เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
เกษตรกรชัยนาท ใช้ “กล้วยน้ำว้า” เลี้ยงปลาลดต้นทุน
   
ปัญหา :
 
 
คุณพะเยาว์และคุณประมวล รุ่งทอง (สองสามีภรรยา) อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าชัย อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท เป็นเกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณริมฝังแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งสองเป็นเกษตรหัวไว้ใจสู้พร้อมที่จะเปิดรับความรู้ใหม่ๆ กล้าที่จะทดลองและรับแนวทางการส่งเสริมพัฒนาอาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตร ปัจจุบันทั้งสองมีอาชีพเพาะเลี้ยงปลาในกระชังบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คุณประมวล(ภรรยา) เล่าให้ฟังว่า เดิมทีตัวเองมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าในหมู่บ้าน ส่วนคุณพะเยาว์(สามี)นั้นมีอาชีพเพาะเลี้ยงปลาในกระชังบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ด้วยอาชีพการเพาะเลี้ยงปลาในกระชังที่สามีทำอยู่นั้น ทุกวันยิ่งทำก็เริ่มแย่ลงๆ มีกำไรน้อย ขาดทุนบ้าง ได้กำไรบ้าง เพราะการเพาะเลี้ยงปลาในกระชังต้องใช้คนในการดูแลพอสมควร ลำพังจะให้สามีทำและดูแลคนเดียวก็ไม่ไหว ทำให้ตัวเองต้องตัดสินใจเลิกตัดเย็บเสื้อผ้าและหันมาช่วยสามีเพาะเลี้ยงปลาในกระชังเพียงอย่างเดียว คุณประมวล เล่าให้ฟังอีกว่า ตัวเองและสามีเริ่มเพาะเลี้ยงปลาในกระชังมาตั้งแต่ปี 2542 เริ่มแรกมีกระชังทั้งหมด 10 กระชัง ปลาที่เพาะเลี้ยงจะมีหลากหลายชนิดด้วยกัน ทั้ง ปลาดุก ปลาสวาย ปลาทับทิม ฯลฯ ใช้เวลาลองผิดลองถูกในเรื่องของวิธีการเพาะเลี้ยงมาหลายรอบกว่าจะประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงปลาในทุกวันนี้ ปัจจุบัน มีกระชังเพาะเลี้ยงปลาเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 19 กระชัง รวมทั้งหมดเป็น 29 กระชัง โดยแบ่งออกเป็นปลากรด 4 กระชัง,ปลากรดคลัง 4 กระชัง,ปลากรดหลวง 4 กระชัง, ปลาเบญจพรรณ 1 กระชัง,ปลาทับทิม 16 กระชัง “กล้วยน้ำว้า” เลี้ยงปลา ตัวโต เนื้อหวาน ขายได้ราคา สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงปลานั้นจะเป็นอาหารเม็ดทั่วๆไป โดยจะให้วันละ 3 เวลา (เช้า กลางวัน เย็น ) บวกกับรำข้าวผสมกับกล้วยน้ำว้าสุกบด(เสริมเฉพาะปลานิล ส่วนปลากรดหลวงจะหันเป็นชิ้นๆลักษณะกล้วยบวชชี) วันละ 1 เวลา ซึ่งเลือกในช่วงกลางวันเพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่สะดวกที่สุดของผู้เพราะเลี้ยงที่จะมีเวลาเตรียมบดกล้วย ในช่วงเช้า (เช้า, กลางวัน,เย็น ก็ได้ตามความสะดวกของผู้เลี้ยง) คุณประมวล เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของการนำกล้วยน้ำว้ามาเลี้ยงปลานั้น มาจากการเพาะเลี้ยงปลาในช่วงนั้น มีต้นทุนในการผลิตสูงในเรื่องของอาหาร ทำให้ไม่คุ้มต่อผลตอบแทนที่ได้มาในแต่ละครั้ง ทุกฟาร์มเกิดปัญหาเดียวกันหมด ทำให้ตนต้องหาหนทางลดต้นทุนการผลิตในเรื่องของอาหารลง จึงเกิดแนวคิดนำกล้วยมาเลี้ยงปลาขึ้น จากแนวคิดที่คิดแบบชาวบ้านทั่วๆไปและจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมาและเคยเห็นคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่ใช้กล้วยน้ำว้าบดผสมกับข้าวเลี้ยงเด็ก ก็ยังสามารถทำให้เด็กโตขึ้นมาได้ จึงได้ทดลองนำกล้วยน้ำว้าสุกมาบดผสมกับรำข้าวให้ปลากิน เริ่มแรกจะทดลงกับปลากรด ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ ปลามีขนาดใหญ่ รสชาติของเนื้อหวาน ได้คุณภาพกว่าปลาที่ไม่ได้เลี้ยงด้วยกล้วย ที่สำคัญลดต้นทุนการผลิตในเรื่องของอาหาร หลักจากที่เลี้ยงปลาด้วยกล้วยน้ำว้ามาได้ระยะหนึ่ง ก็เกิดเสียงตอบกลับมาจากผู้บริโภคว่าปลาในกระชังมีรสหวานและเนื้อแน่น ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น จากนั้นมาก็เริ่มนำกล้วยน้ำว้าสุกมาบดผสมกับรำข้าวผสมให้ปลาไปพร้อมกับอาหารเม็ด ในช่วงแรกกล้วยน้ำว้าที่ใช้เลี้ยงจะหาชื้อตามตลาด ชื้อครั้งหนึ่งก็ประมาณ 100 – 200 หวี ราคาช่วงนั้นตกหวีละ 3 บาท ซึ่งเป็นช่วงที่กล้วยราคาถูก ต่อมาระยะหลังๆกล้วยเริ่มมีราคมสูงขึ้นในบ้างช่วง ทำให้ต้นทุนของการผลิตในเรื่องของอาหารก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย พื้นที่ 4 ไร่ ปลูกกล้วยน้ำว้า เลี้ยงปลา ริมแม่น้ำ ขณะที่ราคากล้วยน้ำว้าเริ่มสูงขึ้น ทำให้ต้องงดกล้วยที่ใช้เลี้ยงปลาไปในบางครั้ง ประกอบกับช่วงนั้นเองทางสำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาทได้มีโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกผักสวนครัวและปลูกกล้วยน้ำว้า ตนเองจึงสนใจและเข้าร่วมโครงการ เพราะเห็นว่าไม่น่าจะเสียหายอะไร กลับมองว่าเป็นช่องทางที่จะช่วย ลดต้นทุนในการผลิตในเรื่องของอาหารอีกทางหนึ่ง เพราะนอกจากจะปลูกขายแล้วก็ยังสามารถนำมาเลี้ยงปลาได้อีกด้วย “เริ่มปลูกกล้วยน้ำว้าในพื้นที่ 4 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของพ่อและแม่ที่ทำสวนผสมผสานไว้จำนวนหนึ่ง ปัจจุบันนี้ภายในสวนพื้นที่ 4 ไร่ มีต้นกล้วยกว่าร้อยต้น สารเคมีหรือปุ๋ยที่ใช้ก็ได้จากการนำปลาที่ตายจากการขนย้ายหรือว่าตายขณะที่เลี้ยงมาหมักเป็นน้ำหมักชีวภาพ และนำไปราดในโคนต้นไม้ เป็นปุ๋ยอย่างดีที่ธรรมชาติต้องการ ส่งผลต่อผลผลิตมีขนาดใหญ่และมีจำนวนมากเพียงพอต่อการน้ำมาเลี้ยงปลาโดยที่ไม่ต้องหาชื้อกล้วยจากท้องตลาด” คุณประมวลกล่าว อัตราส่วนการปล่อยปลา หนึ่งเทคนิค ในการเลี้ยง อัตราส่วนในการปล่อยลูกปลาต่อหนึ่งกระชังต้องขึ้นอยู่กับขนาดของกระชังปลาที่จะเลี้ยงเพราะแต่ละกระชังที่จะเลี้ยงส่วนใหญ่มีขนาดที่ไม่เท่ากัน สำหรับกระชังปลาของคุณประมวล มีความกว้างเท่ากับ 6 เซนติเมตร ยาวเท่ากับ 6 เซนติเมตร ซึ่งสามรถปล่อยลูกปลาได้มากถึง 2,000 กว่าตัว เป็นอัตราส่วนที่ทดลองมาหลายรอบ ผลที่ได้จากการทดลองคือปลาสามารถเจริญเติบโตได้ดี ไม่หนาแน่นเกินไป คุณประมวล กล่าวว่า หนึ่งปีจะทำการเพาะเลี้ยงเพียง 2 รอบเท่านั้น คือช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน – มีนาคมและเดือนพฤษภาคม – กันยายน เพราะด้วยสภาพภูมิอากาศในช่วงนี้จะเหมาะสมและสามารถเพาะเลี้ยงได้ แต่ถ้าทำการเพาะเลี้ยงในช่วงเดือนอื่นๆ อาจจะมีอุปสรรค์หลายด้าน โดยเฉพาะเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่สภาพภูมิอากาศมีความร้อนสูง อาจจะส่งผลทำให้น้ำในแม่น้ำร้อน ทำให้ปลาไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เป็นการไม่เอื้อต่อการเพาะเลี้ยงอาจทำให้ได้รับผลกระทบในการเพาะเลี้ยง บวกกับในหน้าน้ำหลากมีน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีไหลผ่านไปมาทำให้ปลาตายซึ่ง เป็นผลกระทบที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นอกจากการหยุดเพาะเลี้ยงในช่วงเวลานั้น ตลาดรับชื้อ ตลาดรับชื้อหลักๆจะส่งขายให้กับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(CP) ซึ่งจะรับชื้อเฉพาะปลาทับทิมเท่านั้น ส่วนปลากรดคลัง ปลากรดหลวงและปลาอื่นๆ จะส่งขายให้กับต่างๆจังหวัด เช่น เชียงใหม่ และตามร้านอาหารทั่วไปที่เป็นลูกค้าเดิม ราคาที่รับชื้อก็เป็นราคาที่เหมาะสม ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบกัน คุณประมวลกล่าวทิ้งท้าย ทุกวันนี้ทำอาชีเพาะเลี้ยงปลาก็มีความสุขดี ครอบครัวสามารถอยู่ได้ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็ต้องผ่านอุปสรรค์มามาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถของคนเราที่จะมุ่งมั่นและพยามยามที่จะทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ท่านใดมีข้อสงสัย สามารถสอบถามไปได้ที่ บ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าชัย อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท โทรศัพท์ 08-3218-4023,056-426656(คุณประมวล,คุณพะเยาว์ รุ่งทอง)
วิธีแก้ไข :
 
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
อำเภอ / เขต :
จังหวัด :
ชัยนาท
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคกลาง
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM