เข้าสู่เว็บสำนักหอสมุดฯ


รายละเอียดข้อมูล
เรื่อง :
ชวนชมดอกซ้อน นครปฐม สวยงามล้ำลึก
   
ปัญหา :
 
 
คนไทยรู้จักชวนชมมามากกว่า 70 ปี ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าผู้ใดนำเข้ามา มีแต่ข้อสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นไม้นำเข้าจากอินโดนีเซียหรือชวา เพราะแต่เดิมเคยเรียกว่า "ลั่นทมยะวา" ชื่อลั่นทม อาจจะเรียกตามความเข้าใจของคนในสมัยนั้น ที่คิดว่าชวนชมอยู่สกุลของลั่นทมเพราะมีดอกคล้ายกัน ส่วนคำว่ายะวา เพี้ยนจากชื่อเมืองชวา ตามความเป็นจริงแล้วชวนชมก็ไม่ใช่พันธุ์ไม้พื้นเมืองของชวา แต่อาจจะนำเข้ามาจากฮอลแลนด์ เพราะครั้งนั้นชวาถูกปกครองโดยชาวดัตช์อยู่ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มของนักสะสมรวบรวมพันธุ์ไม้ทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะถิ่นเดิมชวนชมอยู่ในแอฟริกา และต่อมาพระนางเธอลักษมีลาวัณ ในรัชกาลที่ 6 ได้เปลี่ยนชื่อโดยตามความเหมาะสม มีความรู้สึกที่ดีเป็น "ชวนชม" ต้องตามลักษณะของต้นไม้ในสมัยเดียวกันนั้นเอง

ชวนชมเป็นพืชอายุหลายปี ทนแล้ง มีลักษณะเด่นที่เป็นไม้เนื้ออ่อนอวบน้ำ เก็บกักตุนอาหารไว้ที่ลำต้น โขด (cordex, ส่วนต่อของลำต้นกับรากที่ขยายใหญ่ขึ้น) และราก ดอกมี 5 กลีบ สีชมพูอมแดง ส่วนกลางดอกจะเห็นรยางค์ 5 เส้น ยื่นยาวชัดเจนเป็นส่วนปลายของอับเรณูอยู่ภายในกรวยดอกไว้ล่อแมลง ที่ส่วนฐานกลีบดอกเชื่อมติดรวมเป็นกรวย ฐานกรวยเป็นที่ตั้งของรังไข่ 1 คู่ ถ้าได้รับการผสมเกสรสมบูรณ์จะเจริญเป็นฝักยาวคล้ายเขากวางอิมพาลา ภายในฝักมีเมล็ดเรียงเป็นแถวจำนวนเป็นสิบจนถึงร่วมร้อย เมล็ดทรงกระบอกเรียวยาว ขนาด รูปร่าง สี ใกล้เคียงเมล็ดข้าวเปลือกที่มีตอนปลายตัดทั้ง 2 ด้าน พร้อมมีพู่กระจุกขนประดับช่วยพยุงเมล็ดให้ปลิวไปตามลมได้ไกลๆ

ชวนชมจึงเป็นไม้ที่น่าหลงใหล มีความงามต่างรูปแบบ สวยทุกส่วนสัด ทั้งดอก ใบ ต้น โขด และราก ทั้งการเลี้ยงดูก็แสนจะง่าย ตายก็ยาก จะเอามาตกแต่งเป็นไม้พุ่ม ไม้ดัด ไม้ใหญ่ จัดเข้าสวนบ้านไทย ก็ทันสมัยทุกเวลา

