เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
กำจัดหนอนแมลงวันทอง ด้วยระบบคลื่นไมโครเวฟ
   
ปัญหา :
 
 
แม้ มะม่วงเป็นสินค้าเกษตรตัวหนึ่ง ที่มีการส่งขายในตลาดต่างประเทศ  อาทิ สิงคโปร์ จีน เกาหลี ไต้หวัน ปีหนึ่งมีมูลค่านับล้านๆบาท แต่ก็ยังคงมีบางประเทศหยิบยกเอา แมลงวันทอง ขึ้นมาเป็นข้อกีดกันการส่งออก ส่งผลให้ในอดีตที่ผ่านมามีการนำสารเคมีมาใช้ฉีดพ่นในสวนไม้ผล แต่วิธีการดังกล่าว หมิ่นเหม่ ในด้านสารตกค้าง

 

เพื่อพัฒนา เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยถูกสุขอนามัยผู้บริโภค ผศ.ดร.จาตุพงศ์ วาฤทธิ์ ภาควิชาวิศวกรรมเกษตรและอาหาร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และคณะจึงทำการศึกษา พัฒนาเทคนิคการอบร้อนมะม่วงด้วยไมโครเวฟ ในการให้ความร้อนแก่มะม่วงเพื่อการส่งออก ซึ่ง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ให้ทุนสนับสนุน

 

ผศ.ดร.จาตุพงศ์ เล่าให้ฟังว่า การกำจัด หนอนแมลงวันทอง ในผลไม้ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการจะใช้การอบไอน้ำต้องใช้ระยะเวลานาน ผู้ประกอบการส่งออกในจังหวัดฉะเชิงเทรา พบปัญหาหลังนำมะม่วงไปผ่านขบวนการดังกล่าวในระดับอุตสาหกรรมแล้ว บางส่วนได้รับความเสียหายเนื่องจากความร้อน ซึ่งมักจะปรากฏที่ปลายทางขนส่ง

 

...จากข้อมูลของ ศูนย์พัฒนาการผลิตและควบคุมศัตรูผักผลไม้เพื่อการส่งออก รายงานว่า การอบไอน้ำโดยให้จุดเย็นสุดที่ชิดเมล็ดของผล อาจส่งผลทำให้เกิดปฏิกิริยาภายใน นอกจากนี้ความร้อนทำให้คุณภาพลดลง อีกทั้งระยะเวลาที่ใช้ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น...

 

เพื่อเป็นทางเลือกทีมวิจัยจึงศึกษาขบวนการทำงาน คลื่นไมโครเวฟ เป็นตัวแปรทำให้เกิดความร้อนในอาหาร ในระยะเวลารวดเร็ว โดยระยะแรกทำการทดสอบเพื่อดูการกระจายตัวของความร้อนในผลมะม่วง จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนการทดลองในระยะที่ 2 เป็นการ พัฒนากระบวนการอบร้อนให้สมบูรณ์โดยใช้ไมโครเวฟร่วมกับไอน้ำ และทำการลดอุณหภูมิให้ได้ระดับที่สามารถเก็บรักษาโดยไม่มีการเสียหายเชิงคุณภาพ

 

การทดลองใช้คลื่นไมโครเวฟในมะม่วง 2 พันธุ์ คือ โชคอนันต์ กับ น้ำดอกไม้สีทอง ขนาด 300-350 กรัม/ผล หลังทำการวัดหาค่าอุณหภูมิที่เหมาะสม พบว่า ประสิทธิภาพในการกำจัดกักกันหนอนแมลงวันทองควรสูงกว่า 46 องศาเซลเซียส โดยมีช่วงเวลาการรักษาอุณหภูมิคงที่แตกต่างกันได้ถึง 20 นาที จากค่าดังกล่าวจึงนำมาพัฒนากระบวนการอบร้อนด้วยไมโครเวฟที่ขนาด 400 วัตต์

 

โดยใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที จะได้ อุณหภูมิภายในผลมะม่วงในระดับ 48-55 องศาเซลเซียส ร่วมกับไอน้ำเพื่อคงอุณหภูมิมะม่วงไว้ แล้วจึงลดอุณหภูมิด้วยน้ำเย็น เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพดี สามารถลดระยะเวลาการอบร้อนทั้งกระบวนการ เมื่อเปรียบเทียบกับการอบด้วย ไอน้ำปกติได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงการให้ความร้อนขั้นต้น

 

 

ขบวนการดังกล่าว ส่งผลทำให้หนอนระยะไข่มีอัตราการตาย 100 เปอร์เซ็นต์ การเปลี่ยนแปลงสมบัติทางกายภาพและเคมี ได้แก่ สี ปริมาณกรดไตเตรทได้ปริมาณสารละลายน้ำทั้งหมด ซึ่งเปรียบเทียบแล้วไม่มีความแตกต่างจากมะม่วงสด นอก จากนี้ การใช้คลื่นไมโครเวฟยังไม่ทำ ให้เกิดความเสียหายที่เปลือกน้อยกว่าการอบด้วยไอน้ำแบบปกติ

 

แต่ยังมีจุด อ่อนคือ การเกิดความร้อนสูงเป็นบางจุด ดังนั้น ทีมวิจัยจึงต้องทำการศึกษาเชิงลึกถึงลักษณะของสนามคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะสามารถออกแบบระบบที่มีการกระจายตัวของคลื่นฯ สามารถลดข้อจำกัดที่เป็นจุดอ่อนของวิธีการนี้ลงได้

 

ผลงานวิจัยดังกล่าวจึงนับว่าเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่นำองค์ ความรู้พื้นฐานทั้งทางด้านวิศวกรรมกีฏวิทยา มาพัฒนาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อให้การส่งออกเปิดกว้างสามารถบุกตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่ม เติมได้ที่ โทร. 0-5387-8113 ในวันเวลาราชการ.

 

วิธีแก้ไข :
 
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
อำเภอ / เขต :
จังหวัด :
กรุงเทพมหานคร
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคกลาง
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ : วันพุธ ที่ 8 เมษายน 2552 ปีที่ 60 ฉบับที่ 18705
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM