ผมมีสวนลองกองอยู่ 14 ไร่ อายุประมาณ 5 ปี ยังไม่ติดผล ทุกปีต้นลองกองของผมจะตาย 4-5 ต้น อาการที่พบการตายในช่วงแรกจะมีใบเขียว ต่อมาเริ่มเหี่ยวและสีไม่เขียวเหมือนเดิม เมื่อขุดดูที่รากจะพบว่ามีรากและโคนต้นเน่า ผมคาดเดาว่าอาจเกิดจากเชื้อรา จึงราดด้วยสารเคมีอาริเอท บริเวณโคนต้นแต่ก็ไม่สามารถจะรักษาได้และตายลงในที่สุด จึงขอเรียนถามว่า จะมีวิธีป้องกันและแก้ไขอย่างไรได้บ้างครับ

    โรครากเน่าโคนเน่า ส่วนใหญ่มักระบาดในทุเรียน หากปีใดมีการระบาดของโรคนี้จะทำความเสียหายให้ชาวสวนทุเรียนเป็นอย่างมาก โรครากเน่าโคนเน่าเกิดจากเชื้อรา ไฟทอปทอร่า บริเวณที่เกิดโรคไม่ว่าจะที่รากหรือโคนต้น สีของเปลือกจะเข้ม แผลมีสีน้ำตาลปนแดง หรืออาจมีรอยแตกบริเวณที่เป็นแผลและมีน้ำยางไหลออกมา หากเกิดที่รากจะเน่าดำและฉีกขาดง่ายกว่าปกติ เชื้อไฟทอปทอร่า สามารถแพร่กระจายได้หลายทาง เช่น ถูกพัดพาด้วยลม ไหลไปกับน้ำติดไปกับดินและชิ้นส่วนของพืช โรคนี้มักระบาดรุนแรงในฤดูฝนที่มีความชื้นสูง วิธีป้องกันและกำจัดหรือการควบคุม แนะนำให้ใช้หลายวิธี เริ่มจากการปรับสภาพพื้นสวน ให้ระบายน้ำลงแหล่งน้ำได้ดี หลังฝนตกหรือหลังการให้น้ำจะไม่มีน้ำขังในสวน ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง แสงแดดส่องและลมพัดผ่านเข้าภายในทรงพุ่มได้ดี พร้อมพูนโคนต้นเป็นรูปหลังเต่า ป้องกันน้ำขังแฉะ เมื่อพบการระบาดของโรคในระยะเริ่มต้นให้ใช้มีดที่สะอาดและคม ขูดหรือถากบริเวณรอยแผลออกให้สะอาดแล้วทาแผลด้วยปูนขาวหรือปูนแดงก็ได้ การใช้เชื้อราไตรโคเดอมา ควบคุมเชื้อไฟทอปทอรา ในอัตราส่วนผสมของเชื้อไตรโคเดอมา : รำข้าว : ปุ๋ยคอกเก่า ในอัตรา 1 : 25 : 25 โดยน้ำหนักคลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยรอบโคนต้นลองกองอัตรา 5 กิโลกรัม ต่อต้น จะสามารถคุ้มโรคได้ตลอดฤดูฝน ในกรณีที่เกิดการระบาดรุนแรง ให้ขูดบริเวณแผลที่เป็นโรคออก แล้วทาด้วย เมตาแลกซิล 25% อัตรา 50-60 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร การปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นอาการของโรคจะเบาบางลงและหมดไปในที่สุด สิ่งสำคัญสารเคมีชนิดนี้ไม่ควรใช้ซ้ำหลายครั้ง เพราะจะทำให้เชื้อโรคปรับตัวสร้างภูมิต้านทานต่อสารเคมีขึ้นได้