เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
“กล้วยหอมทอง” ไม้ผลทำเงิน ที่ จังหวัดสกลนคร
   
ปัญหา :
 
 
สกลนคร เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคอีสาน แต่พื้นที่ปลูกข้าวส่วนใหญ่มักเผชิญ ฝนแล้ง น้ำท่วม แถมเจอปัญหาโรคแมลงศัตรูพืชรบกวน ทำให้ได้ผลผลิตต่ำ เพียง 301-450 กิโลกรัม ต่อไร่ เท่านั้น หากหวังรายได้จากการทำนาปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว คงลืมตาอ้าปากได้ยาก พี่ไมตรี อุปสัย วัย 50 ปี ที่อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 5 ตำบลพังโคน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร โทร. (086) 231-7987 ก็เคยประสบปัญหาเรื่องรายได้ เนื่องจากปลูกข้าวเป็นพืชเชิงเดี่ยว ทำให้มีรายได้น้อยไม่พอเลี้ยงครอบครัว แถมยังมีปัญหาหนี้สินรุงรัง เมื่อ 3 ปีก่อน พี่ไมตรีได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดหันมาทำไร่นาสวนผสม ปรากฏว่า ประสบความสำเร็จดี มีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยพืชทำเงินที่สร้างผลกำไรก้อนโตให้แก่พี่ไมตรี คือ “กล้วยหอมทอง” พี่ไมตรีลงทุนเดินทางไปถึงจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกล้วยหอมทอง เกรด เอ ที่ให้ผลผลิตสูง รสชาติดี และผลโต เพื่อหาซื้อหน่อพันธุ์กล้วยหอมทอง เกรด เอ ราคาหน่อละ 3 บาท ประมาณ 200 ต้น นำกลับมาปลูกที่บ้าน ในจังหวัดสกลนคร การปลูกกล้วยหอมทอง ทำได้ง่าย เริ่มจาก กำหนดระยะปลูกระหว่างแถวและต้น 2x2 เมตร ขุดหลุมปลูก กว้าง ยาว ลึก 30x30x30 เซนติเมตร นำหน่อพันธุ์ที่แข็งแรงสมบูรณ์ ลงไปปลูก กลบดินและกดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น คลุมดินด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง และรดน้ำให้ชุ่ม โดยทั่วไป ต้นกล้วยจะตั้งต้นได้ภายใน 1 เดือน เนื่องจากกล้วยหอมทองมีลำต้นสูง 2.5-3.5 เมตร ประกอบกับสวนแห่งนี้อยู่ในทำเลลม มีลมพัดแรงตลอด พี่ไมตรี จึงต้องใช้ไม้ค้ำยัน ดามกล้วยทุกต้นที่ออกปลีแล้ว เพื่อป้องกันลำต้นหักล้ม การดูแลรักษา สวนกล้วยหอมทอง ต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอตลอดฤดูปลูก เมื่อหน้าดินแห้งต้องรีบให้น้ำ พี่ไมตรีเล่าว่า ผมให้น้ำในแปลงปลูกกล้วยด้วยอย่างสม่ำเสมอ ยกเว้นช่วงฤดูฝน ส่วนช่วงฤดูแล้ง จะต้องให้น้ำต้นกล้วยอย่างสม่ำเสมอ ประมาณวันละ 10-20 นาที เว้นไป 2-3 วัน จึงค่อยให้น้ำรอบใหม่ ส่วนการให้ปุ๋ย เลือกใช้ปุ๋ยเคมี สูตรยูเรีย 46-0-0 ประมาณ 1 กำมือ โรยบางๆ ใส่รอบโคนต้น บำรุงเสริมด้วยปุ๋ยคอก ใส่ได้เรื่อยๆ ประมาณ 1-2 กิโลกรัม ต่อต้น เมื่อต้นกล้วยอายุประมาณ 4-5 เดือน จะเปลี่ยนมาใส่ปุ๋ยเคมี สูตรเสมอ 15-15-15 ใส่ประมาณ 1 กำมือ ต่อต้น เนื่องจากพี่ไมตรีเลือกใช้หน่อกล้วยที่มีลักษณะแข็งแรงสมบูรณ์ดี ต้นกล้วยหอมทองจึงให้ผลผลิตที่ค่อนข้างเร็ว ประมาณ 5 เดือน หลังจากปลูก กล้วยจะเริ่มแทงปลีออกมา พี่ไมตรีจะใส่ใจดูแลให้ปุ๋ยบำรุงต้นกล้วยหอม เพื่อให้สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเดือนที่ 8 แต่ก่อนพี่ไมตรีเคยห่อเครือกล้วยหอมทองเพื่อช่วยให้ผลกล้วยหอมทองมีผิวสวย ตามที่เกษตรกรรุ่นพี่แนะนำมา แต่พบว่า กล้วยหอมทองห่อเครือกับกล้วยหอมที่ปลูกด้วยวิธีปกติ จะมีราคาขายเท่าๆ กัน ระยะหลัง พี่ไมตรีจึงเลิกห่อเครือกล้วย ทำให้มีนกแอบทำรังที่เครือกล้วย และเกิดรอยขูดขีดบนผิวกล้วยหอมบ้าง เมื่อถึงเวลาที่ตัดเครือกล้วยออกแล้ว พี่ไมตรีจะตัดต้นแม่ออก เพื่อลดความหนาแน่นและการแข่งขันในการหาอาหาร โดยตัดต้นกล้วยให้เหลือตอสูงประมาณ 1.5-2 เมตร เพื่อให้หน่อที่แตกใหม่มีอาหารที่สมบูรณ์และน้ำที่ถูกกักเก็บไว้ในตอกล้วยจะช่วยเลี้ยงหน่อไม่เกิน 2 หน่อ เพื่อให้ต้นกล้วยเจริญต่อไปได้ การเลี้ยงตอนั้นจะเลี้ยงไว้จนตอแห้งแล้วจึงตัดออก พี่ไมตรีเล่าว่า สวนแห่งนี้ ผมปลูกกล้วยหอมเพิ่มเติมหลายรุ่น เพื่อให้มีผลผลิตทยอยเข้าสู่ตลาดในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องแทบทุกวัน กล้วย 1 เครือ จะมีประมาณ 5-7 หวี แบ่งขายในราคาหวีละ 50 บาท เท่านั้น ถือว่าขายราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับท้องตลาดทั่วไปที่ขายในราคาหวีละ 70 บาท นอกจากขายถูกแล้ว ยังมีรสชาติอร่อย เป็นที่ถูกใจของคนซื้อ ผลผลิตมีเท่าไหร่ก็ขายได้หมด ปัจจุบัน พี่ไมตรีปลูกกล้วยหอมทองไปแล้วประมาณ 700 ต้น เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตออกขาย จะมีรายได้เฉลี่ยต้นละ 250 บาท หากคำนวณคร่าวๆ เมื่อเก็บผลผลิตออกขายในแต่ละรอบ พี่ไมตรีจะมีรายได้มากกว่า 80,000 บาท ทีเดียว นอกจากขายกล้วยหอมแล้ว ยังมีรายได้จากการขายหน่อกล้วยหอมในราคาต้นละ 20 บาท ให้แก่เพื่อนเกษตรกรในท้องถิ่นและต่างอำเภอที่สนใจอยากปลูกกล้วยหอม ทุกวันนี้ พี่ไมตรีปลูกกล้วยหอมทองติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว และมั่นใจว่า เป็นการตัดสินใจลงทุนที่ไม่ผิดพลาด เพราะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี จนสามารถล้างหนี้เก่าได้ลดลงเรื่อยๆ เรียกได้ว่าการปลูกกล้วยหอมทอง สร้างรายได้ที่ดีกว่าการปลูกข้าวขายเสียอีก ทำให้พี่ไมตรีตัดสินใจขยายพื้นที่ปลูกกล้วยหอมเพิ่มขึ้น โดยทุ่มเงินทุนอีกประมาณ 10,000-20,000 บาท เพื่อปรับปรุงที่นาบางส่วนให้กลายเป็นแปลงร่องสวน ที่มีขนาดคันคู สูงประมาณ 70 เซนติเมตร สำหรับปลูกกล้วยหอมบนคันคู ส่วนร่องสวนที่ขุดใหม่ สามารถใช้เลี้ยงปลานิลแปลงเพศไปพร้อมๆ กัน สำหรับเนื้อที่ 1 ไร่ จะสามารถปลูกกล้วยหอมได้ประมาณ 400 ต้น คาดว่าภายใน 2 ปีข้างหน้า พี่ไมตรีจะมีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองไม่ต่ำกว่า 1,000 ต้น ทีเดียว ส่วนที่ว่างระหว่างแถวปลูกกล้วย พี่ไมตรีลงทุนทำแปลงปลูกเห็ดฟางเพื่อสร้างรายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง บังเอิญช่วงที่ผู้เขียนเข้าเยี่ยมชมสวนแห่งนี้ พี่ไมตรีได้เก็บเกี่ยวเห็ดฟางออกขายหมดแล้ว และกำลังเตรียมรื้อแปลงปลูก เพื่อเตรียมปลูกเห็ดฟางรอบใหม่ในช่วงปลายปี พี่ไมตรีกล่าวทิ้งท้ายว่า อาชีพการปลูกกล้วยหอมทอง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเกษตรกรไทยที่ต้องการเพิ่มพูนรายได้นอกเหนือจากการทำนา การปลูกกล้วยหอมทองเป็นเรื่องง่าย ใครๆ ก็ทำได้ ผมเชื่อว่า เกษตรกรไทยหากขยันและสู้งาน จะไม่มีวันยากจนอย่างแน่นอน หากผู้อ่านท่านใดสนใจอยากปลูกกล้วยหอมทอง สามารถแวะเข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้จากสวนแห่งนี้ พี่ไมตรียินดีต้อนรับผู้มาเยือนทุกท่าน หากใครไม่สะดวกในการเดินทาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. (086) 231-7987 ได้ทุกวัน พี่ไมตรี อุปสัย ยินดีแบ่งปันความรู้ให้แก่เพื่อนเกษตรกรทุกราย
วิธีแก้ไข :
 
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
อำเภอ / เขต :
จังหวัด :
สกลนคร
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM