แตงไทยมีถิ่นกำเนินดั้งเดิมอยู่ภายใต้ของทวีปแอฟริกาเช่นเดียวกับแตงโม และแพร่หลายไปทั่วโลกเหมือนกัน แตงไทยเข้ามาพื้นที่ประเทศไทยปัจจุบันตั้งแต่เมื่อใดไม่มีบันทึกเอาไว้แต่คงเป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้ว จึงพบว่ามีปลูกอยู่ทั่วไปทุกภาครวมทั้งคนกลุ่มน้อย เช่น ชาวไทยภูเขาต่างๆ ที่ปลูกแตงไทยมานานแล้วเช่นกัน
แตงไทยที่ปลูกในไทยมีความหลากหลายทางพันธุกรรมของสายพันธุ์เป็นอย่างมาก ในแต่ละพื้นที่ทั้งในด้านรูปร่างของผล ลวดลายบนผล สีผิวผล เนื้อผล สีเนื้อ สีไส้ เป็นต้น นอกจากนี้แตงไทยยังเป็นพืชที่ทนทานต่อการเข้าทำลายของโรคและแมลงค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับแตงชนิดอื่นๆ แตงไทยพืชผลไม้ไทยๆ มีปลูกกันมาแต่โบราณแล้ว ปัจจุบันเกษตรกรปลูกแตงไทยเป็นแบบรายได้เสริม ปลูกเพื่อใช้เป็นพืชคลุมดินแซมในสวนผลไม้ที่ต้นยังเล็กอยู่
การเตรียมแปลงปลูก
เริ่มจากไถแล้วก็ตามดินให้แห้ง ทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคและแมลงต่างๆ ในดิน จากนั้นจึงไถยกร่อง หลังร่องกว้าง 80-100 เซนติเมตร เว้นให้แปลงห่างกันประมาณ 4 เมตร จากนั้นหว่านปูนขาวให้ทั่วแปลงเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค และปรับสภาพดินไม่ให้เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค หากดินไม่ค่อยมีความสมบูรณ์ก็ควรใส่ปุ๋ยคอกเก่าเพิ่มลงไปในช่วงของการเตรียมแปลง ส่วนปุ๋ยเคมีนั้น ก็จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะแตงไทยเป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็วมาก เพื่อให้พืชได้มีอาหารอย่างเพียงพอ ดังนั้นต้องมีการหว่านปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 บนร่องแลงปลูก จากนั้นก็ต้องวางระบบน้ำ เช่น ระบบน้ำหยด
ข้อดีของระบบน้ำหยด คือ สามารถใช้ปุ๋ยเคมีผ่านระบบน้ำได้เลย ทำให้พืชสามารถนำไปใช้ได้เป็นอย่างดี ลดปัญหาการจัดการและแรงงานได้มาก เมื่อเตรียมความพร้อมของแปลงปลูกดีแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการใช้พลาสติกคลุมแปลง ส่วนมากที่ใช้กันคือ ความกว้าง 80 เซนติเมตร และขนาดความกว้าง 100 เซนติเมตร ซึ่งขนาดความกว้างของพลาสติกคลุมแปลง 80 เซนติเมตร จะดีกว่า เพราะเมื่อเถาแตงไทยเลื้อยพ้นพลาสติกคลุมแปลงลงมา รากของต้นแตงไทยจะได้น้ำที่ไหลชื้นนอกแปลงก่อน แต่ถ้าผืนพลาสติกกว้างเกินไปกว่าเถาแตงไทยจะเลื้อยพ้นก็ย่อมช้ากว่า ทั้งนี้ แปลงที่ใช้พลาสติกคลุมแปลงกว้าง 80 เซนติเมตรนั้น ต้นเจริญเติบโตเร็วกว่า ผลแตงไทยน้ำหนักผลดี เมื่อปูพลาสติกจนหมดแล้ว ก็จะเจาะรู โดยใช้ระยะปลูก 50 เซนติเมตร
วิธีการปลูก
ควรเปิดน้ำให้แปลงมีความชื้นเสียก่อน จึงค่อยหยอดเมล็ดพันธุ์แตงไทยตรงเลยที่หลุมปลูก จะหยอดหลุมละประมาณ 5-6 เมล็ด หลังจากนั้น 2-3 วัน เมล็ดแตงไทยก็จะทยอยงอกพร้อมๆกันทั้งหมดก็ต้องมาคัดเลือก ช่วงที่แตงไทยออกดอก ควรเว้นการใส่สารเคมีที่ฆ่าแมลง เช่น ผึ้ง มิ้ม เป็นต้น เพราะแตงไทยเป็นพืชที่ต้องการการผสมดอกจากแมลงเหล่านี้
การใช้สารเคมี
แตงไทยอายุได้ 20 วัน ให้เร่งการเจริญเติบโตให้เถาแตงไทยเดินใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 ให้ผ่านระบบน้ำหยด
การใส่ปุ๋ย
ส่วนใหญ่ทุกครั้งจะให้ปุ๋ยไปพร้อมกับการให้น้ำหยด การใส่ปุ๋ยไปกับระบบน้ำนั้นจะต้องนำปุ๋ยเคมีทางดิน สูตร 15-15-15 มาละลายกับน้ำสะอาด กวนปุ๋ยกับน้ำในถัง คนให้ปุ๋ยละลายให้หมด เสร็จแล้วทิ้งไว้ให้กากปุ๋ยตกตะกอน 1 คืน เช้าขึ้นมาก็จะรินส่วนที่เป็นน้ำใสๆ ชั้นด้านบนมาใช้โดยปล่อยน้ำปุ๋ยที่ได้ไปพร้อมกับระบบหยดน้ำ ซึ่งระบบน้ำแบบนี้ลงทุนครั้งเยว ประหยัดทั้งเวลา แรงงาน ค่าใช้จ่ายเป้นอย่างมาก และให้ผลดีชัดเจนกับแตงไทยด้วย เมื่อแตงไทยอายุได้ราว 30 วัน จะเป็นช่วงที่ต้นแตงไทยเริ่มออกดอกชุดแรกและเริ่มติดผลอ่อน ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่สุด ช่วงของการออกดอกและติดผลครั้งแรกต้องระวัง โดยจะใส่ปุ๋ยครั้งที่ 3 ด้วยสูตร 15-15-15 ในช่วงที่ผลแตงไทยมีขนาดประมาณข้อเขนมือ หรือผลใหญ่กว่าไข่เป็ดเบอร์ใหญ่ หรือผลแตงอ่อน มีน้ำหนัก 100-200 กรัม ซึ่งจะเป็นช่วงที่ต้นแตงไทยอายุประมาณ 45 วัน ให้สังเกตจากขนาดผลเป็นหลัก ในการให้ปุ๋ย ครั้งที่ 3 และการใส่ปุ๋ย ครั้งที่ 4 ก็มักจะใส่ช่วงผลแตงไทยชุดแรกมีขนาดใหญ่ ประมาณ 1-2 กิโลกรัม เพราะเป็นช่วงสร้างเนื้อขยายผล
การลูกแตงไทยจะมีต้นทุนเฉลี่ยต่อไร่ประมาณ 2,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าปุ๋ย การวางระบบน้ำ สารป้องกันแมลง พลาสติกคลุมแปลง เป็นต้น แต่การลงทุนด้วยวัสดุบางชนิดสามารถใช้งานได้ถึง 3-4 รอบการผลิตส่วนรายได้เฉลี่ยต่อไร่ประมาณ 20,000 บาท จึงนับว่าเป็นผลไม้ตระกูลแตงที่น่าปลูกอีกชนิดหนึ่งทีเดียว