เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
หวาย กล้วยไม้สวย ที่ริมคลองมหาสวัสดิ์ ขายได้ ทั้งส่งนอก และทำดอกไม้ไหว้พระ
   
ปัญหา :
 
 

คลองมหาสวัสดิ์ จังหวัดนครปฐม ถือเป็นอีกแห่งที่โดนมวลน้ำขนาดมหึมาถาโถมเข้าใส่เมื่อปลายปี 2554 จนทำให้เรือกสวนไร่นา สวนผลไม้ และอื่นๆ อีกหลายอย่างได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

อย่างรายของ คุณดาว ชัยวันดี หรือ คุณสร้อย ที่ประกอบอาชีพเลี้ยงกล้วยไม้ตัดดอกขายบริเวณริมคลองมหาสวัสดิ์มานานถึง 25 ปี เป็นหนึ่งของผู้ประสบเหตุอันเลวร้ายเช่นนั้น จนทำให้อาชีพที่เคยทำมานานต้องหมดสิ้นไป และเพิ่งมาตั้งหลักได้ไม่นานนี้ 

จากลูกจ้าง สู่การเป็นเจ้าของเอง

คุณ สร้อย เล่าว่า ตัวเขาเป็นคนเชียงราย เข้ามาต่อสู้ชีวิตจากการเป็นลูกจ้างรายวันด้วยการทำงานในสวนกล้วยไม้หลาย แห่งนานหลายสิบปี จนกระทั่งสามารถสะสมความรู้ ความชำนาญได้เต็มที่ จากนั้นจึงผันตัวเองไปสู่การยึดอาชีพขายดอกกล้วยไม้เป็นธุรกิจอย่างเต็มตัว

ที่สวนกล้วยไม้ของคุณสร้อย ตั้งอยู่ เลขที่ 2/1 หมู่ที่ 3 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม มีเนื้อที่ทั้งหมด 16 ไร่ เป็นการเช่าพื้นที่

กล้วยไม้ที่คุณสร้อยยึดเป็นอาชีพหารายได้ มี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นกล้วยไม้ตระกูลหวายที่ตัดช่อดอกขาย และทำให้มีรายได้ถึง 2 ทาง คือ ขายให้กับบริษัทเพื่อแพ็กส่งขายต่างประเทศ กับอีกส่วนนำไปกำคู่กับใบเตยขายเป็นดอกไม้ไหว้พระ         

กล้วย ไม้อีกประเภทที่นำมาขายคือ กล้วยไม้พันธุ์คัทลียาและพันธุ์แวนด้า ซึ่งซื้อทั้งต้นมาจากสวนกล้วยไม้ที่กาญจนบุรี แล้วนำมาขายต่อโดยไม่มีการขยายพันธุ์

คุณ สร้อย บอกว่า กล้วยไม้ตระกูลหวายที่ตัดดอกขายนั้นในคราวแรกที่เริ่มทำมีต้นพันธุ์ของตัว เอง พอหลังจากน้ำท่วมเสียหายหมด จากนั้นต้องไปหาซื้อต้นพันธุ์ที่มีอายุสัก 4-5 ปี มาแบ่งแยกต้นขยายพันธุ์

เธออธิบายถึงการขยายพันธุ์ว่าต้องแบ่งแยกต้นเล็กออกมาจากต้นแม่ที่เป็นกอขนาดใหญ่ แล้วนำไปชำไว้ก่อนสัก 1-2 เดือน เมื่อมีหน่อออกมาแล้วจึงนำมาเลี้ยงต่ออีก ใช้เวลา 6-7 เดือน สามารถเก็บดอกขายได้แล้ว และเป็นวิธีขยายพันธุ์ที่เร็วกว่าการปั่นเนื้อเยื่อ และบอกต่อไปอีกว่าในช่วงนี้จะรดน้ำอย่างเดียววันละครั้ง ไม่ต้องใส่ปุ๋ยหรือยาบำรุงแต่อย่างใดเพราะอาจทำให้ต้นเน่าได้

สำหรับ น้ำใช้จากท้องร่องบ้าง น้ำฝนบ้าง แต่น้ำประปาใช้ไม่ได้เลย เพราะเค็มทำให้กล้วยไม้ไม่สวย การรดน้ำจะใช้ระบบสปริงเกลอร์ จึงไม่จำเป็นต้องใช้คนงานมาก ใช้ทั้งหมดเพียง 4 คน เท่านั้น

พอต้นใหม่เจริญเติบโตได้สักระยะหนึ่ง ให้ฉีดปุ๋ยยาประมาณ 4 วันครั้ง ใช้ปุ๋ยผงละลายน้ำ โดยใส่ปุ๋ย จำนวน 7 กิโลกรัม ต่อน้ำ 1 ถัง ใช้จำนวน 10 ถัง ต่อครั้ง ในพื้นที่ จำนวน 16 ไร่ ฉีดตามรากและใบ แต่ถ้าเป็นการฉีดยาจะฉีดเฉพาะที่ดอกอย่างเดียว

เธอ บอกว่า ถ้าไม่ฉีดยามักจะโดนแมลงที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ไอ้ฮวบ มากัดกินตรงบริเวณจุดอ่อนของดอก ถ้าเป็นอย่างนั้นจะเสียหายส่งออกไปขายไม่ได้ นอกจากนั้น ยังโดนเพลี้ยไฟเข้าทำลายด้วย ส่วนปัญหาที่ต้นจะเจอบริเวณใต้ใบ มักจะเจอพวกไรแดง จึงต้องฉีดยาใต้ใบ

 

สีแดง นิยมทั้งในและต่างประเทศ

เจ้า ของสวนกล้วยไม้เผยว่า ในช่วงฤดูหนาวจะเกิดปัญหากล้วยไม้ไม่เจริญเติบโต จึงไม่ค่อยออกดอก เพราะกล้วยไม้ไม่ชอบหนาว รากไม่เดิน ซึ่งช่วงหน้าหนาวมักไม่ค่อยมีใครปลูก ทั้งนี้ หากเกิดเจออากาศเย็นกล้วยไม้จะชะงักทันที ส่วนช่วงอากาศร้อนจะงามดีมาก ดังนั้น สรุปว่ากล้วยไม้ชอบหน้าฝนและหน้าร้อน

“ชาว บ้านนิยมปลูกกล้วยไม้หน้าฝน เพราะช่วงนั้นราคาถูก และเจริญเติบโตดี ทั้งนี้จะต้องรีบปลูกให้โตเร็วทันก่อนหนาวนะเพราะถัดจากฝนเป็นหนาวทันที”

คุณสร้อย ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกล้วยไม้พันธุ์หวายที่เธอปลูกอยู่ขณะนี้ว่า มีอยู่จำนวน 3 ชนิด คือถ้าเป็นดอกสีขาวมีชื่อว่า “ขาว 5 เอ็น” ถ้าดอกสีแดง ชื่อว่า “โจแดง” ชนิดนี้เป็นสีที่นิยมใช้กำไหว้พระ และสุดท้ายเป็นดอกสีม่วง

ดังนั้น เมื่อโจแดงเป็นที่นิยมของตลาดทั้งในและต่างประเทศแล้ว คุณสร้อยจึงกำหนดให้พื้นที่ทั้งหมด จำนวน 16 ไร่ ปลูกโจแดงมากกว่าอีก 2 ชนิด เพราะเน้นส่งออกเป็นหลัก ส่วน ขาว 5 เอ็น และสีม่วง มีจำนวนปลูกไม่มาก

“โจ แดง ที่ส่งขายเป็นช่อดอก มีบริษัทมารับถึงสวน โดยจะแจ้งมาก่อนว่า จะต้องการจำนวนเท่าไร และมารับเมื่อไร พอได้รับแจ้งแล้วทางสวนกล้วยไม้ของเราจะตัดรอไว้เพื่อให้ทางบริษัทมารับไป แพ็กส่งต่างประเทศ”

ทั้งนี้ จะตัดส่งขายทุก 2-3 วันครั้ง เก็บดอกได้ครั้งละจำนวน 5,000-10,000 ดอก ราคาส่งช่อละ 3 บาท และประเทศที่ส่งไปขายคือ จีน เพราะนิยมดอกสีแดง ส่วนดอกสีขาวมักส่งไปยุโรปและอเมริกา”

คุณ สร้อย อธิบายต่อไปอีกว่า ดอกกล้วยไม้ที่ส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศจะต้องผ่านการคัดคุณภาพ ความสมบูรณ์ทั้งรูปร่างลักษณะและปลอดจากโรค ส่วนดอกกล้วยไม้ที่ไม่สามารถผ่านการคัดเลือกจะนำไปกำเป็นดอกไม้ไหว้พระขาย

“กล้วยไม้ที่ตกเกรด แต่ไม่ใช่กล้วยไม้ไม่ดีนะ เพียงแต่ส่งไปขายต่างประเทศไม่ได้ จะนำไปกำเป็นดอกไม้ไหว้พระ ขายราคากำละ 10 บาท ที่หน้าบ้าน และมีแม่ค้าดอกไม้มารับไปขายต่อ จะทำทุกวันโกนและวันพระ ทำครั้งหนึ่งได้ 1,000 กว่ากำ จำนวนช่อดอกที่กำใช้ 3-4 ก้าน ทั้งนี้แล้วแต่คุณภาพดอก”

 

รับแวนด้าและคัทลียา มาขาย

เจ้าของสวนกล้วยไม้บอกต่ออีกว่า สำหรับแวนด้ากับคัทลียา ที่อยู่ในสวนขณะนี้มีจำนวนรวมกัน ประมาณ 500 ต้น รับมาต้นขนาดกลาง ราคาต้นละ 90 บาท ขายต้นละไม่เกิน 120 บาท

“ซื้อมาทั้งต้นและดอก แต่ถ้าดอกหมดแล้วยังขายไม่ได้ ต้องเลี้ยงต่อไปให้มีดอกอีก ระยะออกดอกทุก 3-4 เดือนครั้ง พอมีดอกแล้วอยู่ได้ประมาณเดือนกว่า”

คุณ สร้อย บอกถึงที่มาของรายได้ว่า ส่วนมากมาจากการขายดอกส่งออก อีกส่วนรองลงมาคือรายได้จากการขายกำดอกไม้วันพระ เพราะมีลูกค้าขาประจำทั้งหน้าร้านและขายส่ง อย่างครั้งหนึ่งกำได้จำนวนกว่า 1,000 กำ ขายกำละ 10 บาท สัปดาห์หนึ่งมีรายได้เฉลี่ย 10,000 กว่าบาท เดือนหนึ่งราว 40,000 กว่าบาท รายได้จากการกำดอกไม้ไหว้พระนี้นำไปเป็นทุนใช้หมุนเวียน สำหรับเงินรายได้จากค่าตัดดอกส่งออกจะเป็นอีกส่วนหนึ่ง

คุณสร้อยเทียบเคียงยุคสมัยของการทำอาชีพนี้ว่า สมัยยุครุ่งเรืองที่เริ่มขายกล้วยไม้ได้ราคาดีมาก ช่อละ 7-10 บาท หรือบางครั้งอาจสูงไปถึง 15 บาทเลย แต่พอมายุคร่วงโรย เหลือราคาเพียงช่อละ 3 บาท ขณะที่ต้นทุนปุ๋ยและอีกหลายอย่างกลับสวนทางขึ้นราคาหลายเท่าตัวจากสมัยที่ทำครั้งแรก

ทางด้านต้นทุน คุณสร้อย แจงว่า ค่าใช้จ่ายตัวหลักนั้นมี ค่ากาบมะพร้าว ต้นพันธุ์ ปุ๋ยและยา ค่าแรง ค่าน้ำมัน และค่าเช่าที่ดิน ปีละ  40,000 บาท

“ค่า ปุ๋ยและยา ซื้อปีละ 100,000-200,000 บาท ก่อนน้ำท่วมเคยซื้อปีละครั้งทีเดียว ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทขายปุ๋ยมักมีรายการโปรโมชั่นต่างๆ แถมตลอด แต่หลังน้ำท่วมยังไม่กล้าเสี่ยง จึงทยอยซื้อ ครั้งละ 10,000-20,000 บาทก่อน

หลัง น้ำท่วมใหญ่เสียหายมาก พอปีถัดมายังระแวงอยู่ ไม่กล้าเสี่ยงทำอะไรมาก เมื่อแน่ใจว่าปลอดภัยจึงค่อยๆ ทำจริงจังทีละอย่างสองอย่าง เมื่อปี 2556 นี้เอง”

เจ้าของสวนกล้วยไม้เผยถึงแผนต่อไป คิดว่าถ้าหมดชุดนี้ ซึ่งครบอายุ 4 ปี อาจจะเปลี่ยนพันธุ์กล้วยไม้ใหม่ของตระกูลหวายเข้ามาแทน แล้วอาจนำคัทลียาเข้ามาปลูกเองบ้าง แทนการสั่งซื้อ เพราะต้องการให้มีสีดอกที่แปลกใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเลือกซื้อ

“ลูกค้า ที่มาซื้อส่วนมากมาจากทั่วประเทศ และมีชาวต่างประเทศด้วย ลูกค้าเหล่านี้บางรายอ่านพบในหนังสือ บางรายเจอให้โทรทัศน์ แล้วมักเดินทางมากันในวันหยุดพักผ่อนเพื่อมาเลือกซื้อกล้วยไม้ ซึ่งไม่ได้ขายดอกอย่างเดียว หากใครสนใจต้องการซื้อเป็นต้น จะขาย 3 ต้น 100 บาท เป็นต้นขนาดไม่ใหญ่ ที่ปลูกในกาบมะพร้าว ส่วนที่อยู่ในกระถางราคาหลักร้อยบาท นอกจากนั้น ยังมีผลไม้ ผัก และขนมอื่นๆ จำหน่ายด้วย” คุณสร้อย กล่าว

สำหรับ ท่านที่เพิ่งอ่านเจอแล้วสนใจ ต้องการจะหาซื้อกล้วยไม้ตระกูลหวาย และกล้วยไม้พันธุ์อื่น โทร. สอบถามเส้นทางไปสวนกล้วยไม้ได้ ที่ คุณแก้ว (สามีคุณสร้อย) โทร. (086) 018-0377

 

วิธีแก้ไข :
 
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
ศาลายา
อำเภอ / เขต :
พุทธมณฑล
จังหวัด :
นครปฐม
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคกลาง
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน วันที่ 17 ธันวาคม 2556
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM