ว่างงานจะเข้ากรุงเทพฯ หางานเลี้ยงครอบครัว นานเข้าไปไกลถึงต่างประเทศ ที่ฮิตมากเห็นจะได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย ยามใดที่คนไปซาอุฯ กลับบ้าน นอกจากเงิน และเครื่องเสียงแล้ว สิ่งที่มีติดมือมาคือเมล็ดพืชทะเลทรายชนิดหนึ่ง นามว่า "ชวนชม" ถึงแม้จะเป็นคนบ้านนอก เป็นชาวนา แต่คนอำเภอคงมองชวนชมที่ขึ้นในเขตแห้งแล้ง เป็นสิ่งสวยงาม
โดยหารู้ไม่ว่า ต่อมาชวนชมที่นำติดมือมานั้น ได้สร้างงานทำเงินให้คนในท้องถิ่นมากมายมหาศาล ประเมินค่าไม่ได้
แรกทีเดียวชวนชมที่นำมาจากซาอุฯ ปลูกเลี้ยงกันในแวดวงแคบๆ ต่อมาปรากฏว่าได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง พร้อมกับมีการแยกแยะอย่างชัดเจน ชวนชมที่อำเภอคง จัดอยู่ในประเภท "อะราบิคุ่ม" หรือยักษ์ซาอุฯ
ชวนชมนั้นแบ่งได้ 2 กลุ่ม ด้วยกัน
กลุ่มแรก...เป็นไม้สี ส่วนใหญ่ผู้ผลิตจะปลูกตอแล้วนำไม้สีเสียบยอดเข้าไป ทุกวันนี้ไม้สีมีสีสันแปลกตา บางสายพันธุ์มีกลิ่นหอม
กลุ่มที่สอง...กลุ่มไม้ยักษ์
กลุ่มไม้ยักษ์ ยังมีแบ่งแยกย่อยออกไป ตามลักษณะของการแตกกิ่งก้าน ดังนี้
- ไทยโซโค จุดเด่นสังเกตง่ายๆ มีการแตกพุ่มที่เรือนยอด ดูคล้ายๆ ไม้แคระ สายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็ อาทิ ระฆังทอง มงกุฎทอง เป็นต้น
- อะราบิคุ่ม จุดเด่น ฐานของต้นจะแผ่กว้าง มีกิ่งแตกออกจำนวนมาก ที่อำเภอคง มีอะราบิคุ่มเสียส่วนใหญ่
- โซมาเลนท์ ทรงของต้นสูง เหมือนไม้ยืนต้น
- ยืนหยัดเลี้ยงอยู่นานกว่าทศวรรษ
เนื่องจากชาวอำเภอคง ปลูกเลี้ยงชวนชมจนนำชื่อเสียงมาสู่ชุมชน จึงมีการใส่ชวนชมไว้ในคำขวัญดังนี้
"เมืองคนซื่อ ลือศิลปิน ถิ่นหลวงปู่ กู่ปรางค์เก่า ข้าวไหมแตง แหล่งหัตถกรรม งามล้ำชวนชม"
ในบรรดาผู้ปลูกเลี้ยงชวนชมจำนวนหลายรายนั้น คุณภรคุณ อยู่วิจิตร และ คุณเกตน์สิรี กรวยสวัสดิ์ อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 3 ตำบลคูขาด อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ยืนหยัดปลูกเลี้ยงชวนชมมานานถึง 15 ปี จริงๆ แล้ว คุณภรคุณ ผู้เป็นสามี มีธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง หน้าที่ในการปลูกเลี้ยงชวนชมได้ตกแก่คุณเกตน์สิรีผู้เป็นภรรยา
นอกจากปลูกเลี้ยงชวนชมได้ผลดีแล้ว คุณเกตน์สิรี ยังเลี้ยงดูวัวพันธุ์ดี พร้อมกับรับนำพ่อพันธุ์ไปผสมพันธุ์ให้เกษตรกรรายอื่น เพราะเหตุที่เป็นหญิงแกร่งสู้งานนี่เอง ทางอำเภอคงยกย่องให้คุณเกตน์สิรีเป็น "หญิงเหล็กแห่งอำเภอคง" นับว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง
คุณภรคุณ และ คุณเกตน์สิรี ร่วมให้ข้อมูลว่า ชวนชมที่ปลูกเลี้ยงอยู่ เป็นกลุ่มอะราบิคุ่ม อย่างที่แนะนำไปแล้ว ซึ่งสายพันธุ์นั้นแยกย่อยออกไป อาทิ ยักษ์ดำ เพชรเมืองคง เพชรหน้าวัง และราชินีพันดอก
ยักษ์ดำ...ลักษณะของลำต้นสีน้ำตาลเข้ม มีปุ่ม ดอกสีชมพูอ่อน ดอกพอประมาณ เสน่ห์ของสายพันธุ์นี้อยู่ที่ต้น
เพชรเมืองคง...ลำต้นสีเขียว ดอกออกเป็นก้อนๆ ออกเฉพาะยอด
เพชรหน้าวัง...ลำต้นสีน้ำตาลอ่อน มีปุ่ม ออกดอกตามโคนตามข้อ สรุปแล้วออกดอกทั้งต้น ดอกสีชมพูอ่อนๆ
ราชินีพันดอก...กิ่งก้านมีมากกว่าทุกสายพันธุ์ ดังนั้น ดอกจึงมากกว่าสายพันธุ์อื่น เจ้าของบอกว่า ดอกออกทุกยอด ดอกสีชมพู
"ปลูกเลี้ยงมาตลอด แต่ช่วงใดที่ธุรกิจยุ่งอาจจะซาลงบ้าง อย่างปี 2543 แต่พ่อแม่พันธุ์ก็ยังรักษาไว้อยู่ เมื่องานอื่นซาลงก็ขยาย แต่ทุกวันนี้อยู่ตัวแล้ว ภรรยาผมเขาดูแลเต็มที่" คุณภรคุณ บอก
ปลูกเลี้ยงง่าย
เจ้าของให้ข้อมูลว่า ชวนชมเป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงไม่ยาก ที่ไม่ยากเป็นเพราะถิ่นกำเนิดของเขาอยู่ในเขตทะเลทราย มีความแห้งแล้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อนำมาปลูกในประเทศไทย สิ่งหนึ่งที่ต้องจัดการให้ คือการวางตั้งกระถาง โดยใช้วิธีคว่ำกระถางใบหนึ่ง แล้วตั้งกระถางลงไป หรือไม่ก็ยกร้านให้สูงขึ้น เหตุที่ทำเช่นนี้ เป็นการป้องกันไม่ให้วัสดุปลูกแฉะเกินไปนั่นเอง เห็นอย่างนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าชวนชมไม่ต้องการน้ำ ไม้ทุกอย่างต้องการน้ำ แต่ต้องดูปริมาณให้เหมาะสม
วิธีการขยายพันธุ์ชวนชมนั้น เจ้าของบอกว่า กลุ่มนี้ ใช้วิธีเพาะเมล็ด จริงๆ แล้วเมล็ดชวนชม มีคนต้องการซื้อส่งไปจำหน่ายต่างประเทศจำนวนมาก แต่ทางสวนคุณเกตน์สิรีไม่ได้จำหน่าย ช่วงที่ความต้องการสูง มีการให้ราคาเมล็ดละ 15 บาท ก็เคยมี
คุณเกตน์สิรี จะเก็บเมล็ดมาเพาะ จากนั้นจะดูแลอย่างสม่ำเสมอ บางสายพันธุ์อาจจะใช้เวลานาน แต่ส่วนใหญ่แล้วโตเร็ว นั่นหมายถึงจำหน่ายผลผลิตได้เร็วด้วย
สิ่งสำคัญ ในการปลูกเลี้ยงชวนชมนั้นคือ วัสดุปลูก
เจ้าของแนะนำวัสดุปลูกว่า ให้ใช้ดินใบก้ามปู 3 ส่วน ขุยมะพร้าว ครึ่งส่วน และกาบมะพร้าวสับ ครึ่งส่วน แต่สิ่งที่ใส่ให้เป็นประจำคือขี้วัว ที่ย่อยสลายดีแล้ว
"นอกจากขี้วัวแล้ว ยังใช้ปุ๋ยชีวภาพ ที่ได้จากการหมักกากน้ำตาลกับอีเอ็ม" เจ้าของบอก
ขายไม่ยาก ตลาดยังไปได้
เจ้าของบอกว่า การซื้อขายชวนชมนั้น มีอยู่อย่างต่อเนื่อง บางช่วงอาจจะน้อยหน่อย แต่หากยืนหยัดแล้ว ถือว่าเป็นอาชีพได้อย่างดี
ราคาต้นไม้ที่จำหน่ายนั้น ทางเจ้าของบอกว่า มีตั้งแต่ต้นละ 40 บาท ไปจนถึง 1,500 บาท แต่มีอยู่จำนวนหนึ่งราคาค่อนข้างสูง ต้นละหลายแสนบาท ราคาขนาดนี้ ต้นปลูกเลี้ยงมานาน ทรงต้นสวย หายาก หากเป็นวงการพระ ก็เป็นรุ่นที่สร้างมานาน สร้างไม่มาก พิมพ์สวย
ชวนชมนั้นมีลักษณะพิเศษอยู่ในตัว ทำให้ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ชวนชมเป็นได้ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ดูอย่างการแยกกลุ่ม
กลุ่มไม้ยักษ์ลำต้นสวยงาม เหมือนนักเพาะกาย ขณะเดียวกันยังมีดอกให้เจ้าของได้เชยชมอีกด้วย
ทุกวันนี้ นักปลูกเลี้ยงได้ผสมคัดเลือกสายพันธุ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเสมอ เหมือนอย่างบริษัทที่ผลิตรถยนต์ ถึงแม้เครื่องจะยังเหมือนเดิม แต่ตัวถังเปลี่ยนไป ปรับโน่นนิด ปรับนี่หน่อยคนก็ซื้อหาแล้ว ชวนชมจะต่างจากรถอยู่ที่เป็นสิ่งมีชีวิต การผสมและคัดเลือกให้ได้สายพันธุ์ใหม่นั้น ทำได้ไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เรื่องของสายพันธุ์ คุณภรคุณ และคุณเกตน์สิรีก็มีใหม่ๆ ออกนำเสนอเช่นกัน นอกจากคัดเลือกในท้องถิ่นแล้ว ส่วนหนึ่งยังมีไม้จากที่อื่นเป็นตัวเลือกสำหรับผู้สนใจอีกด้วย
ราคาที่เจ้าของสวนแนะนำมา เริ่มต้นที่ 40 บาท ไม่แพงแต่อย่างใด
การตั้งราคาเป็นสิ่งสำคัญ ราคาไม่แพง ส่วนหนึ่งอยู่ที่ขนาดของต้น ซึ่งเหมาะกับมือใหม่ที่จะได้เรียนรู้นิสัยของต้นไม้
เจ้าของบอกว่า ชวนชมยังเป็นไม้ที่ทำเงิน และยังคงมีต่อเนื่อง เพราะทุกวันนี้ มีชาวต่างชาติมากว้านซื้อ เช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม รวมทั้งประเทศอื่นๆ
"ผมส่งทางไปรษณีย์ให้ ส่ง อีเอ็มเอส สำหรับผู้ต้องการซื้อที่อยู่ไกล ส่งได้ไม่มีปัญหา มีที่กันกระแทก" เจ้าของบอก
สำหรับผู้สนใจประกอบอาชีพนี้ เจ้าของบอกว่า ยินดีให้คำปรึกษา โดยติดต่อได้ตามที่อยู่ หรือ โทร. (089) 896-7855, (089) 8952-002