ใน ข้อ 1 และ ข้อ 2 เป็นอาการของโรคตายพรายของกล้วย เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อราชนิดหนึ่ง ในข้อ 2 อาการที่คุณบอกมานั้นบ่งบอกได้อย่างชัดเจน เมื่อพบอาการของโรคดังกล่าว ให้ตัดต้นและใบ พร้อมขุดเหง้าขึ้นมาเผาทำลาย แล้วโรยด้วยปูนขาว อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อหลุม เพื่อฆ่าเชื้อโรคทิ้งระยะไว้อย่างน้อย 1 เดือน แล้วปลูกกล้วยหอม หรือกล้วยหักมุก แทน
ข้อ 3 ไม่จำเป็นต้องขุดทิ้ง เพียงตัดออกให้มากที่สุด หากเกรงว่าจะเป็นที่สะสมโรค ให้หว่านปูนขาวลงบริเวณรอยแผลที่ตัดออก อัตรา 1 กระป๋องนม ต่อต้น
ข้อ 4 ป้องกันหนอนเจาะผลมะเขือเทศ ให้ใช้บอระเพ็ด หัวข่าแก่ และเมล็ดสะเดา อย่างละ 1กำมือ โขลกให้เข้ากัน หมักในนํ้า 3 ลิตร ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วคั้นและกรองเอานํ้าสีชาผสมเหล้าขาว 3
เป๊ก ฉีดพ่นให้ทั่ว 3 วัน ต่อครั้ง ตั้งแต่เริ่มติดผล เมื่อไม่พบแมลงระบาด ให้เว้นไปบ้าง
ข้อ 5 ปุ๋ยคอกที่นำมาใส่ต้นไม้ ควรทิ้งไว้ในสภาพธรรมชาติ สัก 2-3 เดือน ให้เกิดมีการย่อยสลายไปบ้าง ใช้กับไม้ใบได้ผลดี ส่วนในไม้ผล ควรใช้ผสมผสานกับปุ๋ยเคมี จึงจะได้ผลดีเช่นเดียวกัน
ข้อ 6 ปุ๋ยหมักมูลสุกร ปัจจุบันเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังนิยมนำมาใช้กันมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณภาคกลางของประเทศ ส่วนปุ๋ยชนิดแคปซูลนั้น ผมไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน
ครับ อย่างไร ก็ตาม หากจะใช้ปุ๋ยประเภทใดหรือสูตรใดก็ตาม ต้องเข้าใจพื้นฐานเสียก่อนว่าปุ๋ยไนโตรเจนนั้น ทำหน้าที่บำรุงต้นและใบ ส่วนปุ๋ยฟอสฟอรัส ช่วยเร่งการเติบโตและพัฒนาของรากและการออกดอก ส่วนปุ๋ยโพแทสเซียมนั้น ช่วยให้ผลมีรสหวาน และสีสด
ใสขึ้น เมื่อเข้าใจตามนี้แล้ว การใช้ปุ๋ยก็จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ไม่ยากครับ