ปลาออสก้า จัดเป็นปลาน้ำจืดที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ พบมากในบริเวณลุ่มน้ำอเมซอนและประเทศปารากวัย เป็นปลาที่อยู่ในตระกูลเดียวกับปลาเทวดา, ปลาหมอสี และปลาปอมปาร์ดัว ลักษณะรูปร่างคล้ายกับปลาแรดแต่ส่วนกะโหลกไม่นูนออก มา ริมฝีปากบนและล่างเสมอกัน ลำตัวจะ มีสีสันแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่จะมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มและมีแถบสีแดงกระจาย อยู่ตามลำตัว ปัจจุบันปลาออสก้าได้มีการพัฒนาสาย พันธุ์ให้มีความหลากหลายทางสีสันและคนไทยนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามมากขึ้น อาทิ ออสก้าลายเสือ, ออสก้าทอง, ออสก้าเสือเผือก และ ออสก้าสีทองเผือก เป็นต้น คุณพนมพร โสภา ชาวปทุมธานี มีพ่อ-แม่พันธุ์ปลาออสก้าสีต่าง ๆ ประมาณ 30 คู่ ปลาที่จะใช้เป็นพ่อ-แม่พันธุ์นั้นควรจะมีอายุ 8 เดือน-1 ปี ซึ่งเป็นช่วงเจริญพันธุ์ที่ดีที่สุด ในธรรมชาติปลาออสก้าจะวางไข่ในช่วงฤดูฝน ปลาจะจับคู่กันและมีการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ แม่ปลาออสก้าจะวางไข่ครั้งละ 500-1,000 ฟองต่อคอก และจะวางไข่ทุก ๆ 15 วัน เรื่อยไปจนเข้าสู่ฤดูหนาวจะหยุดไข่ ไม่ควรเลือกซื้อปลาขนาดใหญ่มาเลี้ยงเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ ควรซื้อปลาขนาดเล็กและทราบถึงชีวประวัติของปลา (ควรเลือกซื้อลูกปลาออสก้าที่มีสีสันบนลำตัวสดใส มีลวดลายชัดเจนไม่เลอะเลือน) ที่สำคัญไม่ควรซื้อปลาจากคอกเดียวกันมาเลี้ยงเป็นพ่อ-แม่พันธุ์เป็นอันขาดเพื่อป้องกันปัญหาเลือดชิด อีกทั้งมีผลต่อประสิทธิภาพในการเพาะต่ำ ได้จำนวนลูกปลาน้อย มีอัตราการรอดตายต่ำ หลายครั้งพบว่าลูกปลาที่ได้มาไม่สมบูรณ์ ในการเตรียมบ่อเพื่อเพาะพันธุ์ปลา ออสก้านิยมเพาะในบ่อโดยมีซีเมนต์บล็อกหรือกระเบื้องกั้นไว้เป็นคอกเรียงกันไป ตรงกลางว่างไว้เพื่อให้ปลาได้ว่ายจับคู่กัน คอกที่กั้นไว้มีอัตราส่วนตัวผู้ 1 ตัวต่อตัวเมีย 1 ตัว หลังจากปล่อยพ่อ-แม่พันธุ์ลงไปแล้ว ปลาจะจับคู่เพื่อผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติ ปลาตัวใดที่ได้คู่แล้วจะว่ายเข้ามาผสมพันธุ์กันในคอก ภายในคอกจะวางแผ่นกระเบื้องหรือแผ่นไม้ไว้เพื่อให้แม่ปลาได้วางไข่ เนื่องจากธรรมชาติของปลา ออสก้าจะวางไข่ตามสิ่งของที่อยู่ในน้ำหรือที่เรียกว่า “ไข่เกาะ” เมื่อสังเกตเห็นว่ามีไข่มาติดที่แผ่น กระเบื้องแล้วจึงนำออกมาแยกใส่ถังน้ำที่มีออกซิเจนหล่อเลี้ยงตลอดเวลา หลังจากนั้นประมาณ 24-36 ชั่วโมง ไข่ปลาจะฟักออกเป็นตัวจึงนำออกมาอนุบาลในบ่อซีเมนต์ที่เตรียมไว้ต่อไป เมื่อลูกปลามีขนาดได้ 1 นิ้ว เปลี่ยนอาหารจากไรแดงมาเป็นอาหารสด เช่น ปลาเป็ดบดละเอียด ให้อาหารวันละ 2-3 ครั้ง ควรมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกวันทั้งบ่ออนุบาลลูกปลาและปลาที่โตแล้ว เมื่อลูกปลามีอายุได้ 45-50 วัน ลูกปลาจะมีขนาดประมาณ 2 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ตลาดต้องการ สามารถจับขึ้นมาจำหน่ายได้ ราคาเฉลี่ยตัวละ 1-2 บาทเท่านั้น.
ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ |