เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
กล้วยพัดแดง ไม้ประดับแปลกใหม่ มีอยู่ที่สวนบัวบุศย์ หนองแซง
   
ปัญหา :
 
 
อำเภอ เสาไห้ จังหวัดสระบุรี เป็นแหล่งปลูกข้าวของที่ราบลุ่มภาคกลาง มีพันธุ์ข้าวที่มีชื่อเสียงรู้จักกันดีคือ ข้าวพันธุ์เสาไห้ มีคุณสมบัติเด่น เป็นข้าวที่หุงขึ้นหม้อ ไม่นิ่มมาก ส่วนใหญ่คนที่มีอาชีพเกษตรกรรมมักจะเอาข้าวที่มีลักษณะอย่างนี้ไว้หุงกิน ประจำบ้าน เพราะข้าวหอมมะลิ หุงแล้วจะค่อนข้างนิ่ม กินแล้วไม่อยู่ท้อง ส่วนอำเภอหนองแซงก็มีชื่อเสียงทางมะม่วง คือมะม่วงหนองแซง แต่ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกค่อนข้างน้อยแล้ว เพราะมะม่วงพันธุ์นี้ได้กระจายพันธุ์ไปปลูกทั่วประเทศ วันนี้เรา มีโอกาสไปเที่ยวสวน "บัวบุศย์" ของ คุณมนู บัวบุศย์ ซึ่งไม่ได้ปลูกบัวจำหน่าย แต่ไม้เด่นในสวนเป็นกล้วยพัดและปาล์ม สวนนี้อยู่บ้านเลขที่ 32 ตำบลหนองแซง อำเภอหนองแซง ห่างจากตัวอำเภอหนองแซงมาประมาณ 2 กิโลเมตร ในเนื้อที่ทั้งหมด 17 ไร่ ซึ่งอยู่กลางท้องนา คุณมนูได้ปรับปรุงพื้นที่ด้วยการขุดสระในเนื้อที่ 1 ไร่ นำดินมาถมพื้นที่ให้มีระดับสูงกว่าท้องนาบริเวณข้างๆ เพื่อฤดูฝน น้ำจะได้ไม่ท่วมเข้ามาในสวน สระน้ำนี้เป็นสระที่นำน้ำมารดต้นไม้และใช้ในสวน เพราะนอกจากต้นไม้แล้ว ยังมีฟาร์มเลี้ยงไก่ชนและฟาร์มวัวสวยงามอีกด้วย สระนี้ในหน้าแล้งทางราชการจะปล่อยน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มาเพื่อให้ เกษตรกรสูบเข้าในสระของตัวเองเพื่อใช้ในการเกษตรยามขาดแคลน กล้วยพัดแดง เพิ่งค้นพบใหม่ กล้วย พัดแดง นี้ เป็นต้นไม้ที่เพิ่งค้นพบใหม่มาเมื่อไม่กี่ปีเอง ซึ่งเป็นไม้พื้นเมืองของประเทศมาดากัสการ์ เป็นเกาะอยู่ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา คุณมนู เล่าให้ฟังว่า "เดิมนักวิชาการเชื่อว่ากล้วยพัดเขียว (Ravenala madagascariensis) เป็นพันธุ์เดี่ยว ไม่มีพี่น้อง กล้วยพัดแดงอยู่ในวงศ์ Strelitziaceae ซึ่งเป็นสกุลเดียวกับปักษาสวรรค์ (Bird of paradise) และดอกมีลักษณะคล้ายกัน ขนาดต้นสูงเมื่อสมบูรณ์เต็มที่ 7-10 เมตร มีความสวยงามเหมือนกล้วยพัดเขียว แต่จะเด่นตรงที่ว่าก้านจะเป็นสีแดง ถ้าต้นมีอายุมาก ก้านจะมีสีแดงเข้มกว่าต้นที่อายุน้อย ลักษณะช่องของกาบใบกล้วยพัดจะสามารถกักเก็บน้ำฝนไว้ได้จำนวนมากเพียงพอ สำหรับดื่มและเป็นแหล่งเก็บน้ำตามธรรมชาติให้นักเดินป่าเมื่อเวลาหิวน้ำ จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Traveller"s palm หรือ Traveller"s tree" นำเข้ามาจากมาดากัสการ์ กล้วย พัดเขียว นี้ ผมเคยเห็นครั้งแรกก็เป็นรูปกล้วยพัดเขียวที่ปลูกอยู่ในวัดเบญจมบพิตรและใน พระราชวัง ดูสูงค่าเหมือนนกยูงรำแพนหาง นำเข้ามาปลูกในเมืองไทยน่าจะเกิน 50 ปีแล้ว สำหรับกล้วยพัดแดงนี้ คุณมนู เล่าว่า "ผมทราบจากเพื่อนชาวออสเตรเลียว่า มีกล้วยพัดแดงที่เกาะมาดากัสการ์ จึงเสาะหามาได้อย่างลำบาก ชุดแรกได้มาหลายหมื่นเมล็ด ปรากฏว่างอกแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ และต่อมาเมื่อเป็นต้นกล้าก็ยังมีเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง นี่เป็นการสั่งเข้ามาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ต่อมาสั่งเข้ามาอีกในครั้งที่ 2 และที่ 3 กลายเป็นกล้วยพัดเขียว ซึ่งผู้จำหน่ายแจ้งว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้เก็บเมล็ด แต่ก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไร ลักษณะของเมล็ดกล้วยพัดเขียวและกล้วยพัดแดงมีลักษณะเหมือนกันทั้งสีและขนาด ทำให้ไม่สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจน จนกว่าจะออกมาเป็นต้นแล้ว ขนาดของเมล็ดเท่าปลายนิ้วก้อย มีขนปุยสีเงินติดมาด้วย ผมไม่เคยเห็นดอกที่อยู่ติดต้นเลย เข้าใจเอาเองว่า น่าจะติดเป็นผลเลย กล้วยพัดนี้ต้องมีอายุเกิน 10 ปีขึ้นไป จึงจะติดผล" การขยายพันธุ์ ต้องใช้เมล็ดเท่านั้น โดย ปกติกล้วยต่างๆ เมื่อมีหน่อเราก็แซะหน่อออกมาปลูกก็เป็นเรื่องที่ง่าย แต่สำหรับกล้วยพัดแดงหรือกล้วยพัดเขียว เมื่อต้นมีขนาดใหญ่จึงจะแตกหน่อ แต่เราไม่สามารถจะนำหน่อมาปลูกได้ เนื่องจากเมื่อแซะออกมาแล้วพบว่าหน่อไม่มีราก เมื่อนำมาปลูกก็ทำให้ตาย จึงจะต้องใช้เมล็ดในการขยายพันธุ์ วิธีการเพาะเมล็ดของกล้วยชนิดนี้คือ ให้นำเมล็ดแช่น้ำ 2-3 วัน แล้วนำเมล็ดขึ้นมาแช่ยากันราชนิดใดก็ได้ และแช่น้ำยาเร่งรากอีกประมาณครึ่งชั่วโมง จึงนำไปเพาะในถุงดำ โดยใช้วัสดุปลูกเป็นแกลบดำเพียงอย่างเดียว ระหว่างนี้ก็รดน้ำวันละครั้ง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน กล้าชุดแรกๆ จะทยอยงอก และชุดต่อๆ ไปก็จะทยอยงอกอีก 2-3 ชุด หลังจากนี้ จะงอกบ้างเล็กน้อยตลอดไปเป็นปีเมื่อต้นมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะนำมาใส่ถุงขนาดใหญ่ขึ้น โดยใช้วัสดุปลูก คือ ใบก้ามปู มะพร้าวสับปุ๋ยคอก ดิน แกลบดำ แกลบขาว พอโตได้สักระยะหนึ่ง ควรจะนำมาปลูกลงดิน เพราะต้นขนาดเดียวกันปลูกในกระถางจะสูงได้ไม่ถึง 1 เมตร แต่ถ้าปลูกลงดินใช้ระยะเวลาเท่ากันสูงเกิน 2 เมตร แล้วเท่าที่เห็นในสวนจะเห็นต้นกล้วยพัดแดงอยู่ในภาชนะปลูกต่างๆ กัน ถ้าอยู่ในกระถางใหญ่ต้นก็จะใหญ่ อยู่ในกระถางเล็กต้นก็ยังเล็ก ตอนแรกนึกว่าปลูกกันคนละรุ่น ที่ไหนได้คุณมนูบอกว่าเป็นไม้รุ่นเดียวกัน ถ้าเราไม่ขยายกระถางต้นก็จะไม่โต ต้นเล็กในกระถางนี้ถ้าเอาลงดิน ใช้เวลาไม่นานต้นก็จะโตทันกัน แบบนี้ก็สะดวกดี เพราะไม่ต้องซื้อต้นใหญ่มาก แต่ถ้าจะใช้จัดสวนเลยก็ต้องใช้ต้นขนาดใหญ่เลย กล้วยพัด จะต้องปลูกในที่แสงแดดจัด จึงจะโตได้เร็ว และเชื่อว่าบ้านใดปลูกกล้วยพัดจะช่วยป้องกันเสนียดจัญไรทำให้บ้านร่มเย็น เพราะคำว่า "พัด" จึงถือเป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่ง ในการปลูกต้องดูสถานที่ให้ดี เพราะเมื่อกล้วยพัดเจริญเติบโตจะแผ่ใบไปได้กว้าง ซึ่งไม่ควรจะมีอะไรมาบดบังใบ ทำให้ดูเด่น ราคาจำหน่ายของกล้วยพัดแดงในกระถาง ต้นสูงขนาด 80-120 เซนติเมตร ขึ้นไป ราคาตั้งแต่ 1,200-2,500 บาท ปาล์มสูญพันธุ์แล้วเพิ่งค้นพบใหม่ มี ปาล์มอีกต้นหนึ่งในสวนคือ คาร์ปอกซีลอน (Carpoxylon macrospermum) หรืออีกชื่อ Aneityum palm ซึ่งตั้งตามชื่อเกาะที่ค้นพบ และได้สูญพันธุ์จากเกาะนั้นเมื่อ ปี ค.ศ.1859 เพราะชาวพื้นเมืองได้โค่นทิ้งเพื่อปลูกพืชไร่ชนิดอื่นๆ จนกระทั่งต่อมาในปี ค.ศ. 1987 นักพฤษศาสตร์ชาวออสเตรเลีย ชื่อ L. Dowe ได้ค้นพบอีกครั้ง ที่เกาะวานูอาตู ในหมู่เกาะทะเลใต้ มีจำนวนทั้งหมด 150 ต้น ทางการของประเทศวานูอาตูจึงสงวนไว้ ห้ามส่งออก และเพิ่งอนุญาตให้ส่งออกได้ เนื่องจากมีการขยายพันธุ์จนมั่นใจว่าไม่สูญพันธุ์แน่นอนแล้ว เมื่อ 5-6 ปี ที่ผ่านมานี่เอง คาร์ปอกซีลอน มีโคนต้นคล้ายคนโทน้ำ โคนต้นใหญ่เป็น 2 เท่า ของลำต้น มีคอยาวสีเขียวคล้ายสีต้นกล้วย ใบยาวโค้ง เป็นปาล์มที่เจริญเติบโตค่อนข้างเร็ว ปลูกเลี้ยงง่าย เพราะมีรากเป็นจำนวนมาก เหมาะสำหรับเป็นไม้จัดสวน ราคาจำหน่าย ต้นละ 20,000 กว่า ปาล์มชนิดนี้ปลูกด้วยเมล็ดเช่นกัน ลักษณะเมล็ดจะยาวเรียวเล็กกว่าเมล็ดของฟอกซ์เทล มีเปลือกหุ้มเหมือนเปลือกมะพร้าว ต้องแช่น้ำประมาณ 3 วัน จึงค่อยนำมาเพาะในแกลบดำ ใช้เวลาไม่ถึงเดือน เมล็ดก็จะงอกให้เห็น อัตราการงอกของคาร์ปอกซีลอน มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ต้นกล้าที่ได้ก็เลี้ยงง่าย โตค่อนข้างเร็ว โรคแมลงรบกวนก็ไม่มี ปาล์มอ้ายหมี ไม้ ชนิดแปลกๆ มีให้ชมในสวนคุณมนูอีกอย่างหนึ่งคือ ปาล์มอ้ายหมี หรือ หมีเวียน (Copermida macroglossa) หรือชื่อสามัญ Cuban Petticoat Palm เป็นปาล์มต้นเดี่ยวที่เจริญเติบโตช้ามาก ลำต้นขนาด 30-40 เซนติเมตร ใบเป็นรูปพัดแผ่กางออก ปลายหยักเว้าลึก มองไม่เห็นก้านใบ เพราะใบแผ่คลุมรอบ เหมาะสำหรับปลูกในกระถาง เพราะค่อยๆ โต จึงปลูกในกระถางได้นาน ปาล์มชนิดนี้เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศคิวบา ชอบดินร่วนปนทรายและแสงแดดจัด ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 4,000-120,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีปาล์มบูเทีย และเบิร์ดยักษ์ จำหน่ายอีกด้วย สวนบัวบุศย์ ของคุณมนูตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนา แสงแดดที่ได้รับค่อนข้างจ้า ลมพัดถ่ายเทตลอดเวลา และในที่ดินยังขุดสระน้ำไว้กลางที่ จึงทำให้บรรยากาศร่มรื่น ต้นปาล์มขนาดใหญ่ และต้นหูกระจงปลูกเรียงรายตามทางเดินอย่างสวยงาม ในที่ 17 ไร่ มีต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกลงดินสำหรับขุดล้อม และที่ปลูกในกระถางจำนวนมากมาย ทำให้ดูแคบไปถนัดตา สนใจต้นไม้แปลกๆ สำหรับจัดสวน ติดต่อได้ที่ คุณมนู บัวบุศย์ หมายเลขโทรศัพท์ (081) 442-4119 หรือ คุณไฉน ผู้จัดการสวน โทร. (087) 662-9542 หรือ โทร. (089) 501-2230
วิธีแก้ไข :
 
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
อำเภอ / เขต :
จังหวัด :
สระบุรี
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคกลาง
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน วันที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 23 ฉบับที่ 490
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM