เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
ตามไปเจอ “อะโวกาโด” ที่เขาทะลุ
   
ปัญหา :
 
 
แต่ก่อนแต่ไร ผู้เขียนเข้าใจว่า อะโวกาโด เป็นพืชเมืองหนาว ที่ปลูกได้เฉพาะพื้นที่สูงแถบภาคเหนือ จนกระทั่งล่องใต้ไปที่จังหวัดชุมพร จึงรู้ว่าที่นี่ก็ปลูกอะโวกาโดได้เช่นกัน อะโวกาโดต้นแรกที่เจอในปักษ์ใต้ ปลูกอยู่ในสวนผลไม้ผสมผสานของ คุณทองทิม สีถาการ บ้านเลขที่ 86 หมู่ที่ 2 บ้านล่าง ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร 86130 เบอร์โทร. (084) 941-7983 และ (084) 060-9872
วิธีแก้ไข :
 
สำหรับ ต้นอะโวกาโด ที่ปลูกในสวนแห่งนี้คือ พันธุ์แฮสส์ (Hass) เป็นสายพันธุ์ที่ชอบอากาศค่อนข้างเย็น มีลักษณะผลด้านบนเรียวยาวคล้ายลูกแพร ผิวขรุขระมาก เปลือกผลหนา ผิวเปลือกสีเขียวเข้ม เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มเกือบดำ เปลือกปอกล่อนง่าย มีรสชาติอร่อย หอม และมีรสมันเหมือนถั่ว รับประทานเปล่าๆ ก็อร่อย ผลมีขนาดเล็ก น้ำหนัก ประมาณ 200-300 กรัม เนื้อสีเหลือง เมล็ดเล็กถึงขนาดกลาง เนื้อหนาและไขมันสูง อายุผลผลิตตั้งแต่ผสมติดถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 8 เดือน เป็นสายพันธุ์อะโวกาโดที่นิยมปลูกเชิงการค้ามาก เรียกว่าเป็น อันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียว เนื่องจากมีรสชาติอร่อยกว่าพันธุ์อื่น คุณทองทิม สีถาการ เล่าว่า พื้นที่สวน มีเนื้อที่ 20 ไร่ แห่งนี้ เคยปลูกกาแฟเป็นพืชหลัก ต่อมาเกิดปัญหาดินเปรี้ยว ดูแลจัดการสวนไม่ดี ทำให้ผลผลิตกาแฟลดลง จึงหันมาปลูกไม้ผลแบบผสมผสานแทน โดยปลูกทุเรียน ปาล์มน้ำมัน มังคุด มีอาชีพเสริมเพาะเห็ดขาย ส่วนต้นอะโวกาโดผมได้พันธุ์มาปลูกด้วยความบังเอิญ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว มีญาติผู้ใหญ่จากแม่สอด จังหวัดตาก ได้นำผลอะโวกาโดมาเป็นของฝาก ผมจึงเก็บเมล็ดมาทดลองปลูกเล่นๆ ที่สวนหลังบ้าน โดยนำเมล็ดอะโวกาโดไปปลูกเหน็บดินหลังบ้าน เอาไม้ปักไว้เป็นสัญลักษณ์เท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมา อะโวกาโด เป็นพืชที่นิยมปลูกในพื้นที่สูง ที่มีสภาพอากาศหนาว เช่น แม่สอด จังหวัดตาก ขณะที่สวนแห่งนี้อยู่ในพื้นที่จังหวัดชุมพร แต่มีสภาพอากาศคล้ายจังหวัดระนอง คือลักษณะฝนแปด แดดสี่ ไม่มีฤดูหนาว ตอนแรกตัวคุณทองทิมก็ไม่มั่นใจว่าสภาพภูมิอากาศของที่นี่จะเหมาะสำหรับปลูกอะโวกาโดหรือไม่ ปรากฏว่า ต้นอะโวกาโดที่ปลูกจากการเพาะเมล็ดมีรากแก้ว หาอาหารเก่ง ติดผลดก ปัจจุบันอะโวคาโดต้นแรกที่ปลูกในสวนแห่งนี้ มีอายุ 7 ปี ให้ผลผลิตติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว ปกติต้นอะโวกาโดที่ปลูกในสวนแห่งนี้จะเริ่มออกดอกในช่วงเดือนสิงหาคม แต่ปีที่แล้ว มีปัญหาเรื่องการจัดการน้ำ และเผลอทำรากขาด ทำให้ต้นอะโวกาโดไม่ยอมออกดอก แต่ปีนี้ต้นอะโวกาโดปรับสภาพได้แล้ว จึงเริ่มออกดอกอีกครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปีนี้มีผลผลิตดกมาก ทยอยเก็บผลผลิตได้ต่อเนื่องกว่า 1 เดือน ได้ผลผลิตมากกว่า 30 กิโลกรัม โดยทั่วไป อะโวกาโด เป็นไม้ยืนต้นที่เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกประเภท เนื้อดินลึก อินทรียวัตถุมากๆ ระบายน้ำดี และไม่ทนต่อสภาพน้ำท่วมขังนาน ถ้าดินมีความชื้นสูงเกินความต้องการจะทำให้เกิดโรครากเน่าได้ง่าย ถ้าขาดน้ำฝนควรมีการให้น้ำอย่างน้อย 7-10 วัน ต่อครั้ง โดยเฉพาะช่วงดอกบาน และติดผลเป็นช่วงที่ต้องการน้ำ เนื่องจากต้นอะโวกาโดเป็นไม้เนื้ออ่อน กิ่งเปราะ ควรมีแนวป้องกันลม เพื่อป้องกันการหักของต้นอะโวกาโด ควรมีการตัดแต่งกิ่งให้พุ่มโปร่ง จะช่วยป้องกันได้พอสมควร ส่วนเทคนิคการปลูกดูแลต้นอะโวกาโดของคุณทองทิมไม่ได้เน้นอะไรเป็นพิเศษ ปลูกแบบธรรมชาติแค่ให้ปุ๋ยและน้ำเช่นเดียวกับไม้ผลอื่นๆ ภายในสวน โดยหว่านปุ๋ย สูตร 15-15-15 เฉลี่ย 2-3 เดือน ต่อครั้ง ตั้งแต่ปลูกต้นอะโวกาโด ไม่เคยเจอปัญหาโรคและแมลงรบกวนเลย แต่เจอปัญหาผลแตกบ้าง ซึ่งคุณทองทิมก็หาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ต้นอะโวกาโดต้องใช้เวลาปลูกถึง 3 ปี จึงออกผล และเก็บผลผลิตได้ปีละครั้ง แต่พ้น 3 ปีไปจะสร้างรายได้ให้แก่ผู้ปลูกอย่างต่อเนื่อง เพราะผลผลิตต่อต้นจะเพิ่มขึ้นทุกปี อะโวกาโดเป็นไม้ผลที่มีลำต้นสูง การเก็บผลก็ต้องใช้ไม้สอย ผลอะโวกาโดของสวนแห่งนี้มีขนาดเล็ก เฉลี่ยประมาณ 4 ลูก ต่อกิโลกรัม โดยทั่วไปอะโวกาโดไม่นิยมรับประทานผลดิบ เนื่องจากมีสารแทนนิน มีรสขม รับประทานมากจะปวดศีรษะ “ผมเน้นเก็บผลแก่จัด ประมาณ 40% ที่มีสีเขียวเข้มเกือบดำ ผิวขึ้นเงาเท่านั้น ผลสุกแบบนี้หากปล่อยทิ้งไว้ไม่เก็บ อีกไม่กี่วันผลก็จะร่วงแล้ว หลังจากเก็บผลที่แก่จัดแล้ว ผมก็นำมาวางเรียงใส่ตะกร้าโปร่ง วางไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ เพื่อบ่มให้สุก ประมาณ 2-3 วัน จึงนำไปรับประทาน จะได้รสชาติที่อร่อยมาก ผลอะโวกาโดหากวางไว้ในอุณหภูมิปกติ จะเก็บไว้ได้ประมาณ 7 วัน ก่อนเน่าเสีย หากเก็บในตู้เย็นน่าจะยืดอายุได้อีกเท่าตัว” คุณทองทิม กล่าว หลังจากคุณทองทิมปลูกอะโวกาโดได้สำเร็จ ก็มีเพื่อนหลายคนสนใจอยากปลูกอะโวกาโด จึงขอแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ไปทดลองปลูกดูบ้าง ทุกวันนี้ อะโวกาโด ถือเป็นพืชเสริมรายได้ตัวใหม่ ที่คุณทองทิมเร่งขยายพันธุ์เพิ่มอีก 50-60 ต้น เพื่อปลูกแซมกับไม้ผลชนิดอื่นๆ ภายในสวน และในอนาคตวางแผนเตรียมพื้นที่ ประมาณ 1-2 ไร่ สำหรับปลูกอะโวกาโดเชิงการค้าอย่างจริงจัง เพราะอะโวกาโดเป็นไม้ผลที่มีคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ และเป็นที่ต้องการของตลาดกลุ่มผู้รักสุขภาพจำนวนมาก โดยปัจจุบันคุณทองทิมวางขายผลอะโวกาโดในตลาดท้องถิ่นอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท หากใครสนใจอยากแบ่งปันข้อมูลเรื่องการปลูกอะโวกาโด ก็สามารถพูดคุยกับคุณทองทิมได้ตามที่อยู่ข้างต้น รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ผู้เขียนได้ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า อะโวกาโด มีต้นกำเนิดมาจากรัฐพิวบา ประเทศเม็กซิโก ต่อมาได้แพร่หลายในอเมริกากลาง-อเมริกาใต้ ก่อนจะกระจายไปทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้ จากหลักฐานทางโบราณคดี ได้ค้นพบหลักฐานการบริโภคอะโวกาโดเป็นครั้งแรกของโลก ในถ้ำแห่งหนึ่งของรัฐพิวบา ตั้งแต่เมื่อ 10,000 ปี ก่อนคริสตกาล ส่วนที่มาของชื่อ “อะโวกาโด” มาจากภาษานาวาทเทิล ของชนเผ่าพื้นเมืองของเม็กซิโก มีความหมายว่า “ลูกอัณฑะ” และมีความเชื่อว่า การรับประทานอะโวกาโดจะช่วยเสริมความต้องการทางเพศได้ ความเชื่อดังกล่าว ขัดแย้งกับข้อมูลทางการแพทย์ในสมัยปัจจุบัน ที่ระบุว่า อะโวกาโด มีปริมาณไขมัน 17.3 กรัม ต่อน้ำหนักผล 100 กรัม แม้จะเป็นผลไม้ที่มีไขมันสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ แต่การบริโภคอะโวกาโดไม่ทำให้อ้วน แถมยังช่วยขจัดไขมันร้ายได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่มีปัญหาระดับไขมันร้ายในหลอดเลือดสูง หากเปลี่ยนมารับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของอะโวกาโดอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 1 สัปดาห์ จะช่วยสลายไขมันร้ายในเลือดลดลงอย่างชัดเจน เช่น คอเลสเตอรอลรวมลดลง 17% แอลดีแอล-คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ลดลงถึง 22% แล้ว นอกจากนี้ อะโวกาโดยังช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยได้ดีกว่าผักผลไม้ชนิดอื่นอีกด้วย ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน ก็อยากเชิญชวนให้หันมารับประทานอะโวกาโดกันให้มากขึ้น เพราะสุขภาพที่ดี มีคุณค่ามากกว่าเงินทองเสียอีก
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
อำเภอ / เขต :
จังหวัด :
ชุมพร
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคใต้
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM