การปลูกกล้วยไม้รองเท้านารี ให้ได้ผลดีนั้น ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่การใช้วัสดุปลูก ที่เหมาะกับกล้วยไม้รองเท้านารีแต่ละชนิด วัสดุปลูกสำหรับรองเท้านารีที่อาศัยตามซอกหิน เช่น
เหลืองกระบี่ วัสดุปลูกชั้นบนใช้กาบมะพร้าวสับ ใบก้ามปูหมัก และเปลือกถั่วลิสงสะอาด อัตรา 1:1:1 ส่วนชั้นล่างใช้หินภูเขาไฟ ถ่านทุบ และกระถางแตก อัตรา 1:1:1 เท่ากัน ส่วนกล้วยไม้ดิน
อาศัยบนซากไม้ผุ เช่น รองเท้านารีคางกบ วัสดุชั้นบนใช้กาบมะพร้าวสับ ใบก้ามปูหมัก และพีทมอสส์ อัตรา 2:2:1 วัสดุปลูกชั้นล่างใช้โฟมหัก กระถางแตก ทุบเป็นชิ้นและอิฐหัก อัตรา 1:1:1
และประเภทอิงอาศัย ชอบขึ้นอยู่กับคาคบไม้ เช่น เหลืองเมืองกาญจน์ วัสดุปลูกชั้นบน ใช้กาบมะพร้าวสับและเปลือกถั่วลิสง อัตรา 1:1 ชั้นล่างใช้รากเฟิร์นออสมันด้า เปลือกสน และโฟมหัก
อัตรา 1:1:1 กล้วยไม้รองเท้านารี ต้องการแสงแดดเพียง 30-50 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น จึงควรพรางแสงด้วยซาแรนตัดแสงให้ได้ตามความต้องการ หากได้รับแสงมากเกินไป ใบจะไหม้ ช่อดอกสั้นลง และเมื่อได้ รับแสงน้อยไป ก้านช่อจะอ่อนปวกเปียกและให้ดอกน้อย การให้นํ้า ช่วงเช้าดีที่สุด ควรงดการให้นํ้าตอนเย็น หลัง 18.00 น. ไปแล้ว หากใช้นํ้าประปา ควรทิ้งไว้ 2-3 วัน ให้คลอรีนระเหยออกไปจนหมด เนื่องจากกล้วยไม้รองเท้านารี เป็นไม้เจริญเติบโต
ช้า จึงต้องการธาตุอาหารในปริมาณตํ่า หากต้องการให้ต้นงามและออกดอกดี ให้ใช้ปุ๋ยละลายนํ้าเจือจาง ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยรักษาความชื้นในโรงเรือนได้ดี จึงให้เทพื้นโรงเรือนด้วยทรายหยาบ นอกจากนี้ ต้องให้การถ่ายเทอากาศในโรงเรือนได้ดี และควรรักษาอุณหภูมิภายในโรงเรือนไว้ที่ 24-28 องศาเซลเซียส
ภาชนะที่ใช้บรรจุวัสดุปลูก ต้องมีขนาดพอเหมาะ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป กระถางดินเผา ที่มีรูรอบมีการระบายความร้อนได้ดี แต่ข้อเสียที่มีนํ้าหนักมาก และอาจมีราคาแพง กระถางพลาสติก มี
นํ้าหนักเบา ราคาไม่แพง และมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก แต่การระบายความร้อนและการระเหยนํ้าเกิดขึ้นได้น้อย ส่วนกระถางไม้ เหมาะสำหรับกล้วยไม้รองเท้านารี ประเภทอิงอาศัย
ประการสำคัญ ต้องขึงซาแรนตัดแสง 50 เปอร์เซ็นต์ รอบโรงเรือน หรือ รอบ 3 ด้าน เป็นอย่างน้อย ยกชายซาแรนสูงเหนือพื้นโรงเรือนขึ้นมา 60-70 เปอร์เซ็นต์ ให้ลมพัดผ่านได้สะดวก หากปฏิบัติได้ตามคำแนะนำข้างต้น ความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้
รองเท้านารี ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