เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
เทคนิคการเลี้ยงกล้วยไม้ให้งาม
   
ปัญหา :
 
 
    ผมมีความสนใจจะปลูกกล้วยไม้เป็นงานอดิเรก ไม่ว่าจะเป็นสกุลช้าง สกุลแวนด้า หรือสกุลหวายในกลุ่มของแคทลียาก็ตาม โดยผมซื้อไม้ขวดมาปลูก ใช้น้ำจากภูเขารด ส่วนกระเช้าหรือกระถางปลูกแขวนไว้กับแนวต้นยางพารา กล้วยไม้จะได้รับแสงตั้งแต่เวลา 08.00 น. ไปจนถึง 14.30 น. ปัจจุบันบางสกุลมีลำต้นและใบยาว 3-5 นิ้ว พบว่า ที่ใบมีจุดดำลึกขอบมีสีเหลือง ต่อมาจะเน่าเสียหาย ผมต้องตัดทิ้งไปบ้าง ไม่ทราบเป็นโรคอะไร จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร และจะมีวิธีเลี้ยงอย่างไรจึงจะได้ผลดี ขอคำแนะนำด้วยครับ
วิธีแก้ไข :
 
    กล้วยไม้ เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว จัดอยู่ในวงศ์กล้วยไม้ นับว่าเป็นวงศ์ (แฟมิลี่) ของพืชมีดอกที่ใหญ่ที่สุดอีกวงศ์หนึ่ง ซึ่งมีมากกว่า 25,000 ชนิด (สปีซี่ส์) กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของโลก กล้วยไม้ภาษาอังกฤษเรียกว่า ออคิด หรือ ออร์คิด มีความหมายว่า ลักษณะโป่งตอนกลาง สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ในเขตร้อนชื้นควรมีดังนี้ แสงแดด กล้วยไม้แต่ละสกุลต้องการแสงแดดแตกต่างกัน เช่น สกุลหวาย ต้องการแสงแดดเพียง 60-70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแวนด้าต้องการแสงแดดเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง ดังนั้น การปลูกกล้วยไม้จำเป็นต้องพรางแสงให้ตามความเหมาะสมของแต่ละสกุล อุณหภูมิ กล้วยไม้เขตร้อนเจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิ 25-35 องศาเซลเซียส เมื่อมีการพรางแสงและให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ปัญหาเรื่องอุณหภูมิจึงไม่เกิดขึ้นในบ้านเรา ความชื้น กล้วยไม้เกือบทุกสกุลต้องการความชื้นสัมพัทธ์อยู่ระหว่าง 60-80 เปอร์เซ็นต์ โดยรักษาความชื้นที่บริเวณรากให้อยู่ในระดับที่กล่าวมาข้างต้น สิ่งพึงระวังคืออย่าให้ลมพัดโกรกแรงและไม่ควรรดน้ำบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้บริเวณรากชื้น และมากเกินความจำเป็น ในโรงเรือนต้องจัดการให้มีลมพัดผ่านได้ดี แม้แต่เครื่องปลูกก็ควรโปร่ง ไม่ขังน้ำจนรากชื้นแฉะ ธาตุอาหาร ในสภาพธรรมชาติกล้วยไม้จะได้ธาตุอาหารจากเศษซากพืชที่เน่าเปื่อยผุพัง และเมื่อนำมาปลูกในกระถางหรือกระเช้าจึงจำเป็นต้องให้ปุ๋ยเคมีแทนอินทรียวัตถุในธรรมชาติ คือในระยะ ลูกกล้วยไม้ ที่นำออกจากขวดใหม่ๆ ให้ใช้ปุ๋ยเกล็ดละลายน้ำได้สูตร 30-10-10 หรือ 10-20-10 หรือสูตรใกล้เคียง อัตรา 50 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ เดือนละสองครั้ง กล้วยไม้วัยหนุ่มสาว ระยะใกล้ออกดอกใช้ปุ๋ยสูตร 10-20-10 หรือ 15-15-15 อัตรา 50-100 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ 2 ครั้ง ต่อเดือน และระยะแทงช่อ ด้วยปุ๋ยสูตร 16-21-27 หรือ 20-20-20 อัตรา 50-100 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ เดือนละ 2 ครั้ง หลังแทงช่อแล้วไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยอีก อายุการติดดอกอยู่ระหว่าง 8-24 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ และสายพันธุ์ที่ปลูก วัสดุปลูก นับเป็นองค์ประกอบสำคัญในการนำไปสู่ความสำเร็จในการปลูกกล้วยไม้ วัสดุปลูกสำหรับกล้วยไม้ชนิดรากอากาศและกึ่งรากอากาศ เช่น สกุลแวนด้า ช้าง เข็ม และกุหลาบ ต้องเป็นวัสดุที่อุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี ได้แก่ ออสมันด้า ซึ่งเป็นเฟิร์นชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นเส้นฝอย แห้งและมีน้ำหนักเบา แต่มีข้อเสียคือ มีราคาแพง ถ่าน ข้อดีมีน้ำหนักเบา อุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี หาได้ง่าย และสะอาด กาบมะพร้าว ข้อดีหาได้ง่าย เก็บความชื้นได้ดี มีข้อเสียคือ เปื่อยยุ่ยง่ายกว่าถ่านไม้ อิฐหัก เก็บความชื้นและระบายน้ำได้ดี หาได้ง่าย แต่ข้อเสียคือ มีน้ำหนักเบา และ โฟม ข้อดีมีน้ำหนักเบา หาได้ง่าย มีความยืดหยุ่นได้ดี ช่องว่างระหว่างก้อนโฟมที่ทำให้เล็กจะเก็บน้ำได้ดี ส่วนวัสดุปลูกของ กล้วยไม้ดิน ให้ใช้อินทรียวัตถุ เช่น เศษใบไม้แห้งหมักให้ได้ที่ผสมกับถ่านและอิฐหัก ก็นับว่าใช้ได้ผลดี อาการของโรคพบที่ใบ คือ โรคใบจุด เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อราชนิดหนึ่ง อาการของโรคที่ระบาดในกล้วยไม้แวนด้าพบรอยแผลยาวรีคล้ายกระสวย บริเวณกลางของแผลจะเป็นตุ่มนูน แต่ถ้าหากเกิดที่ใบของกล้วยไม้สกุลหวายพบเป็นจุดสีดำขนาดเล็ก เท่าปลายเข็มหมุดและขยายเพิ่มขนาดขึ้นถึงเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ยุบลงลึกในเนื้อใบ ขอบแผลสีน้ำตาลอ่อน ต่อมาจะลุกลามทำให้ใบเน่าเสียหาย วิธีป้องกันกำจัด ให้ตัดใบที่เริ่มแสดงอาการของโรคเผาทำลายทิ้งไป หากเกิดการระบาดรุนแรงให้ฉีดพ่นด้วยคาร์เบนดาซิม หรือแมนโคเซบ ตามอัตราและเวลา ที่ระบุไว้ที่ฉลาก
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
11
ตำบล / แขวง :
ตะโหมด
อำเภอ / เขต :
ตะโหมด
จังหวัด :
พัทลุง
รหัสไปรษณีย์ :
93160
ภาค :
ภาคใต้
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน : วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ปีที่ 18 ฉบับที่ 377
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM