ปลูกปาล์มน้ำมันไว้ 20 ไร่ พบอาการผิดปกติอยู่หลายต้น ทั้งๆ ที่ผมใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำแต่ก็ไม่หาย ลักษณะอาการใบบิดหักงอ บางต้นมีจุดสีดำที่ใบเต็มไปหมด จึงขอเรียนถามว่าเกิดจากอะไร และจะรักษาอย่างไร

อาการใบบิดงอ เรียกว่า โรคทางใบบิด สาเหตุของอาการดังกล่าวยังไม่สามารถสรุปได้ แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากการผิดปกติทางสรีระของพืชที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อปาล์มน้ำมันมีอายุมากขึ้น อาการใบบิดงอจะหายไป การแสดงอาการเริ่มมีแผลสีน้ำตาลแดง ฉ่ำน้ำที่บริเวณทางใบ ต่อมาแผลขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ใบย่อยที่ยังไม่คลี่เน่า ทำให้ยอดของทางใบโค้งงอลงและเมื่อทางใบคลี่ออกพบว่า ใบย่อยบริเวณตอนกลางของทางใบฉีกขาดรุ่งริ่ง เหลือเพียงเส้นกลางใบเท่านั้น หากอาการรุนแรง ทางใบจะโค้งงอรอบบริเวณยอดของต้นปาล์ม ลักษณะคล้ายมงกุฏ

วิธีป้องกันและกำจัด เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุแน่นอน การป้องกันกำจัดจึงมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงพันธุ์ให้ต้านทานอาการดังกล่าวเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ในปัจจุบันแนะนำให้รักษาตามอาการไปก่อน คือเมื่อพบอาการเริ่มปรากฏขึ้นที่บริเวณยอดทางใบอ่อน ให้ตัดส่วนที่ผิดปกติเผาทิ้งไปและฉีดพ่นด้วยแคปแทนเซนต์ หรือไทอะเบนดาโซล ตามอัตราแนะนำข้างฉลาก 2-3 ครั้ง ทุกสัปดาห์ อาการของโรคจะทุเลาและหมดไปในที่สุด

ส่วนต้นที่ใบมีจุดสีดำเต็มไปหมด เรียกว่า โรคใบจุด เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อราชนิดหนึ่ง มักเข้าทำลายใบและยอดอ่อนที่ยังไม่คลี่ออก อาการเริ่มแรกจะเกิดจุดขนาดเล็กๆ เท่าปลายเข็มหมุด สีเหลืองใสล้อมรอบจุดมีวงแหวนสีเหลือง แผลส่วนใหญ่เกิดรวมเป็นกลุ่มที่บริเวณปลายใบ ระยะต่อมาแผลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและสีดำตามลำดับ หากการระบาดรุนแรงขึ้นวงแหวนจะขยายตัวต่อเชื่อมกัน ทำให้ใบมีสีเหลืองทั้งใบ แล้วแห้งลุกลามจากปลายใบสู่โคนใบ อาการของโรคใบจุดจะคล้ายกับโรคใบไหม้ แต่โรคใบจุดมีขนาดของแผลเล็กกว่าแผลของโรคใบไหม้ การแพร่ระบาด เนื่องจากสปอร์ซึ่งเป็นส่วนขยายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กมากถูกลมและน้ำพัดพาไป

วิธีป้องกันกำจัด หากพบในระยะกล้าให้แยกเผาทำลายทิ้งไปเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรค หากเกิดการระบาดรุนแรงให้ฉีดพ่นด้วยไทแรม หรือแคปแทน ทั้งใต้ใบและบนผิวใบทั่วทรงพุ่ม ตามอัตราแนะนำและวิธีใช้ข้างฉลาก การระบาดของโรคจะคลี่คลายและหมดไปในที่สุด

โรคไหม้ เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อรา นับว่าเป็นโรคสำคัญของปาล์มน้ำมันชนิดหนึ่งที่ทำให้ผลผลิตของปาล์มน้ำมันลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ การระบาดเริ่มขณะที่ปลายทางใบคลี่ออก 2 ใบ โดยพบจุดเล็กๆ โปร่งใสกระจายทั่วไป ต่อมาแผลขยายใหญ่ขึ้น มีรูปร่างกลมตอนกลางกลับยุบต่ำลง ขอบแผลนูนขึ้นและมันวาว มีวงขอบเป็นสีเหลือง แล้วเปลี่ยนเป็นวงรี ความยาว 7-8 มิลลิเมตร การทำลายจะรุนแรงขึ้น รอยแผลจะเชื่อมติดกัน ลักษณะคล้ายถูกไฟลวก การระบาดในระยะกล้าอาจทำให้ต้นกล้าตายได้ และไม่ควรนำต้นกล้าจากแปลงที่มีโรคไหม้ระบาดไปใช้เป็นพันธุ์ปลูก

วิธีป้องกันกำจัด เนื่องจากการแพร่ระบาดต้องอาศัยสปอร์ที่ปลิวไปกับลมหรือถูกน้ำพัดพาไป เมื่อพบการระบาดระยะแรกให้ตัดส่วนที่เกิดโรคนำไปเผาทำลาย ต้องบำรุงต้นกล้าให้แข็งแรงสมบูรณ์ ปรับสภาพแปลงเพาะกล้าให้โปร่ง ลมพัดผ่านได้สะดวกและรับแสงแดดได้อย่างเต็มที่ หากเกิดการระบาดรุนแรงแนะนำให้ฉีดพ่นด้วยเบโนมิล หรือแคปแทน ตามอัตราแนะนำข้างฉลาก การระบาดของโรคจะหมดไปในที่สุด