ก่อนอื่นผมขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรครากเน่า โคนเน่าของทุเรียน เพื่อเข้าใจเป็นเบื้องต้น สาเหตุจากเชื้อราชนิดหนึ่งมีความสามารถเข้าทำลายได้ในทุกส่วนของต้นทุเรียนการเกิดโรคที่โคนต้น ระยะแรก มีอาการคล้ายคราบนํ้าปรากฏที่เปลือกต้นทุเรียน เมื่อใช้มีดถากบริเวณคราบนํ้าออก จะพบเนื้อเยื่อที่เปลือกด้านในเป็น
แผลสีนํ้าตาล ต่อมาแผลขยายไปรอบต้น มีผลทำให้ใบทุเรียนร่วงหล่นทั้งต้นและจะยืนต้นตายในที่สุด การเกิดโรคที่ราก ผลปรากฏให้เห็นชัดที่ใบ คือใบสลดหมองไม่เป็นมัน ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซีดแล้วหลุดร่วง ดูที่รากฝอยและรากแขนง พบมีจุดเล็กๆ สีนํ้าตาลดำที่ปลายราก ต่อมาจะเน่า และอาการที่ผล มีจุดเล็กๆ สีนํ้าตาลดำที่ปลายหนาม หรือซอกหนาม ต่อมาแผลขยายใหญ่ขึ้น มองเห็นชัดเจนขณะอยู่บนต้นยังไม่ร่วงหล่นลงมา ช่วงการระบาดรุนแรงเกิดขึ้นในฤดูฝน มีฝนตกชุกและมีความชื้นในบรรยากาศ
สูง อาการของโรคปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้นหลังหมดช่วงฤดูฝนไปแล้ว วิธี
ป้องกันและกำจัดโรค ที่บริเวณโคนต้น ให้ขูดหรือถากผิวเปลือกออกเผาทำลาย แล้วทาแผลด้วยปูนแดง หรือเมทาแลกซิล 15 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตรา 50-60 กรัม ต่อนํ้า 1 ลิตร โรคเกิดที่ใบ ให้ฉีดพ่นด้วยเมทาแลกซิล 25 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตรา 30-50 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ ให้ทั่วทรงพุ่ม และโรคเกิดที่กิ่ง ให้ตัดกิ่งที่เป็นโรคเผาทำลายทิ้ง หากกิ่งที่ไม่สามารถตัดทิ้งได้ทั้งหมด ให้เฉือนเปลือกออกเผาทำลายเช่นเดียวกัน แล้วทาแผลด้วยคอปเปอร์
ออกซี่คลอไรด์ 85 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตรา 45-60 กรัม ละลายในนํ้า 1 ปี๊บ ที่บริเวณมีการระบาดของโรค ประการสำคัญ ระวังอย่าให้นํ้าท่วมขังที่แปลงปลูกในช่วงที่มีฝนตก และไม่ควรใส่ปุ๋ยมากเกินความต้องการของต้นทุเรียนทั้งนี้ทั้งนั้น คุณไม่ควรวิตกกังวลในปัญหาดังกล่าว เนื่องจาก ตำบลหมูสี เป็นเขตอับฝน การเกิดโรคดังกล่าวจึงมีโอกาสน้อยกว่าทุเรียนที่ปลูกในภาคใต้และภาคตะวันออกครับ