เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
พันธุ์ปทุมาที่ตลาดต้องการ คุณภาพน้ำกับกล้วยไม้
   
ปัญหา :
 
 
    ผมปลูกปทุมาในสวนมาแล้ว 3 ปี ระยะแรกได้ผลดี ต่อมาในระยะหลังพบว่า ต้นเน่าหักพับลงและตายในที่สุด ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรและจะมีวิธีป้องกันและรักษาอย่างไร ปัจจุบันมีพันธุ์อะไรที่กำลังได้รับความนิยมของตลาด ขอคำแนะนำด้วยครับ
วิธีแก้ไข :
 
    การปลูกปทุมา ให้ได้ผลดีนั้น ต้องเลือกแหล่งปลูกที่เว้นช่วงการปลูกปทุมามาแล้ว 3 ปี เพื่อตัดวงจรเชื้อโรคที่อาศัยอยู่ในดินหรือใช้พื้นที่ที่ไม่เคยปลูกปทุมามาก่อน จะได้ผลดียิ่งขึ้น พื้นที่ต้องมีสภาพเป็นที่ดอน น้ำท่วมไม่ถึง ลักษณะดินต้องเป็นดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง มีค่าความเป็นกรด-ด่างที่ 6.5-7.0 มีแสงแดดจ้า อุณหภูมิกลางวันอยู่ระหว่าง 20-30 องศาเซลเซียส ส่วนในเวลากลางคืนอยู่ระหว่าง 18-25 องศาเซลเซียส ปทุมา หรือทิวลิปแห่งสยาม เป็นไม้ดอกขนาดเล็กกะทัดรัด รูปทรงสวยงาม ดอกมีหลากสี และรูปทรงปทุมาเป็นพืชท้องถิ่นของไทย พบได้ทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย และบางแห่งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า ประเทศลาว นั่นเอง พันธุ์ปทุมาที่ได้รับความนิยมอยู่ในตลาดขณะนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทแรก เป็น พันธุ์สำหรับผลิตเป็นไม้ตัดดอก ได้แก่ พันธุ์เชียงใหม่ ปทุมาพันธุ์นี้มีลำต้นสูง 40-50 เซนติเมตร ในหนึ่งกอมีประมาณ 10-15 ต้น ลักษณะใบแผ่ออก ตั้งตรง ขนาดกว้าง 6 เซนติเมตร และยาว 24 เซนติเมตร แผ่นใบสีเขียว เส้นกลางใบมีเหลือบสีน้ำตาล ก้านช่อตั้งตรงสีเขียว กลมแข็งแรง ยาว 60-70 เซนติเมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร กลีบประดับมีหลายสี ตั้งแต่ชมพู ชมพูอ่อน จนถึงสีชมพูเข้ม กลีบประดับมีประมาณ 13-15 กลีบ เวียนเป็นวงสลับกันคล้ายดอกบัว ดอกจริงอยู่ใต้กลีบประดับ มีฐานรองดอกสีเขียว 8-12 อัน ภายในมีกลีบดอกสีขาวขนาดเล็ก ในหนึ่งกอจะให้ดอก 5-8 ดอก พันธุ์สโนว์ไวท์ ลำต้นสูง 40-50 เซนติเมตร ในหนึ่งกอมี 9-12 ต้น หรือหน่อ แผ่นใบตั้งตรง กว้าง และยาว 7 และ 20 เซนติเมตร แผ่นใบสีเขียว ส่วนเส้นกลางใบเขียวเข้มกว่าเล็กน้อย ก้านช่อดอกแข็งแรง ตั้งตรงยาว 50-60 เซนติเมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร กลีบประดับสีขาว ปลายกลีบ แต้มด้วยสีเขียว รูปทรงคล้ายดอกบัวบาน มีกลีบประดับ 13-15 กลีบ ต่อดอก ขนาดดอกใหญ่กว่าพันธุ์เชียงใหม่เล็กน้อย ดอกจริงมีสีขาว ในหนึ่งกอให้ดอก 5-6 ดอก พันธุ์ทรอปิคอลสโนว์ มีลำต้นสูง 50-55 เซนติเมตร ในหนึ่งกอมี 10-12 ต้น หรือหน่อ ใบค่อนข้างใหญ่ ขนาดกว้าง 7.5 เซนติเมตร และยาว 30.5 เซนติเมตร เส้นกลางใบสีเขียวอ่อนกว่าแผ่นใบเล็กน้อย ก้านดอกยาว 60 เซนติเมตร กลีบประดับสีขาว ส่วนปลายแต้มสีเขียวเล็กน้อย กลีบรูปทรงรีและกว้าง ส่วนปลายกลีบจะแหลม มีจำนวนกลีบ 10 กลีบ ดอกจริงสีขาว ในหนึ่งกอจะให้ดอก 4-6 ดอก ประเภทผลิตเป็นไม้กระถาง ได้แก่ พันธุ์ไข่มุกสยาม ลำต้นสูงเพียง 28-33 เซนติเมตร ในหนึ่งกอมี 6-10 ต้น หรือหน่อ รูปทรงใบสวยกว่าพันธุ์อื่น โดยมีใบรีและกว้าง ขนาดกว้าง 7 เซนติเมตร และยาว 18 เซนติเมตร ก้านช่อดอกแข็งแรงชูช่อดอกเห็นชัดเจน ก้านช่อดังกล่าวยาว 35-45 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.6 เซนติเมตร กลีบประดับสีขาวนวล ดอกมี 9 กลีบ รูปทรงคล้ายดอกทิวลิป ดอกจริงสีขาวขนาดเล็ก ในหนึ่งกอให้ดอก (กลีบประดับ) 2-3 ดอก จึงเป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้กระถาง และ พันธุ์บัวสวรรค์ชมพูเตี้ย ลำต้นค่อนข้างเตี้ย มีความสูงเพียง 30-35 เซนติเมตร ใบตั้ง ทรงแคบ ขนาดกว้าง 5 เซนติเมตร ยาว 21 เซนติเมตร แผ่นใบมีสีเขียว ก้านดอกตั้งตรง ยาว 35-40 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางก้านดอก 0.6 เซนติเมตร กลีบประดับสีชมพู ปลายกลีบแต้มสีชมพูเข้ม มีจำนวน 9 กลีบ เรียงซ้อนกันคล้ายดอกบัวสาย ดอกจริงสีขาว ให้ดอกกอละ 2-3 ดอก อาการการหักพับของต้น เรียกว่า โรคเหี่ยวหรือโรคหัวเน่า เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อแบคทีเรีย การระบาดของโลก เริ่มจากใบแก่ที่อยู่ส่วนล่างของต้น ห่อม้วนเป็นหลอดคล้ายการขาดน้ำ โดยเฉพาะในช่วงเช้า หน่อหรือต้นที่แตกออกมาใหม่จะฉ่ำน้ำ ต่อมาจะลุกลามขึ้นไปส่วนบนของต้น ใบจะม้วนมีสีเหลืองทั้งต้น และลำต้นจะเน่าหักพับลง ในที่สุดต้นจะแห้งตาย หากเกิดการระบาดในหัว เมื่อบีบจะมีน้ำเมือกและกลิ่นเหม็น การระบาดเกิดอย่างรุนแรงในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกชุก หากมีการระบาดของไส้เดือนฝอยในช่วงดังกล่าวจะยิ่งทำให้การระบาดของโรคเกิดขึ้นได้เร็วและรุนแรงมากยิ่งขึ้น วิธีป้องกันและกำจัดโรค ให้เลือกพื้นที่ที่ไม่เคยปลูกพืชตระกูลมะเขือ ขิง มะเขือเทศ มันฝรั่ง ผักโขม มะแว้ง และงา มาก่อน การเตรียมแปลง ต้องกำจัดวัชพืชและนำออกจากแปลงแล้วไถตากดินอย่างน้อย 15-30 วัน เป็นอย่างน้อย หลังเก็บเกี่ยวแล้วต้องปลูกพืชตระกูลธัญพืชหมุนเวียนสลับกันไปกับปลูกปทุมาและหมั่นกำจัดวัชพืชในแปลงหรือกระถางให้สะอาด สิ่งสำคัญ การนำหัวพันธุ์มาปลูกต้องสมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากโรคและแมลงติดมา หากพบต้นเกิดโรคต้องถอนและเผาทำลาย แล้วราดด้วยสารละลายคลอรอกซ์เข้มข้น 10 เปอร์เซ็นต์ ก่อนเข้าแปลงต้องแช่รองเท้าด้วยคลอรอกซ์ความเข้มข้น 10 เปอร์เซ็นต์ เท่ากัน ระหว่างการเจริญเติบโต ระวังอย่าให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของปทุมาเกิดบาดแผล เพราะเชื้อโรคจะเข้าทำลายได้ง่าย และน้ำที่ใช้รดต้องสะอาด การปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น อาการของโรคหัวเน่าจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โทร. (053) 714-024 ในวันเวลาทำการ
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
3
ตำบล / แขวง :
ค้อใต้
อำเภอ / เขต :
สว่างแดนดิน
จังหวัด :
สกลนคร
รหัสไปรษณีย์ :
47110
ภาค :
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน : วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 18 ฉบับที่ 381
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM