ผมทดลองเพาะเห็ดเป๋าฮื้อ แต่เกิดปัญหามาก คือมีราดำเกิดในก้อนเห็ด จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง หากจะเพาะให้ได้ผล จะมีวิธีปฏิบัติอย่างไร และวิธีทำต้นดอกเฟื่องฟ้าให้มีหลายสีในต้นเดียวกันจะทำได้อย่างไรครับ

    เห็ดเป๋าฮื้อ ที่เพาะ หรือบางคนอาจเรียกว่า ปลูก ไว้มีความหมายเดียวกัน การเกิดราดำในถุงเพาะเกิดขึ้นได้จากทั้งการนึ่งฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับวัสดุเพาะไม่หมด หรืออาจเกิดหลังจากการเปิดถุงแล้ว แต่ให้น้ำมากเกินไปจนแฉะ ซึ่งเอื้อให้ราดำเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว การแก้ไขให้นำไปเผาทำลายเป็นวิธีที่ดีที่สุด เทคนิคการเพาะเห็ดเป๋าฮื้อ เตรียมอาหารโดยใช้ขี้เลื่อยแห้ง 100 กิโลกรัม รำละเอียด 3-5 กิโลกรัม ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม ปูนขาว 1 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 2-3 กิโลกรัม คลุกเคล้าให้เข้ากัน รดน้ำและคลุกเคล้าอีกครั้งจนเข้ากันดี และมีความชื้น 60-70 เปอร์เซ็นต์ ทดสอบโดยใช้มือบีบอาหารผสมให้แน่น เมื่อพบว่ามีน้ำเยิ้มออกมาเล็กน้อยถือว่าใช้ได้ นำบรรจุลงในถุงพลาสติกทนร้อน ขนาด 7x11 หรือ 9x13 นิ้ว อัดอาหารผสมพอแน่น ให้ได้ปริมาณ 2 ใน 3 ส่วน ของถุง รวบปากถุง บีบไล่อากาศออกจนหมด สวมคอพลาสติก พับปากถุงพาดลง รัดยางหนังสติ๊กให้แน่น อุดปากถุงด้วยสำลี หุ้มทับด้วยกระดาษหรือฝาครอบพลาสติกสำเร็จรูป นำถุงเพาะพร้อมอาหารผสม นึ่งในถังนึ่งที่ไม่ใช้ความดัน ที่อุณหภูมิ 90-100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง ส่วนกรณีอบในหม้อนึ่งควบคุมความดันใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง ก็พอ จากนั้นทิ้งให้เย็น เปิดปากถุงใส่เชื้อที่เพาะเลี้ยงไว้ในขวดมีเมล็ดข้าวฟ่างนึ่งเป็นอาหาร อัตราถุงละ 10-15 เมล็ด และปิดจุกโดยเร็ว ระหว่างใส่เชื้อต้องปฏิบัติในห้องที่สะอาดและไม่มีลมโกรกแรง นำถุงที่ใส่เชื้อแล้วบ่มเส้นใยนาน 1.5-2 เดือน ที่อุณหภูมิระหว่าง 24-28 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-90 เปอร์เซ็นต์ ให้ได้รับแสงเพียงเล็กน้อย เปิดดอก ในโรงเรือนขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร และสูง 2.5 เมตร เก็บก้อนเห็ดได้ 1,500 ก้อน หรือถุง โรงเรือนมุงด้วยหญ้าแฝกจะได้ผลดี สถานที่ก่อสร้างโรงเรือนต้องสะอาด ภายในต้องเก็บความชื้นได้ และอากาศถ่ายเทได้ดี อาจทำเป็นชั้นวางหรือมีแป้นแขวนถุงเพาะเห็ดก็ได้ ระยะเปิดดอก ให้มีความชื้นสัมพัทธ์เท่ากับระยะบ่ม ส่วนอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 28-32 องศาเซลเซียส ในกรณีที่อากาศแห้งมากควรพ่นน้ำเป็นละออง แต่ระวังอย่าให้น้ำขังในถุงเพาะเห็ด เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราดำได้ ต่อมาเห็ดจะเริ่มให้ดอก การเก็บดอก แนะนำให้เก็บเมื่อดอกเริ่มบานแต่ขอบยังไม่คลี่เต็มที่ การเก็บควรเก็บทั้งช่อ ไม่ควรให้เศษเหลือติดค้างอยู่กับก้อนเชื้อเห็ด เพราะจะทำให้เชื้อโรคเข้าทำลายจนเน่าเสียหาย ต้องการรายละเอียดอื่น ๆ และคำแนะนำการเพาะเห็ดเป๋าฮื้อรวมถึงเห็ดเศรษฐกิจทุกชนิด ติดต่อที่ สมาคมนักวิจัยและเพาะเห็ดแห่งประเทศไทย ตึกโภชนาการ กรมวิชาการเกษตร จตุจักร กทม. 10900 โทร. (02) 579-0147 และ (02) 579-8558 ในวันเวลาราชการ การทำให้ต้นเฟื่องฟ้ามีดอกหลายสีในต้นเดียวกัน ทำได้ด้วยวิธีเปลี่ยนยอด ซึ่งดีกว่าวิธีติดตาและทาบกิ่ง เนื่องจากต้นเฟื่องฟ้ามีเปลือกบางใช้สองวิธีหลัง จึงมักไม่ได้ผล ก่อนการเปลี่ยนยอด ควรเตรียมต้นตอดังนี้ บำรุงต้นให้สมบูรณ์ เพื่อให้แตกตาและยอดใหม่ จนพัฒนาเมื่อกิ่งใหม่มีขนาดเท่าดินสอดำ จึงตัดยอดให้เหลือความยาวเพียง 2-4 นิ้ว การเตรียมยอดพันธุ์ดี เลือกยอดที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีขนาดใกล้เคียงกับต้นตอ ตัดให้ยาว 2-3 นิ้ว การเคลื่อนย้ายจากแหล่งอื่นให้นำยอดใส่ลงในถุงพลาสติก หุ้มด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำพอชุ่ม ผูกปากถุงให้แน่น เมื่อถึงปลายทางให้นำมาใช้ทันที การเปลี่ยนยอด ใช้มีดคมและสะอาดผ่าลงตรงกลางกิ่งต้นตอที่เตรียมไว้ก่อน ลึก 1-1.5 นิ้ว เฉือนโคนกิ่งพันธุ์ดีเป็นรูปลิ่มยาว 1-1.5 นิ้ว เท่ากัน เสียบยอดลงในรอยผ่าที่ต้นตอ จัดยอดให้ชิดขอบด้านใดด้านหนึ่งของต้นตอ พันด้วยพลาสติกใสขนาดกว้าง 0.8-1.0 นิ้ว จากด้านล่างขึ้นมายังด้านบนปิดรอยแผลให้มิด ครอบด้วยถุงพลาสติกใส ผูกด้วยเชือกมัดปากถุงให้ติดแน่นกับโคนกิ่ง ป้องกันการระเหยน้ำของรอยแผลทั้งต้นตอ ยอดพันธุ์ดี และครอบด้วยถุงกระดาษอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันแสงแดดเผาไหม้ ปล่อยไว้ 7-10 วัน หากพบว่ายอดยังเขียวสดอยู่แสดงว่าแผลสนิทดี จึงนำถุงกระดาษออก เมื่อกิ่งพันธุ์ดีแตกตาและแตกใบอ่อนจะต้องฉีกถุงพลาสติกออกเช่นเดียวกัน ในทำนองเดียวกันกิ่งต้นตอกิ่งอื่นให้ใช้วิธีเดียวกัน แต่เปลี่ยนยอดพันธุ์เป็นสีอื่น ในที่สุดคุณจะได้ต้นเฟื่องฟ้าแฟนซีตามต้องการ