ดิฉันปลูกกล้วยไว้บริเวณหลังบ้าน 2-3 กอ ปีที่หนึ่งต้นกล้วยเจริญเติบโตดี พอย่างเข้าปีที่สอง พบว่าปลายใบและขอบใบมีสีเหลืองไหม้ และหักพับลงที่โคนก้านใบ แต่ยอดอ่อนยังคงเหลืองตั้งตรง และตายลงในที่สุด หากเกิดโรคระบาดขณะตกเครือ ผลจะเหี่ยวและลีบเล็ก เนื้อฟ่าม สุกแก่ก่อนกำหนด อาการที่กล่าวมามีคนบอกว่าเกิดจากโรคตายพราย ดิฉันจะมีวิธีป้องกันและแก้ไขอย่างไร ขอถามเพียงเท่านี้ก่อนค่ะ

    อาการ ที่เล่ามาเรียกว่า โรคตายพราย ของกล้วยถูกต้องแล้วครับ โรคชนิดนี้เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง ของกล้วย โรคชนิดนี้เริ่มระบาดตั้งแต่กล้วยมีอายุ 4-5 เดือน ขึ้นไป บางครั้งโคนใบหักพับลงโดยไม่แสดงอาการใบเหลืองมาก่อนก็มี เมื่อนำลำต้นมาตัดตามขวางจะพบว่า กาบกล้วยด้านในบางส่วนมีสีน้ำตาลแดง พบเส้นใยของเชื้อราปรากฏให้เห็น และอาจมีกลิ่นเหม็นเน่าเกิดขึ้น วิธีป้องกันกำจัด ให้ปรับพื้นที่ปลูกกล้วยให้ระบายน้ำได้ดี อย่าให้มีน้ำขังแฉะ ต้นกล้วยจะอ่อนแอ ดินที่เป็นกรดจัดควรใส่ปูนขาว อัตรา 1-2 กิโลกรัม ต่อต้น เมื่อพบต้นที่เป็นโรคให้ตัดและเผาทำลายเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมและแพร่ระบาดของโรค ในช่วงการระบาดของโรค ให้ลดการใส่ปุ๋ยลง ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี โดยเฉพาะปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูง สิ่งสำคัญการนำหน่อพันธุ์กล้วยจากแหล่งที่ปราศจากโรคตายพรายมาปลูก โดยธรรมชาติแล้ว กล้วยน้ำว้า และกล้วยหอมทอง มักอ่อนแอต่อโรคตายพราย หากมีการระบาดรุนแรงต่อเนื่องในกล้วยทั้งสองชนิด ควรปลูกกล้วยไข่และกล้วยหักมุกแทน การระบาดของโรคจะหมดไปในที่สุด