เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
ว่านน้ำ
   
ปัญหา :
 
 
ว่านน้ำ เป็นพืชสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชได้หลายชนิด นอกจากนี้ ว่านน้ำยังเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในเภสัชตำรับของหลายประเทศ สามารถใช้รักษาโรคได้หลายชนิด โดยนำไปใช้เป็นส่วนผสมของยาสมุนไพรได้หลายขนาน แต่ถ้านำมาแปรรูปเป็นสารสกัดหรือน้ำมันหอมระเหยก็จะนำไปใช้ในรูปแต่งกลิ่นเบียร์และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยอาศัยไกโคลไซด์ที่ทำให้เกิดรสขม

ว่านน้ำ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Acorus calamus Linn. ชื่อสามัญ Mytle Grass, Sweet Flag จัดอยู่ในวงศ์ Araceae มีชื่ออื่นคือ คงเจี้ยงจี้ ผมผา ส้มชื่น ฮางคาวน้ำ ฮางคาวบ้าน (ภาคเหนือ) ตะไคร้น้ำ (เพชรบุรี) ทิสีปุตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ว่านน้ำ ว่านน้ำเล็ก ฮางคาวผา (เชียงใหม่)



ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ว่านน้ำมีลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน ลักษณะเป็นแท่งค่อนข้างแบน ยาวประมาณ 5-20 เซนติเมตร เป็นพืชที่มีอายุหลายปี มีใบแข็งตั้งตรง รูปร่างแบนเรียวยาวคล้ายใบดาบฝรั่ง ปลายใบแหลม แตกใบเรียงสลับซ้ายขวาเป็นแผง ใบค่อนข้างฉ่ำน้ำ ดอกมีสีเขียวมีขนาดเล็กออกเป็นช่อ มีจำนวนมากอัดกันแน่นเป็นแท่งรูปทรงกระบอก มีก้านช่อดอกลักษณะคล้ายใบ ทั้งใบ เหง้าและรากมีกลิ่นหอมฉุน ชอบขึ้นตามที่น้ำขัง หรือที่ชื้นแฉะ



วิธีการปลูกและดูแลรักษา

ปลูกได้ดีในดินเลน ชื้นแฉะ มีน้ำท่วม ริมบ่อน้ำ ร่องสวนก็ได้ การปลูกโดยการตัดต้นพันธุ์หรือเหง้าให้มีข้ออย่างน้อยท่อนละ 1 ข้อ ปักชำในกระบะทราย เมื่อเริ่มงอกแล้วจึงแยกไปปลูก หรือนำท่อนพันธุ์ไปปักดำเหมือนอย่างดำนาประมาณ 1 สัปดาห์ จะเห็นเป็นใบอ่อนแตกออกมา

ว่านน้ำเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไร ซึ่งทำให้มีใบยาว 80 เซนติเมตรขึ้นไป ใบสีเขียวเข้ม แต่ถ้าปลูกในที่มีแสงแดดจัดเกิน 5 ชั่วโมง ต่อวัน จะมีใบสูงไม่เกิน 50 เซนติเมตร ใบจะมีสีออกเขียว-เหลือง และเจริญเติบโตได้ดีในฤดูฝน เมื่อเข้าปลายฤดูฝนเหง้าที่มีอายุ 7-8 เดือน จะเริ่มมีใบแห้ง เริ่มจากเหง้าข้อที่ 1 ไปเรื่อยๆ จะเหลือใบสดเฉพาะปลายเหง้าที่ทอดขนานดินในข้อที่ 3-5 จากปลายยอด ในช่วงนี้ถ้าขาดน้ำเป็นเวลานาน เหง้าเหล่านี้จะแห้งตายไป แต่ถ้ามีน้ำอยู่ เหง้าเหล่านี้ยังคงสดอยู่และแตกรากและใบใหม่ในฤดูฝนต่อไป

การกำจัดวัชพืชไม่มีปัญหา เนื่องจากการขยายทอดขนานพื้นดินของว่านน้ำ ทำให้วัชพืชมีน้อยลง โดยมากการปลูกว่านน้ำเป็นไปในลักษณะธรรมชาติ ยังไม่ปรากฏว่ามีการใส่ปุ๋ย แต่จากการทดลองของกองพฤกษศาสตร์และวัชพืช ประจำปี 2531-2532 พบว่า ถ้าใช้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 จะพบว่ามีใบมากและยาว เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการอบไอน้ำ ถ้าใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ลักษณะของเหง้าจะใหญ่กว่าการใช้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ความยาวของใบสั้นกว่า เหมาะสำหรับการนำเหง้าว่านน้ำไปใช้ในเภสัชตำรับ สำหรับโรคและแมลง ส่วนใหญ่จะพบเพลี้ยแป้งและราแป้งขาวในช่วงที่มีความแห้งแล้งมาก



วิธีการเก็บเกี่ยวและเปอร์เซ็นต์น้ำมัน

สามารถเก็บเกี่ยวใบว่านน้ำมาใช้ได้หลังจากปลูกแล้วไม่ต่ำกว่า 8 เดือน เพื่อการสะสมของน้ำมันหอมระเหย ซึ่งจะมีปริมาณน้ำมันหอมระเหยในใบ ประมาณ 0.4 เปอร์เซ็นต์ และในเหง้าประมาณ 1.7 เปอร์เซ็นต์

แหล่งปลูกว่านน้ำ พบตามร่องคลองคูทั่วไปทุกจังหวัด



การใช้ประโยชน์ทางการเกษตร

ในเหง้าของว่านน้ำ จะมีน้ำมันหอมระเหยชนิด acalamol aldehyde ซึ่งเป็นพิษต่อระบบประสาทของแมลงโดยออกฤทธิ์เป็นยาฆ่าแมลง ขับไล่แมลง หยุดชะงักการกิน และยับยั้งการสืบพันธุ์ของแมลง เช่น แมลงวันแตง แมลงวันทอง ด้วงหมัดผัก หนอนกระทู้ผัก แมลงในโรงเก็บ ด้วงงวงช้าง ด้วงเจาะเมล็ดถั่ว มอดตัวป้อม มอดข้าวเปลือก แมลงกัดกินผัก



วิธีเตรียมและการใช้ป้องกันกำจัดศัตรูพืช

วิธีที่ 1


1. นำเหง้าว่านน้ำ จำนวน 30 กรัม มาบดหรือโขลกให้ละเอียด

2. ผสมน้ำ 4 ลิตร ทิ้งไว้นาน 24 ชั่วโมง หรือจะต้มนาน 45 นาที

3. กรองเอาน้ำด้วยผ้าบางๆ

4. ก่อนนำไปใช้ให้ผสมสารจับใบ เช่น แฟ้บ ซันไลต์ หรือแชมพู ในอัตราส่วน 1 หยด

5. ใช้ฉีดพ่นวันละ 1 ครั้ง เมื่อมีปัญหาศัตรูพืช

วิธีที่ 2

นำหัวว่านน้ำบดให้ละเอียด ผสมกับขมิ้นที่บดละเอียดอย่างละ 1-2 กิโลกรัม เติมน้ำ 1 ปี๊บ ทิ้งไว้ 1-2 วัน กรองเอาน้ำไปฉีดไล่แมลงวันในแปลงผัก และป้องกันหนอนกระทู้ผักรบกวนได้

วิธีที่ 3

นำเหง้ามาบดเป็นผงคลุกเคล้ากับเมล็ดพันธุ์ที่แห้งดีแล้ว ในอัตราส่วนเมล็ดพันธุ์ 50 กิโลกรัม ต่อว่านน้ำ 1 กิโลกรัม สามารถป้องกันแมลงในโรงเก็บได้

วิธีที่ 4

เป็นวิธีการควบคุมแมลงในโรงเก็บ โดยนำเมล็ดถั่วหรือเมล็ดพืชไร่มาคลุกเคล้ากับน้ำมันว่านน้ำ หรือการใช้ชิ้นส่วนของเหง้าลงไปคลุกเคล้าด้วยก็ได้



การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

1. ในยาไทย

- ใช้เหง้าเป็นส่วนผสมในยาขับลม หรือยาหอมกระตุ้น

- ใช้เหง้าต้มกับขิงและไพลแก้ไข้

- ใช้เหง้าผสมกับขิงและเปราะป่า ทาแก้ไขข้อ ปวดข้อ

- ใช้ผสมกับใบชุมเห็ดเทศ แก้โรคผิวหนัง

2. ในยาแผนปัจจุบัน

- ใช้เป็นส่วนผสมในยาแก้ไอ และขับเสมหะ

- เป็นส่วนผสมในยาบำรุงธาตุ

นอกจากนี้ ข้อมูลทางเภสัชวิทยา ยังพบว่า น้ำมันหอมระเหยและสารสกัดด้วยน้ำและแอลกอฮอล์ที่ได้จากเหง้าสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อโรคได้หลายชนิด รวมทั้งเชื้อราและยังใช้เป็นยาขับและฆ่าพยาธิได้ด้วย



ความต้องการของตลาด

ในประเทศไทยมีความต้องการว่านน้ำมาใช้ผสมทั้งในยาแผนปัจจุบันและแผนโบราณ รวมทั้งในการสกัดน้ำมันว่านน้ำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม


วิธีแก้ไข :
 
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
อำเภอ / เขต :
จังหวัด :
กรุงเทพมหานคร
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคกลาง
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน : วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 21 ฉบับที่ 445
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM