เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
เขียวอำพัน ชมพู่พันธุ์ใหม่ ณ ถิ่นดำเนินสะดวก
   
ปัญหา :
 
 
ชมพู่ยุคเก่าก่อนของไทยมีหลายสายพันธุ์ อาทิ น้ำดอกไม้ แก้มแหม่ม แขกดำ เพชรสายรุ้ง กะหลาป๋า ขาว เขียว นก นาก น้ำ พลาสติค มะเหมี่ยว สาแหรก สากกระเบือ เป็นต้น ชมพู่หลายสายพันธุ์ ล้มหายตายจากไป แต่มีบางอย่างยังคงอยู่ เช่น เพชรสายรุ้ง ของเพชรบุรี ส่วนน้ำดอกไม้พอพบเห็นบ้างไม่มากนัก หากเป็นชมพู่ยุคใหม่ขึ้นมาหน่อย ก็มีทูลเกล้า เพชรน้ำผึ้ง เพชรสามพราน แดงอินโดฯ ที่ครองตลาดอยู่ใน ปัจจุบัน เป็นสายพันธุ์อื่นไปไม่ได้ นั่นก็คือ...ทับทิมจันท์ การเขียนชื่อชมพู่สายพันธุ์ บางคนเขียนว่า "ทับทิมจันทร์" แต่จริงๆ แล้ว "ทับทิมจันท์" ถูกต้องที่สุด เพราะต้นตอของชมพู่สายพันธุ์นี้ มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ถูกนำเข้ามาปลูกและศึกษาอย่างจริงจังครั้งแรกที่จังหวัดจันทบุรี ด้วยลักษณะของผิวผลที่สวยสดงดงามดังทับทิม จึงตั้งชื่อว่า ทับทิมจันท์ งาน พัฒนาพันธุ์ชมพู่ หลักๆ แล้วได้จากสองทางด้วยกัน ทางแรก...ได้จากการ กลายพันธุ์ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แมลงทำหน้าที่ผสมให้ ชมพู่ที่ได้จากการกลายพันธุ์ โดยฝีมือมนุษย์ แทบไม่มีให้เห็น แต่บางคราว ผู้ค้าต้นพันธุ์ อาจจะอำว่า ตนเองจับโน่นผสมนี่ จริงๆ แล้วยาก ทาง ที่สอง...เป็นทางลัด คือนำเข้ามา อย่างชมพู่เพชรน้ำผึ้ง แดงอินโดฯ (มานาลากี) และสุดท้ายคือทับทิมจันท์ ชมพู่ เป็นไม้ผลที่ปลูกมากแถบภาคกลางและภาคตะวันตก เช่น นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร สภาพทั่วไปของการปลูก ชาวสวนจะยกร่อง มีน้ำหล่อตรงกลาง อย่างไรก็ตาม พื้นที่สภาพไร่ก็มีปลูกเช่นกัน ปัจจัยที่จะหนุนส่งให้การปลูกชมพู่ประสบผลสำเร็จคือแหล่งน้ำ ไม้ผล ชนิดนี้ หลังปลูกจะให้ผลผลิตเร็ว เพียงปีเศษๆ เจ้าของก็เก็บผลผลิตได้แล้ว จากนั้นก็เก็บผลผลิตไปนาน เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มภาคกลางและภาคตะวัน ตก เป็นเกษตรกรหัวไวใจสู้ เปลี่ยนแปลงเร็ว อย่างปลูกลำไยเพชรสาครทะวายแล้วราคาตกต่ำ ก็จะหันมาปลูกชมพู่ หรือ ปลูกองุ่นแล้วต้นแก่ ก็หันมาปลูกชมพู่แทน เมื่อปลูกชมพู่สายพันธุ์ แรก รายได้ไม่ดี ก็ปลูกสายพันธุ์อื่นแทน เปรียบเทียบกับไม้ผลชนิด อื่น ชมพู่ถือว่าสร้างรายได้ให้กับผู้ปลูกไม่น้อย ดังนั้น จะเห็นว่า แถบอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เกษตรกรจะยืนหยัดผลิตชมพู่ โดยเกษตรกรรายหนึ่ง อาจจะหมุนเวียนปลูกมะพร้าวน้ำหอมแล้วมาปลูกชมพู่ หรือปลูกมะนาว เมื่อมะนาวอายุมากขึ้น ก็มาปลูกชมพู่แทน อย่างนี้เป็นต้น คุณ สุรินทร์ เกียรติหงสา เกษตรกรอยู่บ้านเลขที่ 321 หมู่ 4 ตำบลบ้านไร่ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ยึดอาชีพปลูกชมพู่มานาน สายพันธุ์ที่ปลูกอย่างเป็นล่ำเป็นสันคือทูลเกล้า เจ้าของบอกว่า ชมพู่ทูลเกล้า สามารถทำให้ออกนอกฤดูได้ดี ระยะต่อมา คุณสุรินทร์ จึงปลูกชมพู่ทับทิมจันท์ตามเพื่อนชาวสวนคนอื่นๆ แต่ยังคงชมพู่ทูลเกล้าไว้ส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้ว เกษตรกรที่เป็นเพื่อนบ้านของคุณสุรินทร์ จะโละชมพู่พันธุ์เก่าทิ้งทั้งหมด เมื่อปลูกพันธุ์ใหม่ สาเหตุที่เกษตรกรรายนี้ยังคงมีชมพู่ทูลเกล้าอยู่บ้าง เขาบอกว่า เพื่อลดความเสี่ยง อีกทั้งยังเป็นทางเลือกสำหรับผู้ซื้อ ใน ระหว่างที่คุณสุรินทร์ยกสวนใหม่ เพื่อปลูกชมพู่ทับทิมจันท์นั้น ชมพู่ที่ปลูกใหม่ได้ตายลงจำนวน 3-4 ต้น เจ้าของเห็นว่า มีชมพู่ที่เกิดจากเมล็ดขึ้นอยู่ข้างๆ ร่องสวน จึงขุดย้ายลงปลูกตำแหน่งที่ชมพู่ทับทิมจันท์ตาย "ชมพู่ที่ขึ้นเองจาก เมล็ดมีหลายต้น แต่ผมขุดขึ้นมาแซมต้นที่ตาย" คุณสุรินทร์บอก ชมพู่ ทับทิมจันท์ที่ปลูกให้ผลผลิตก่อนอย่างแน่นอน จากนั้นก็เป็นทีของชมพู่ที่ได้จากเมล็ดบ้าง มีชมพู่ที่ได้จากเมล็ดต้นหนึ่ง ลักษณะไม่เหมือนใคร เจ้าของจึงเฝ้าดูเป็นพิเศษ เพราะจะบอกว่าเป็นชมพู่ทูลเกล้าก็ไม่ใช่ จะเป็นทับทิมจันท์ก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ เพราะ คุณสมบัติที่โดดเด่น คุณสุรินทร์จึงได้ขยายพื้นที่ปลูก เมื่อมีผลผลิตแล้วทดลองนำออกเผยแพร่ดู ปรากฏว่ามีการตอบรับดี เมื่อ งานเกษตรแห่งชาติ วันที่ 28 มกราคม 2553 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าของได้นำชมพู่เข้าประกวด ปรากฏว่าได้ที่ 2 แพ้ชมพู่จากเพชรบุรีไปเส้นยาแดงผ่าแปด เจ้าของบอกว่า ชมพู่ที่เกิดจากเมล็ด น่าจะเป็นลูกผสมระหว่างชมพู่ทูลเกล้าและทับทิมจันท์ ลักษณะนั้น เจ้าของอธิบายว่า รูปทรงของผลคล้ายทับทิมจันท์ แต่ผิวผลเขียวกว่าชมพู่ทูลเกล้า บางฤดูกาล โดยเฉพาะอากาศเย็น จะขึ้นสีออกอำพัน จึงตั้งชื่อให้ชมพู่ว่า "เขียวอำพัน" ชมพู่เขียว อำพัน มีขนาดของผลที่ใหญ่สุดเคยชั่งได้ 4-6 ผล ต่อกิโลกรัม เนื้อกรอบนอก นุ่มใน เนื้อไม่เหนียว ก้นผลสีชมพู มีริ้วสีชมพูที่ผล ซึ่งชมพู่ทูลเกล้าไม่มี ความหวานหากเจ้าของสวนบำรุงรักษาดี ให้น้ำไม่มากนักก่อนเก็บเกี่ยว เคยวัดความหวานได้ 16 บริกซ์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ชมพู่ความหวานอยู่ที่ 14 บริกซ์ "ปลูกจากต้น เมล็ดมา 6 ปีแล้ว ปัจจุบันมีอยู่ 460 ต้น จุดเด่น ทำให้ออกนอกฤดูได้ง่าย พันธุ์อื่นตอนนี้เริ่มทำออกนอกฤดูยาก ทำแล้วผลสั้น" คุณสุรินทร์บอก สำหรับ ราคาซื้อขายนั้น เจ้าของบอกว่า เคยขายได้กิโลกรัมละ 60 บาท เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2553 วันไปสัมภาษณ์คุณสุรินทร์ ชมพู่ทับทิมจันท์ขายได้กิโลกรัมละ 20 บาท แต่เขียวอำพันขายได้ 40 บาท เจ้าของบอกว่า การผลิตชมพู่พันธุ์นี้ง่ายกว่าพันธุ์ทั่วไป โดยที่ดูแลรักษาคล้ายกัน แต่ได้ผลผลิตดีกว่า ผู้สนใจชมพู่พันธุ์นี้ สอบถามกันได้ตามที่อยู่ หรือ โทร. (086) 071-0950 ชมพู่ ผลไม้คุณค่าสูง ชมพู่ เป็นไม้ผลที่มีคนนิยมปลูกมาก เพราะปลูกง่าย โตเร็ว มีรสชาติหวานกรอบ มีวิตามินซีสูง นิยมนำไปฝากญาติมิตร เพราะเป็นผลไม้ที่ปลอดภัยแก่ผู้บริโภคเนื่องจากการปลูกชมพู่ต้องห่อผล ระยะเวลาการห่อผล 20-25 วัน ฤทธิ์ของสารเคมีต่างๆ หมดลงแล้ว หลังจากซื้อมาแล้วนำมาล้างผลด้วยน้ำสะอาดนิดหน่อย รับประทานได้เลย ชมพู่ จัดเป็นไม้ผลเมืองร้อน มีถิ่นกำเนิดแถบประเทศอินโดนีเซีย อินเดีย จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับหว้า และยูคาลิปตัส ชมพู่มีลำต้นค่อนข้าง ใหญ่ สูงประมาณ 15-25 เมตร ลำต้นขรุขระไม่ตรง แตกกิ่งก้านสาขามาก สีน้ำตาลคล้ำ ใบค่อนข้างใหญ่เรียวยาวเป็นมัน ดอกสีขาวเป็นแบบชนิดดอกสมบูรณ์เพศ ดอกใหญ่มีกลิ่นหอมเล็กน้อย ผลมีลักษณะคล้ายระฆังคว่ำ เนื้อสีขาวถึงขาวขุ่น ภายในผลหนึ่งๆ จะมี 1-3 เมล็ด เวลาแก่จัด เมล็ดจะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำตาลเข้ม สรรพคุณ ของชมพู่และวิธีใช้ ชมพู่มีสรรพคุณใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ส่วนที่ใช้เป็นยาคือ เนื้อของผลชมพู่ โดยนำเอาเนื้อของชมพู่มาทำเป็นยาบำรุงกำลัง ทำให้เกิดความสดชื่น เพราะมีกลิ่นหอม โดยการเอาเนื้อชมพู่แห้งมาบด หรือรับประทานสดก็ได้ จะเกิดความสดชื่นขึ้นมาทันที สามารถนำมาบำรุงหัวใจได้ เพราะชมพู่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คุณค่าทางโภชนาการในผลชมพู่ จะมีน้ำตาล วิตามินเอ (สูง) มีวิตามินซี และวิตามินอื่นๆ มีแร่ธาตุ เช่น ฟอสฟอรัส มีคาร์โบไฮเดรต และอื่นๆ ผลของชมพู่ มีสรรพคุณใช้เป็นยาชูกำลัง บำรุงหัวใจ และทำให้ชุ่มชื่น ใยของชมพู่ มีสรรพคุณใช้เป็นยาลดไข้ แก้ตาเจ็บ ส่วนเมล็ดชมพู่ ใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย วิธีทำน้ำชมพู่ ส่วน ผสม ชมพู่ 5 ผล น้ำเชื่อม 1/3 ถ้วย เกลือป่น 1/4 ช้อนชา และน้ำต้มสุก 2 ถ้วย วิธีทำ ให้ล้างชมพู่ให้สะอาด ผ่าเอาเมล็ดและไส้ออก หั่นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ลงในโถปั่น ใส่น้ำสุกแล้วปั่นให้เข้ากันดี จากนั้นใส่น้ำเชื่อม เกลือป่น แล้วจึงปั่นอีกครั้งหนึ่ง ให้เข้ากันให้ดี ใส่น้ำแข็งดื่มขณะเครื่องดื่มกำลังเย็น สดชื่น ชุ่มชื่นหัวใจ
วิธีแก้ไข :
 
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
อำเภอ / เขต :
จังหวัด :
ราชบุรี
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคกลาง
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน : วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 22 ฉบับที่ 479
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM