ผมปลูกกล้วยไม้ไว้พอสมควร แต่ไม่ได้ปลูกเป็นการค้า ปลูกไว้เพื่อคลายเครียดเท่านั้น และปลูกไว้หลายพันธุ์ ผมมีปัญหาขอเรียนถามคุณหมอเกษตร ดังนี้ 

1.  เมล็ดกล้วยไม้สกุลหวายที่ผมผสมเกสรไว้ จะเพาะเลี้ยงอย่างไร ใช้อะไรเป็นวัสดุเพาะ รวมทั้งสกุลรองเท้านารีด้วย 
2.  เมล็ดสกุลหวาย กับรองเท้านารี ใช้วัสดุเพาะต่างกันหรือไม่ 
3.  ต้องรดน้ำช่วงเวลาไหน วันละกี่ครั้ง 
4.  สถานที่เพาะต้องอยู่ในที่ร่มเงาหรือมีแสงแดดรำไร
5.  ออสมันด้า หมายถึง อะไร

1.-4. การเพาะเมล็ดกล้วยไม้ทุกชนิดใช้อาหารเทียมเพาะเลี้ยงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ การสุกแก่ของฝักกล้วยไม้ย่อมแตกต่างกันขึ้นกับชนิดและพันธุ์ของกล้วยไม้ สกุลหวายใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ ส่วนสกุลแวนด้าใช้เวลา 10-12 สัปดาห์ ซึ่งใกล้เคียงกับกล้วยไม้รองเท้านารี ก่อนนำไปเพาะในอาหารเทียม ต้องทำความสะอาดบริเวณผิวด้านนอกของฝักด้วยการแช่ในแอลกอฮอล์เข้มข้น 75 เปอร์เซ็นต์ นาน 15 นาที การเตรียมอาหารเทียม มีส่วนผสมของ แอมโมเนียมซัลเฟต 0.5 กรัม ไดโพแทสเซียมฟอสเฟต 0.25 กรัม โพแทสเซียมไนเตรต 0.525 กรัม แมกนีเซียมซัลเฟต 0.25 กรัม ไตรแคลเซียมฟอสเฟต 0.20 กรัม เฟอริกตราเตรต 0.028 กรัม แมกนีเซียมซัลเฟต 0.0075 กรัม น้ำมะพร้าว 15 เปอร์เซ็นต์ น้ำตาลทราย 20.00 กรัม มันฝรั่ง 100 กรัม กล้วยหอมบด 100 กรัม และวุ้นสำหรับทำขนม 8 กรัม เติมน้ำสะอาดจนครบ 1 ลิตร นำส่วนผสมทั้งหมดต้มในภาชนะ ใช้ไฟอ่อน ๆ กวนจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน เทลงในขวดสุราต่างประเทศชนิดขวดเหลี่ยมที่ล้างจนสะอาด ปริมาณเมื่อนำขวดนอนราบให้มีเนื้อของส่วนผสมหนา 1 เซนติเมตร จากนั้นปิดจุกยางเจาะรูขนาดเล็ก 1 รู นำเข้าอบในตู้หม้อนึ่งที่มีความดัน 15 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว นาน 25 นาที จากนั้นลดอุณหภูมิและความดันลงในระดับปกติ ขณะอาหารวุ้นยังอ่อนตัวอยู่ให้จับขวดนอนราบลงให้ผิวหน้าอาหารวุ้นมีพื้นที่หน้าตัดสูงสุด จากนั้นผ่าฝักกล้วยไม้ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว นำเมล็ดโรยลงบนผิวหน้าอาหารวุ้น ขณะเพาะเมล็ดต้องลนปากขวดด้วยเปลวไฟตะเกียงแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทุกครั้งที่เปิด-ปิดฝาจุก นำเข้าเก็บในห้องอุณหภูมิปกติพร้อมให้แสงสว่างจากหลอดนีออน ปล่อยทิ้งไว้ 7-10 วัน เมล็ดจะงอกปรากฏให้เห็น อีก 6-8 เดือน นำออกปลูกลงกระถางได้ ต้องการรายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณรุ่งนภา เอื้อประยูรวงศ์ เจ้าพระยาออร์คิด อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โทร. (02) 593-1398 5. ออสมันด้า คือรากของต้นเฟิร์นชนิดหนึ่ง ที่มีขายในตลาดนั้นผ่านการตากแห้งแล้ว ในประเทศไทยมีอยู่ตามที่สูงภาคเหนือ แต่มีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด จำเป็นต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศมาใช้ ข้อดีของออสมันด้าคือ เป็นวัสดุปลูกที่ทนทาน เก็บความชื้นได้ดี ไม่มีสารพิษ เมื่อรดน้ำแล้วไม่เปียกแฉะเกินไป เหมาะสำหรับใช้เป็นวัสดุปลูกของกล้วยไม้ที่นำออกจากขวดใหม่ ๆ รวมทั้งใช้เป็นวัดสุปลูกที่ดีของ ไม้สกุลหวาย และแคทลียา อย่างไรก็ตาม ก่อนนำออสมันด้ามาใช้ ต้องล้างโดยวิธีแช่ในตุ่มหรือโอ่งน้ำขนาดใหญ่ ถ่ายน้ำ 2 ครั้ง เก็บเศษใบไม้หรือรากไม้อื่น ๆ ออกให้หมด และแช่น้ำเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จึงนำออกตากแดดจนแห้งแล้วเก็บไว้ใช้หรือจำหน่ายต่อไป