เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
ครูประสาน ทุมมา คว้ารางวัลที่ 1 "มะปรางยักษ์" 3 ปี เผยเทคนิคทำ มะปราง-มะยงชิด
   
ปัญหา :
 
 
เรื่องราวของ "มะปรางยักษ์" จากงานการประกวด "มะปรางหวาน มะยงชิด ของดีจังหวัดนครนายก" ในครั้งนี้ค่อนข้างชวนให้สนเท่ห์สักเล็กน้อย "เทคโนโลยีชาวบ้าน" ได้ไปเยี่ยม "สวนครูประสาน" ซึ่งเป็นของ คุณครูประสาน ทุมมา อดีตคุณครูที่อิ่มตัวกับชีวิตของการเป็นครู หันหน้ามาเอาดีทางทำสวนเกษตรปลูกมะยงชิด มะปรางหวาน อยู่ที่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ซึ่งสวนของคุณครูประสานนี้สามารถคว้ารางวัลที่ 1 ประเภท "มะปรางยักษ์"

รางวัล การประกวดผลไม้ประเภทมะปรางยักษ์ของคุณครูประสานนั้น ผลไม้ที่คุณครูประสานส่งเข้าประกวดแล้วได้รับรางวัลก็คือ มะยงชิด คุณครูประสานจึงอธิบายคลายความสนเท่ห์ กล่าวคือ

งานการประกวดมะยงชิด มะปรางหวานของจังหวัดนครนายกที่จัดเป็นงานประจำปีต่อเนื่องเรื่อยมาในช่วงผล ผลิตมะยงชิด มะปรางหวาน ออกสู่ท้องตลาดราวปลายเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี การประกวดมะยงชิด มะปรางหวาน จัดโดยชมรมชาวสวนมะปราง-มะยงชิด จังหวัดนครนายก คณะกรรมการได้วางกติกาให้เกษตรกรส่งผลผลิตเข้าประกวด 4 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 มะปรางหวาน ประเภทที่ 2 มะยงชิด ประเภทที่ 3 มะปรางยักษ์ และประเภทที่ 4 คือประเภทกิ่งทาบ

กติกายังระบุต่อไปว่า การประกวดมะปรางหวานกับมะยงชิด ประเภทที่ 1-2 นั้น ให้ส่งผลผลิตเข้าประกวดชุดละ 12 ผล ส่วนประเภทที่ 3 คือ มะปรางหวานส่งผลผลิตเข้าประกวด 5 ผล

หลักเกณฑ์การตัดสินประเภท มะยงชิดกับมะปรางหวาน กรรมการจะให้คะแนนที่ทรงผลเสมอกัน ดูรูปลักษณ์และสีสันภายนอก ส่วนภายในดูที่เมล็ด รสชาติ ความหวาน รวมเป็นคะแนนออกมา ใครได้คะแนนสูงสุดคือ ผู้ชนะเลิศ และรองชนะเลิศตามลำดับ

ส่วน มะปรางยักษ์ซึ่งให้ส่งเข้าประกวด 5 ผล นั้น กติการะบุไว้ว่า ให้ส่งมะปรางหรือมะยงชิดอย่างใดอย่างหนึ่งเข้าประกวดก็ได้ แต่ต้องชุดละ 5 ผล คณะกรรมการจะตัดสินกันที่น้ำหนักรวมทั้ง 5 ผล ชุดไหนได้น้ำหนักรวมมากที่สุด ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศตามลำดับ "สวนครูประสาน" ได้น้ำหนักรวม 5 ผล 7 ขีด คว้าโล่รางวัลประเภทมะปรางยักษ์มาครอง

สำหรับข้อกังขาที่ว่าชื่อของ ประเภทการประกวดคือ มะปรางยักษ์ แต่ทำไม จึงให้มะยงชิดเข้าประกวดได้ ซึ่งมะยงชิดก็ต้องคว้ารางวัลแน่นอน "คุณครูประสาน" กล่าวว่า มะปรางเป็นผลไม้ดั้งเดิมที่เข้ามาเผยแพร่ในจังหวัดนครนายก ต่อมาจึงมี "มะยงชิด" สายพันธุ์ต่างๆ เกิดขึ้นในภายหลัง คณะกรรมการจึงเห็นว่าน่าจะใช้ คำว่า "มะปราง" กับทั้ง คำว่า "มะปราง" ก็เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนครนายก การจัดงานก็ใช้ชื่องานว่า "งานมะปรางหวาน-มะยงชิด ของดีเมืองนครนายก" กับอีกประการหนึ่งคือ มะยงชิดก็แยกมาจากมะปราง โดยรวมแล้วมะปรางเป็นแม่พันธุ์ คือต้นกำเนิดของมะยงชิด

ส่วนชื่อของ ประเภทนั้น หากจะกำหนดให้เป็นมะปรางยักษ์อย่างเดียวคงไม่มีมะปรางผลใหญ่มากๆ มาประกวด จะมีก็แต่มะยงชิดที่ผลใหญ่เท่านั้น คณะกรรมการชมรมจึงเห็นว่า น่าจะใช้ชื่อประเภทการประกวดว่า "มะปรางยักษ์" แต่เกษตรกรสามารถส่งมะยงชิดเข้าประกวดได้ หากอนาคตข้างหน้าเกิดมีมะปรางยักษ์จริงๆ ก็จะแยกประเภทเป็นมะปรางยักษ์ และมะยงชิดยักษ์กันต่อไป

คุณครูประสาน ไขข้อข้องใจอย่างยืดยาวเพื่อให้ทุกฝ่ายคลายข้อสนเท่ห์ในใจลงไป สำหรับ "สวนครูประสาน" นั้น เจ้าตัวบอกว่า ปลูกมะยงชิดไว้ 12 ไร่ มีมะยงชิดกับมะปราง ประมาณ 1,000 กว่าต้น แยกเป็นมะยงชิดประมาณ 700-800 ต้น นอกนั้นเป็นมะปราง

คุณครูประสาน กล่าวต่อไปอีกว่า เดิมทีทำสวนมะม่วงมาก่อน ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นสวนมะยงชิด เห็นเขาปลูกแล้วได้ดีก็เลยปลูกตามเขาบ้าง แล้วก็ได้ดีจริงๆ เริ่มทำสวนมะยงชิดมาตั้งแต่ ปี 2536 ค่อยๆ พัฒนาสวนเรื่อยมา มะยงชิดที่ปลูกใช้พันธุ์ทูลเกล้า เป็นพันธุ์ดั้งเดิมของจังหวัดนครนายก

ความ สำคัญของการปลูกมะยงชิดให้ได้ดีนั้น คุณครูประสาน บอกว่า ประการแรกต้องใช้มะยงชิดสายพันธุ์ดี ประการที่ 2 ต้องบำรุงดูแลดี ประการที่ 3 ต้องให้ปุ๋ย และป้องกันโรคแมลงดี หากทำครบทั้ง 3 ประการนี้ จึงจะประสบความสำเร็จได้ผลผลิตมะยงชิดมีคุณภาพดี

ในเรื่องราวของสาย พันธุ์ต้องซื้อจากสวนที่น่าเชื่อถือ มีต้นแม่พันธุ์ที่ดี ตรงนี้เกษตรกรต้องพิจารณาให้รอบคอบ ผู้จำหน่ายกิ่งพันธุ์ก็ต้องมีคุณธรรม จัดหากิ่งพันธุ์ดีมาจำหน่ายให้ลูกค้าด้วย

พอได้กิ่งพันธุ์ดีมาแล้ว ก็นำไปปลูกในแปลงได้เลย วิธีการปลูกมีเทคนิคเล็กน้อยคือ หลุมปลูกต้องไม่ลึก ขุดหลุมปลูกไม่ต้องกว้าง ถ้าขุดหลุมปลูกลึกและกว้างมาก จะทำให้น้ำเข้าไปแฉะอยู่ก้นหลุม ทำให้ระบบรากเน่าได้ ต้นจะไม่โต และตายในที่สุด เอากิ่งพันธุ์ลงปลูกแกะถุงชำออกก่อน ยกโคนกิ่งพันธุ์ให้สูงกว่าพื้นดินเล็กน้อยหรือเสมอพื้นดิน แล้วกลบโคนให้แน่น อย่ากลบโคนทับรอยทาบที่กิ่งพันธุ์เป็นอันขาด หาไม้หลักปักยึดป้องกันกิ่งโยกคลอน เวลาลมพัดแรงจะทำให้ระบบรากขยับไปมาได้ไม่ดี มะยงชิดไม่ชอบแฉะอย่าให้น้ำท่วมขังโคนต้นได้

หลังปลูกเสร็จรดน้ำไม่ ต้องมากพอชุ่มเท่านั้น ให้น้ำวันเว้นวัน จนดินรัดรากดีต้นจะแตกใบอ่อนออกมา ตรงนี้สำคัญมาก คุณครูประสาน บอกว่า

"เราต้องรักษายอดอ่อน ใบอ่อน ให้ดีที่สุด ช่วงนี้จะมีหนอนและแมลงมากัดกินใบอ่อน เกษตรกรต้องฉีดยากำจัด อย่าให้ใบอ่อนเสียหาย จะทำให้การเจริญเติบโตของต้นชะงัก"

เมื่อรักษา ใบอ่อนไว้ได้ ต้นจะเจริญเติบโตสูงขึ้นแล้วก็แตกใบอ่อนอีก เกษตรกรก็ต้องรักษาใบอ่อนเช่นเดิม การเจริญเติบโตของมะยงชิดอยู่ที่การแตกยอดอ่อนนี่แหล่ะ หลังจากใบอ่อนเพสลาดก็ให้ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ เป็นการเร่งให้ต้นแตกยอดอ่อนชุดใหม่ออกมาอีก 1 ปี ต้นมะยงชิดจะแตกยอดอ่อนประมาณ 2-3 ครั้ง ในช่วงฤดูแล้ง พอเข้าฤดูฝนต้นจะหยุดการแตกยอดอ่อน จะไปแตกอีกครั้งก็เมื่อหมดฝนเข้าฤดูหนาวจนถึงฤดูแล้ง การบำรุงต้นให้ปุ๋ยรดน้ำสม่ำเสมอ ต้นก็จะแตกยอดอ่อนออกมา

พอถึงช่วง มะยงชิดต้นโตเต็มที่ ประมาณ 3-4 ปี ได้เวลาจะเอาผลผลิต ก่อนหมดฝนใส่ปุ๋ยบำรุงต้นให้เต็มที่ รดน้ำให้ชุ่ม ไม่ให้ต้นแตกใบอ่อนออกมาอีก เมื่อต้นจะสมบูรณ์เต็มที่พอลมหนาวกระทบลงมาอุณหภูมิอยู่ที่ 20-23 องศาเซลเซียส ต้นก็จะติดตาดอกทันที มะยงชิดติดตาดอกง่าย เพียงแค่ได้อุณหภูมิความหนาวเย็นได้ที่เท่านั้น ต้นก็ติดตาดอกแล้ว

หลัง ติดตาดอกก็ต้องดูแลแมลงและหนอน ระวังเพลี้ยไฟให้ดีๆ ฉีดยากำจัดก่อนดอกบาน พอดอกบานเว้นช่วงให้ผสมเกสรก่อน จนกระทั่งติดผลเล็กๆ ฉีดยาป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟและแมลงสัปดาห์ละครั้ง เสริมด้วยฮอร์โมนบ้าง ไม่ต้องมาก จนกระทั่งผลโตการฉีดยาต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

คุณครูประสาน กล่าวต่อไปอีกว่า กำหนดระยะเวลาการเก็บผลผลิตมะยงชิด ให้เริ่มนับ 1 ตั้งแต่วันติดดอกนับไป 75-80 วัน สามารถเก็บผลผลิตและกำหนดจัดงานประกวดได้เลย

สำหรับทางดินก่อนหนาวมา ต้องงดให้น้ำ ให้ปุ๋ย ประมาณ 1-2 สัปดาห์ พอหนาวมาต้นติดตาดอกจึงโชยน้ำพอดินชื้นๆ จนกระทั่งต้นติดเป็นผล ใส่ปุ๋ย สูตร 16-16-16 และปุ๋ยเม็ดชีวภาพ 15 วันครั้ง ใช้วิธี "ใส่น้อยๆ แต่บ่อยครั้ง" ส่วนปุ๋ยหวานไม่ต้องใส่มะยงชิดหวานโดยสายพันธุ์อยู่แล้ว

หลัง เก็บผลผลิต ตัดแต่งกิ่งภายในให้โล่งโปร่ง แล้วใส่ปุ๋ยคอกกับปุ๋ยสูตร 16-16-16 ต้นก็จะแตกยอดอ่อนออกมา คราวนี้จะต้องดูแลยอดอ่อนกันอีกครั้ง เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตสมบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้น หากทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ท่านก็จะประสบความสำเร็จในการปลูกมะยงชิด

"สวนครูประสาน"" มีผู้ไปดูงาน ไปเยี่ยมชมสวนตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงมะยงชิดกำลังติดผลเหลืองสวยสดทั้งต้น มีคณะทัวร์ไปเยี่ยมชมกันมาก เกษตรกรท่านใดสนใจจะคุยกับคุณครูประสาน หรือคณะทัวร์จะเตรียมการไว้ปีหน้าพาลูกทัวร์ไปเที่ยว ติดต่อกันเองได้เลย ที่โทร. (081) 773-3111 คุณครูประสาน บอกมา ยินดีต้อนรับตลอด 24 ชั่วโมง ครับผม
วิธีแก้ไข :
 
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
อำเภอ / เขต :
จังหวัด :
นครนายก
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคกลาง
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน : วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 22 ฉบับที่ 480
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM