จากปัญหาด้านวิกฤติพลังงานที่ส่งผลลุกลามมาถึงปัญหาด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประชาชน “โครงการพัฒนาเครื่องต้นแบบผลิตไบโอดีเซลและแหล่งเรียนรู้ไบโอดีเซลชุมชนตำบลท่าทอง” ของ ภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก จึงถือกำเนิดขึ้นมา โดยการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อศึกษาและพัฒนาเครื่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลที่นำไปใช้งานได้ในระดับชุมชน ซึ่งจะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเชื้อเพลิง ช่วยป้องกันปัญหาด้านสุขภาพ และรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน
รศ.พันธ์ณรงค์ จันทร์แสงศรี หัวหน้าโครงการพัฒนาเครื่องต้นแบบไบโอดีเซลฯ เปิดเผยว่า โครงการนี้ได้ตอบโจทย์และเกิดประโยชน์ต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน โดยคิดถึงการนำเอาน้ำมันพืชใช้แล้วที่มีอยู่มากในพื้นที่ของตำบลท่าทอง และตำบลท่าโพธิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ตัวมหาวิทยาลัยนเรศวรมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
“จากการศึกษาพบว่าน้ำมันพืชที่ใช้แล้วเหล่านี้จะมีผู้มารับซื้อและนำไปผ่าน กระบวนการที่ทำให้ใสและไม่มีตะกอน แล้วนำกลับมาขายในราคาถูก พ่อค้า แม่ค้าหรือชาวบ้านไม่รู้และเห็นว่ามีราคาถูก ก็จะซื้อแล้วนำกลับมาใช้ทอดซ้ำ ซึ่ง น้ำมันที่ใช้ซ้ำเหล่านี้ก่อให้เกิดอันตราย ต่อสุขภาพของผู้บริโภค ดังนั้นถ้าเราตัดตอนนำน้ำมันพืชเหล่านี้มาทำเป็นวัตถุดิบ ในการผลิตไบโอดีเซล ส่วนหนึ่งจะช่วย ชาวบ้านในเรื่องของสุขภาพ อีกส่วนหนึ่งก็จะช่วยให้เกษตรกรสามารถรวมกลุ่มกันผลิตไบโอดีเซลไปใช้กับเครื่องจักรกลทางการเกษตร และช่วยในเรื่องการลดรายจ่ายให้เขาสามารถดำรงชีวิตได้ดีขึ้นภายใต้สภาวะที่มีวิกฤติราคาน้ำมัน” รศ.พันธ์ณรงค์กล่าว
“ไบโอดีเซล” คือ น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผ่านการผลิตมาจากน้ำมันพืช หรือไขมันสัตว์ผสมกับ เอทานอล (Ethanol) หรือ เมทานอล (Methanol) เพื่อให้ได้เชื้อเพลิงที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซลและสามารถใช้ทดแทนได้ โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไบโอดีเซลนั้นมีหลากหลายชนิด ที่นิยมคือ น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันพืชใช้แล้ว และน้ำมันจากเมล็ดสบู่ดำ
โครงการนี้ได้ศึกษาพัฒนาออกแบบเครื่องผลิตไบโอดีเซล ที่มีขนาดกะทัดรัด สามารถนำไปใช้งานได้ในระดับชุมชนอย่างไม่ยุ่งยากซับซ้อน โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีในท้องถิ่น และมีต้นทุนการผลิตต่อเครื่องประมาณ 45,000-50,000 บาท โดยขั้นตอนจะนำน้ำมันพืชเก่าที่ใช้แล้ว 100 ลิตร มาผ่าน กระบวนการที่เรียกว่า “ทรานเอสเตอริฟิเคชัน” เพื่อให้ได้น้ำมัน “ไบโอดีเซลแบบเอสเทอร์” จำนวน 70 ลิตร ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นเชื้อเพลิงที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงน้ำมันดีเซลมากที่สุด เหมาะที่จะนำไปใช้กับเครื่องจักรกลทางการเกษตรขนาดเล็กแบบสูบเดียว
น้ำมันไบโอดีเซลที่ผลิตได้จะมีต้นทุนประมาณ 21-22 บาทต่อลิตร โดยต้นทุนการผลิตขึ้นอยู่กับราคารับซื้อน้ำมันพืชเก่า ลิตรละ 6-7 บาท หากเกษตรกรสามารถรวมตัวกันนำน้ำมันพืชเก่าที่ใช้แล้วในครัวเรือนมารวมกันผลิตก็จะช่วยลดต้นทุนไปได้มาก
โครงการพัฒนาเครื่องต้นแบบผลิต ไบโอดีเซลฯ นอกจากจะคิดค้นและพัฒนา วิธีการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลเพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้โดยง่ายแล้ว ยังได้ร่วมมือกับ “ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอเมืองพิษณุโลก” หรือ กศน. พัฒนากระบวนการเรียนรู้ของชุมชนและตั้งเป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตไบโอดีเซลขึ้นที่ “ตำบลท่าทอง” เพื่อให้เป็นชุมชนต้นแบบถ่ายทอดองค์ความรู้ลงไปสู่ชุมชนอื่น ๆ ของจังหวัด
...โครงการนี้นอกจากจะช่วยให้เกษตรกรสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง มีรายได้เพิ่ม พึ่งพาตนเองได้ เยาวชนในพื้นที่ก็จะเกิดความตระหนักถึงความสำคัญและอันตรายจากน้ำมันพืชใช้ซ้ำซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคภัยต่างๆ อีกด้านหนึ่งยังเป็นการช่วยกันตัดวงจรการนำน้ำมันพืชใช้แล้วกลับมาบริโภค และลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมจากการทิ้งลงสู่ธรรมชาติ ด้วยการนำมาเพิ่มมูลค่าผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซล ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง อันจะนำไปสู่การเป็นชุมชนสุขภาวะ.