รายงานนโยบายอุตสาหกรรมรถยนต์ของยุโรปในช่วงปัจจุบัน-2563 ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

1. จากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกและวิกฤติการเงินของยุโรปในปัจจุบัน ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของยุโรปซบเซา ประกอบกับนโยบายสหภาพยุโรปที่ให้ความสำคัญกับปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้สหภาพยุโรปต้องทำการทบทวนนโยบายอุตสาหกรรมรถยนต์ของตน พร้อมกับกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมนี้นับจากนี้จนถึงปี 2563

2. สหภาพยุโรปเห็นชอบที่จะจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนารถยนต์ที่สะอาดลดการปล่อยควันพิษและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (European Strategy on Clean and Energy Efficient Cars) ซึ่งคำนึงถึงปัจจัยเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การปรับปรุงคุณภาพอากาศ และการพึ่งพาแหล่งเชื้อเพลิงจากฟอสซิล โดยมีสาระสำคัญ 2 ส่วน คือ (1) ส่งเสริมการผลิตรถยนต์แบบธรรดาที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยควันพิษ รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพและเชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซ และ (2) ส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถโฮบริด
3. เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2553 คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับยุโรปแห่งสหประชาชาติ (United Nations Economic Commission for Europe : UNECE) ที่กรุงเจนีวา ได้รับรองกฎระเบียบระหว่างประเทศฉบับแรกว่าด้วยความปลอดภัยของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและรถไฮบริด ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจว่ารถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแรงสูงทั้งไฮบริดและรถไฟฟ้าจะมีความปลอดภัยเช่นเดียวกับรถยนต์แบบธรรมดา เหตุผลสำคัญของการจัดทำกฎระเบียบดังกล่าว เนื่องจากรถไฟฟ้าเป็นยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแรงสูงในระดับ 500 โวลต์ จึงจำเป็นต้องมีการระวังป้องกันความเสี่ยงของผู้ใช้รถที่จะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้สหภาพยุโรปและญี่ปุ่นได้แสดงความตั้งใจจะนำกฎระเบียบ UNECE นี้ไปรวมไว้ในกฎระเบียบด้านมาตรฐานทางเทคนิคของรถยนต์ประเภทนี้ของตนต่อไป