คุณสุชาติ ศรีเลอจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 86/30 หมู่ที่ 5 ตำบลพระประโทน อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ถนนสายบ้านแพ้ว-นครปฐม เล่าว่า แต่เดิมทำหลายอย่างแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ตอนนั้นปลูกไม้ผลจำพวกพุทราจัมโบ้ ช่วงนั้นราคาดี แต่พักหลังราคาผลผลิตซบเซาลง ตนก็หันมาจับอาชีพใหม่โดยหันมาปลูกไม้ดอกไม้ประดับแทน ปลูกโป๊ยเซียนเป็นชนิดแรก ผู้บริโภคนิยมอยู่สักระยะหนึ่ง พอพักหลังความนิยมเริ่มลดลง

เมื่อลีลาวดีเป็นไม้ดอกไม้ประดับตัวใหม่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค คุณสุชาติจึงปลูกลีลาวดี ประกอบกับช่วงนั้นลีลาวดีกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ผู้บริโภคนิยมนำไปปลูกเป็นไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือน ลีลาวดีเป็นไม้ดอกที่ทำรายได้ให้ตนเป็นอย่างดี

"ปีนี้ไม่ได้ทำ เพราะฝนมันมาเร็ว ประสบปัญหาในฤดูกาลหน้าฝน ฝนมาโรคก็มาด้วย ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลสูง ขายต้นละ 100 บาท ไม่คุ้มทุน สู้ราคาไม่ไหว" คุณสุชาติ กล่าว

ปัจจุบันนี้ไม่ได้ปลูกลีลาวดีในกระถาง แต่นำมาปลูกลงดิน ปลูกประมาณ 10 ไร่ สามารถทำรายได้อยู่เสมอๆ เรียกได้ว่ายังเป็นที่ต้องการของตลาดไม้ดอกไม้ประดับอยู่นั้นเอง

ไม้ดอกไม้ประดับที่มีชื่อเรียกว่า "ชวนชม" เป็นอีกหนึ่งชนิดที่ปลูกอยู่ในสวนของคุณสุชาติ กระแสความนิยมกำลังมาแรงในปัจจุบัน เป็นไม้ดอกตัวใหม่ที่ตลาดผู้บริโภคมีความต้องการ การปลูกชวนชมก็ไปได้ดี แข่งขันกันสูง คุณสุชาติปลูกชวนชมบนพื้นที่ทั้งหมด 5 ไร่ ปัจจุบันกลุ่มผู้ผลิตมีการพัฒนาสายพันธุ์ชวนชมอยู่เสมอ สวนของคุณสุชาติเช่นกัน โดยปกติแล้วตามสวนทั่วไปจะปลูกชวนชมเป็นแบบกลีบเดี่ยว แต่ ณ ปัจจุบันนี้การพัฒนาสายพันธุ์ใหม่จากกลีบเดี่ยวเป็นแบบกลีบซ้อนกำลังมาแรง

"โดยเฉพาะชวนชมดอกซ้อน...แดนซิ่งเลดี้...เป็นที่ฮือฮามาก มีลักษณะกลีบซ้อน สีแดงเหมือนดอกกุหลาบ แต่ชวนชมดอกซ้อนจะประสบปัญหาในช่วงหน้าฝน ดอกจะช้ำง่ายเพราะกลีบดอกต้องรองรับน้ำฝนในปริมาณมาก ทำให้ดอกเสียหาย แต่หากเป็นกลีบเดียวมักจะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้" คุณสุชาติ กล่าว

คุณสุชาติ พัฒนาสายพันธุ์ชวนชมเช่นกัน โดยส่ง คุณปกรณ์ ลูกเขย ไปหัดเขี่ยที่สวนเจริญเฟื่องฟ้า โดยมี คุณชาตรี ไทรประเสริฐศรี เป็นเจ้าของสวน เขี่ยเกสรต้นพันธุ์ครั้งแรกได้จำนวน 20 ต้น เกิดเป็นกลีบซ้อนเหมือนกลีบกุหลาบ การเขี่ยติดจะใช้ระยะเวลา 3 เดือน แก่แล้วจะแตกฝักออกมาจะนำไปเพาะ จากวันเพาะอีกประมาณ 5-6 เดือน ก็ออกดอก สังเกตเห็นได้เลยว่าเกิดกลีบซ้อนหรือไม่ ลักษณะต้นพันธุ์ที่มีลักษณะสวย คือ ดอกใหญ่ ดอกกลม กรวยสั้นไม่ยาวเกินไป ไม่ห้อย ชูตั้งรับแสง



ถ้าหากว่ามีผู้สนใจปลูกชวนชมจะต้องทำอย่างไร!

คุณสุชาติ กล่าวว่า ตนยินดีให้คำแนะนำ พร้อมกับสอนวิธีการเสียบยอดด้วย

"มาเรียนหัดเสียบยอดได้ที่นี้ได้เลย ใช้ต้นพันธุ์ที่ดีและไม่ดีก็สามารถเสียบติดกันได้" คุณสุชาติ บอก

คุณสุชาติอธิบายว่า เมื่อเริ่มปลูกครั้งแรกควรจะซื้อต้นตอเล็กๆ ไปเพาะสักประมาณ 200 ต้น หรืออาจจะซื้อเมล็ดไปเพาะก็ได้จะเป็นการประหยัดต้นทุน พร้อมกับเรียนรู้ไปในตัวด้วย เพราะการที่จะเริ่มต้นทำอาชีพสักอย่างต้องเริ่มจากการทำธุรกิจขนาดเล็กก่อน แล้วค่อยเรียนรู้และพัฒนาไปเรื่อยๆ จนสามารถเติบโตขึ้นมาได้เหมือนคุณสุชาติ แต่ก่อนก็เริ่มจับธุรกิจขนาดเล็กมาก่อน

ปัจจุบันนี้ถือว่าสวนคุณสุชาติเป็นสวนชวนชมขนาดกลางของเมืองไทย

การขยายพันธุ์ชวนชมทำได้หลายวิธี ทั้งการเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง การชำกิ่ง การเสียบยอด เป็นต้น สำหรับนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านปักษ์นี้ ผู้เขียนจะกล่าวถึงวิธีการขยายพันธุ์ของชวนชม เพียง 2 วิธี ดังต่อไปนี้



วิธีการเขี่ยเกสรดอกชวนชม

เมื่อได้เมล็ด จึงนำไปเพาะ


ดอกชวนชมเป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน ภายในดอกบานจะเห็นรยางค์ของเกสรตัวผู้ 5 เส้น ยื่นออกมา ถ้าเด็ดกลีบดอกออกจะเห็นรยางค์ได้ชัด เกสรตัวผู้จะอยู่ตรงโคนรยางค์ เกสรทั้ง 5 จะห่อรวมกันเป็นรูปโดม ส่วนเกสรตัวเมียจะถูกเกสรตัวผู้หุ้มไว้ด้านใน โดยปกติแล้วชวนชมจะติดฝักยากเพราะเกสรตัวเมียถูกหุ้มอยู่ด้านใน ต้องมีแมลงคลานเข้าไปถึงจึงจะมีการผสมเกสรเกิดขึ้น ก่อนที่จะผสมเกสรให้ฉีกกลีบดอกพ่อพันธุ์ออก จะได้เขี่ยเกสรง่ายๆ ดอกพ่อแม่พันธุ์ควรจะบานแล้ว 2-3 วัน และควรมีดอกคนละสี หรือมีลักษณะกลีบดอกต่างกัน จะทำให้ได้ลูกผสมที่ต่างจากพ่อแม่ออกไป จากนั้นดึงเกสรตัวผู้ออก แล้วบีบโคนดอกเบาๆ เพื่อที่จะทำให้โดมเกสรตัวผู้แยกออกได้เหมือนกัน โดยใช้พู่กันเล็กๆ มาเขี่ยเอาละอองเกสรตัวผู้ ก่อนที่จะเอาไปป้ายที่ดอกแม่พันธุ์ให้ฉีกกลีบดอกออกนิดหนึ่งเพื่อที่จะง่ายต่อการป้ายเกสร ดึงเกสรตัวผู้ออกมาแล้วเด็ดเอาเกสรตัวผู้ออก แล้วบีบให้โดมเกสรตัวผู้ที่มีตัวเมียอยู่ด้านในเปิดออก จากนั้นเอาพู่กันที่มีละอองเกสรตัวผู้มาป้ายที่เกสรตัวเมียเลย หรือจะทำแบบเด็ดกลีบดอกออกก็ได้ เมื่อเกสรผสมติดแล้วกลีบดอกจะร่วงหล่นไป เหลือกลีบเลี้ยงและรังไข่ที่จะเจริญต่อไปเป็นเมล็ด แต่ถ้าผสมไม่ติด ดอกจะร่วงรวมทั้งกลีบเลี้ยงด้วย เมื่อผสมติดแล้วจากนั้นจะค่อยๆ เจริญเป็น 2 แฉก จะเห็นฝักชวนชมเป็น 2 แฉก รอจนฝักแก่และแตกออกก็สามารถเอาเมล็ดมาเพาะได้

วิธีการขยายพันธุ์แบบนี้ เหมาะสำหรับการหาสายพันธุ์ที่แปลกใหม่ การเพาะเมล็ดจากต้นที่ผสมพันธุ์ อาจจะได้ต้นที่ดีกว่าพ่อแม่ หรืออาจจะได้ต้นที่คุณสมบัติที่ไม่ดีเท่า



ขั้นตอนและวิธีการขยายพันธุ์ชวนชมโดยวิธีเสียบยอด

เหมาะสำหรับต้นพันธุ์ที่นิ่งแล้ว ขยายพันธุ์เพื่อให้ได้จำนวนต้นเพิ่มขึ้น

เริ่มต้นด้วยการเลือกชวนชมสายพันธุ์ฮอลแลนด์ที่แข็งแรง และปลอดจากการติดโรค ขนาดลำต้นประมาณ 1.5 นิ้ว จากนั้นเลือกกิ่งเสียบที่ดูแข็งแรง ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร หรืออย่างน้อยต้องมีตาสำหรับให้แตกกิ่ง โดยตัดปลายให้ตรงกับตำแหน่งที่มีตา เพราะชวนชมจะแตกกิ่งใหม่ที่ตา โดยให้มีขนาดเล็กกว่าต้นที่ใช้เป็นหัว โดยใช้มีดที่คม บาง และปลอดเชื้อตัดให้ตรงกับตำแหน่งตา ตัดลำต้นแนวราบให้สูงขึ้น จากพื้นดินพอประมาณ แล้วทิ้งไว้ 2-3 วัน ในที่แห้ง เพื่อป้องกันการเน่า ต่อไปก็บากลำต้นเป็นรูปตัววี (V) ลึก 1.5-2 เซนติเมตร หรือตามความเหมาะสม จากนั้นนำกิ่งพันธุ์มาตัดปลายกิ่งให้เป็นลิ่มพอดีกับรอยบากรูปตัววี ริดใบออกให้เกือบหมด เหลือไว้ 1-2 ใบ ก็พอ โดยใช้กรรไกรตัดออกห่างจากข้อกิ่งครึ่งเซนติเมตร แล้วปล่อยให้ขั้วใบหลุดร่วงลงไปเอง เพื่อป้องกันการคายน้ำ จากนั้นหุ้มโดยรอบด้วยพลาสติคใสหรือเทป เพื่อป้องกันการติดเชื้อและกันน้ำซึมเข้าไปในรอยต่อ เสร็จแล้วใช้ปูนแดงทาปิดที่ส่วนบนของยอดรอยตัดของกิ่งพันธุ์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ใช้ถุงพลาสติคหุ้มที่ปลายกิ่งให้คลุมทั้งรอยต่อ หรือคลุมทั้งกระถางเพื่อรักษาความชื้นให้คงที่ และรดน้ำวันละครั้งตามปกติ วางต้นชวนชมดอกซ้อนในที่ที่แดดไม่จัด จะเปิดถุงออกเมื่อครบ 7-10 วัน จากนั้นอีกประมาณ 20-30 วัน รอยต่อจะประสานกันพอดีให้แกะพลาสติคใสหรือเทปใสออก หลังจากนั้นก็สามารถนำไปขายได้

หากท่านใดสนใจอยากเชยชมชวนชมของสวนคุณสุชาติ สามารถติดต่อได้ตามที่อยู่ หรือสามารถไปหาซื้อ หรือเดินเที่ยวกันได้ที่ งานพรรณไม้งามอร่ามสวนหลวง ร.9 ระหว่างวันที่ 1-13 ธันวาคม 2552 และงานเกษตรกำแพงแสน วันที่ 4-10 ธันวาคม 2552 หรือติดต่อสอบถามคุณสุชาติได้ที่โทร. (081) 803-1652, (085) 811-4443 (คุณหมวย)

ต้องขอขอบพระคุณ คุณสุชาติที่กรุณาให้ข้อมูลและสาระดีๆ เกี่ยวกับการปลูกดูแลรักษาชวนชม แถมยังมีน้ำใจให้ชวนชมแก่ผู้เขียน มีชื่อพันธุ์ว่า "กู๊ดมอนิ่ง" เป็นชวนชม 3 กลีบซ้อน มีลักษณะสวยงาม กลีบเหมือนดอกกุหลาบ ดอกสีชมพูอ่อน สวยงามมาก





เทคนิคการผสมเกสร

ช่วงเวลาที่เหมาะสมของการจะผสมเกสร (เขี่ยเกสร) ได้ตั้งแต่ 07.00-10.00 น. เป็นช่วงที่น้ำค้างเริ่มแห้งจากดอกหมดพอดี ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ ว่าเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจะสุกไม่พร้อมกัน โดย 1-3 วันแรก ตั้งแต่ดอกเริ่มบาน เกสรตัวผู้จะพร้อมผสมพันธุ์ และมีให้เห็นเยอะมาก ถ้าใช้สายโทรศัพท์เขี่ยดู หลังจากวันที่ 3 ผ่านไปแล้ว เกสรตัวผู้จะน้อยลงและไม่ค่อยสมบูรณ์ ถ้าเขี่ยได้ เปอร์เซ็นต์ติดฝักจะน้อยมาก จึงควรเขี่ยช่วง 1-3 วันแรก ส่วนเกสรตัวเมียจะพร้อมและสมบูรณ์ ช่วงวันที่ 3-5 นับตั้งแต่ดอกเริ่มบาน ถ้านานวันเกินไป เกสรตัวเมียจะฟ่อไม่ติดฝัก (ไม่ต้องเด็ดดอกออกมาฉีกหาเกสรตัวผู้หรอกครับ เด็ดหมดแล้วจะเอาดอกไหนเป็นแม่พันธุ์ละครับ) ถ้าเป็นดอกซ้อนอาจจะต้องฉีกกันบ้างเพราะมีหลายชั้น นี่เป็นเคล็ดลับของอาจารย์คนแรกผมเลยครับ คุณชาตรี ไทรประเสริฐศรี "สวนเจริญเฟื่องฟ้า" เปอร์เซ็นต์ติด 90%

เริ่มขั้นตอนที่ 1 เลยครับ ผมจะใช้สายโทรศัพท์ ดัดปลายงอเหมือนไม้แคะหู 2 อันเลย

ขั้นตอนที่ 2 ใช้ปลายลวดเขี่ยเข้าไป แล้วค่อยๆ ดึงขึ้นมา

ดังขั้นตอนที่ 3 จะพบเกสรตัวผู้เป็นสีขาวปุยๆ ต้องหาให้เจอนะครับ ไม่ได้มีทุกดอก ไม่เจอก็พยายามต่อไปครับ

ขั้นตอนที่ 4 สำคัญมากครับ เป็นเทคนิคของผมเองได้ผลดีมาก "ใช้ปลายลวดอีกอันหนึ่ง เขี่ยเข้าไปในช่องอับของตัวเมีย เพื่อนำร่องก่อน ตามภาพเลยครับ เพราะถ้าเราไม่นำร่องก่อน จะเกิดปัญหาคือ เวลาจะเอาเกสรตัวผู้ที่ได้มา ใส่เข้าไปในอับเกสรตัวเมีย ก็จะติดอยู่ภายนอกไม่ยอมเข้าไป แต่ถ้าเราใช้ปลายลวดอันที่ 1 (ที่ไม่มีเกสรตัวผู้) นำร่องเข้าไปก่อน อับเกสรตัวเมียจะเปิดออกเป็นช่อง คราวนี้ก็ง่ายแล้ว ให้เอาปลายลวดอันที่ 2 (ที่มีเกสรตัวผู้ติดอยู่) ใส่เข้าไปในช่องที่มีรอยแยกแล้วดึงขึ้นเบาๆ ดึงขึ้นให้สุด "รยางค์" ที่เราเห็นเป็นเส้นๆ สีชมพู นั่นแหล่ะครับอีกครั้ง เกสรตัวผู้จะติดและร่วงหล่นอยู่ภายใน และจะผสมกลับเกสรตัวเมียเอง (เกสรตัวเมียจะอยู่ล่างสุดของโคนดอก)

ขั้นตอนที่ 5 เขียนชื่อว่า ผสมอะไรกับอะไรไว้กันลืม

ขั้นตอนที่ 6 ทุกอย่างโอเค ติดฝักแน่นอน รอเวลาฝักแก่ก็นำมาเพาะได้ ที่สำคัญ เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียต้องเป็นคนละดอกกัน ดอกเดียวกันผสมกันเองจะไม่ติดน่ะครับ เพราะช่วงเวลาไม่ตรงกัน

ไม่เข้าใจโทร. (086) 629-7880 ได้ทุกวัน หรือแวะมาเที่ยวที่ "สวนสุชาติ" ก็ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ

วิธีแก้ไข :
 
ที่อยู่
 
หมู่บ้าน :
ตำบล / แขวง :
อำเภอ / เขต :
จังหวัด :
นครปฐม
รหัสไปรษณีย์ :
ภาค :
ภาคกลาง
แหล่งข้อมูล
 
แหล่งที่มา :
เทคโนโลยีชาวบ้าน : วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 22 ฉบับที่ 467
 

ย้อนกลับ


   
วัตถุประสงค์โครงการ
   
จำแนกปัญหาตามภูมิภาค
จำแนกปัญหาตามจังหวัด
จำแนกปัญหาตามประเภท
สืบค้นตามชื่อเรื่องแบบใช้คีย์เวิร์ด
สรุปภาพรวมของปัญหา
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่ภูมิภาค
สรุปประเภทปัญหาตามแผนที่จังหวัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สารสนเทศเกษตร
เกษตรพลิกฟื้นชาติ
สารพันความรู้
กรมส่งเริมการเกษตร
ห้องสมุดกรมวิชาการเกษตร
เทคโนโลยีชาวบ้าน
หนังสือพิมพ์มติชน
ติดต่อ E-mail : คลิกที่นี่
 
 

สถิติจาก truehit.net

   


Download Acrobat Reader

Best view with IE 5.0 or later version at 800x600
All comments please mail to
Webmaster

This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทร 0 2201 7256 แฟกซ์ 0 2201 7265
Email : info@dss.go.th
ปรับปรุง : Tuesday, May 2, 2017 11:07 PM