เป็นผู้ที่นิยมรับประทาน ผลกีวีฟรุตมากคนหนึ่ง แต่เนื่องจากปัจจุบันราคาค่อนข้างแพง ไม่ทราบว่าจะปลูกในบ้านเราได้ผลดีหรือไม่ เพราะว่าหากปลูกได้ดีแล้ว ราคาน่าจะถูกลงกว่าในปัจจุบัน

กีวีฟรุต ท่านทราบหรือไม่ว่า กีวีฟรุตเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน แต่กลับมาเป็นที่รู้จักของชาวโลกในนามของกีวีฟรุต ที่นำมาพัฒนาโดยประเทศนิวซีแลนด์ ปัจจุบันมีการนำไปปลูกเป็นผลไม้เศรษฐกิจในหลายประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ อิตาลี จีน ชิลี และฝรั่งเศส การผลิตกีวีฟรุตในแต่ละปีเฉลี่ยประมาณ 1.2 ล้านตัน กีวีฟรุตเป็นไม้ประเภทเถาเลื้อยคล้ายกับองุ่น การปลูกกีวีฟรุตจึงต้องทำค้างให้เลื้อย ผลกีวีฟรุตมีขนาดใกล้เคียงกับไข่ไก่ เปลือกมีขนอ่อนสีน้ำตาลขึ้นปกคลุมทั่วทั้งผล เนื้อในมีสีเขียว เมล็ดสีดำขนาดเล็ก เรียงเป็นริ้วรอบแกนกลาง เนื้อนุ่ม กลิ่นหอมเฉพาะตัว นักบริโภคผลไม้ได้พรรณาไว้ว่า เนื้อผลกีวีฟรุตมีกลิ่นและรสชาติคล้ายกับส่วนผสมของสตรอเบอรี่ กล้วย และสับปะรด เนื่องจากกีวีฟรุตมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน จึงมีชื่อเรียกว่า ไชนีส กูซเบอร์รี่ (Chinese gooseberry) ต่อมามีการนำไปทดลองปลูกและพัฒนาพันธุ์ที่ประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงที่จีนปิดประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2502 กีวีฟรุตเริ่มเป็นที่รู้จักและนิยมบริโภคกันมากขึ้นในนิวซีแลนด์ ต่อมาในปีพ.ศ. 2517 เริ่มมีการส่งออกจำหน่ายไปยังประเทศต่างๆ ในชื่อว่า กีวีฟรุต ผลการวิจัยพบว่า เนื้อผลกีวีฟรุตอุดมไปด้วยธาตุโพแทสเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส และวิตามิน เอ ปัจจุบันในประเทศไทยมีการวิจัยการผลิตกีวีฟรุต ที่โครงการหลวง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ยังไม่สามารถคัดเลือกพันธุ์ที่ให้คุณภาพเทียบเท่าประเทศต้นตำรับได้ เนื่องจากแต่ละสายพันธุ์ยังต้องการอากาศหนาวเย็นมากกว่าพื้นที่โครงการหลวง อย่างไรก็ตาม โครงการได้คัดเลือกกีวีฟรุตสายพันธุ์ เยลโลจอย ไว้ เนื่องจากมีโอกาสพัฒนาให้เป็นพืชเศรษฐกิจได้ดีกว่าสายพันธุ์อื่นๆ การวิจัยที่โครงการหลวงพบว่า กีวีฟรุตเกือบทุกสายพันธุ์จะออกดอกในเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน หากประเทศไทยคัดเลือกสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานแล้ว คาดว่าจะสามารถขอส่วนแบ่งการตลาดจากนิวซีแลนด์ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากฤดูเก็บเกี่ยวของนิวซีแลนด์อยู่ระหว่างเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมีนาคม ส่วนการวิจัยด้านการจัดการดิน ปุ๋ย และน้ำ ยังไม่มีการสรุปผล สำหรับการอารักขาพืชนั้น ยังไม่พบการระบาดจากโรคและแมลงศัตรูที่สำคัญแต่อย่างใด หากมีผลงานวิจัยที่ก้าวหน้าประการใดแล้ว จะนำมารายงานให้ท่านได้รับทราบต่อไป