สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศประจำสหภาพยุโรปได้รายงานว่า สหภาพยุโรปได้ประกาศ Regulation 1333/2008 o the European Parliament and of the Council on Food Addictive เมื่อปี 2551 เพื่อเป็นข้อกำหนดสำหรับการใช้วัตถุเจือปนอาหารทดแทนกฏหมายฉบับเดิมคือ Directive 95/2/EC of 20 February 1995 on food activities other than colors and sweeteners กำหนดเกณฑ์การใช้วัตถุเจือปนอาหารอื่นๆ นอกเหนือจากสีและสารให้ความหวานซึ่งจะถูกยกเลิก ประกาศ Regulation 1333/2008 ดังกล่าวข้างต้นนี้อนุโลมให้สินค้าอาหารที่ปฎิบัติตามกฏหมายเดิม (Directive 95/2/EC) ใช้วัตถุเจือปนอาหารนอกเหนือจากสีและสารให้ความหวานวางจำหน่ายในท้องตลาดภายในสหภาพยุโรปได้จนถึง 31 พฤษภาคม 2556

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2556 ทางสหภาพยุโรปได้ประกาศ Commission Regulation (EU) No 256/2013 of 20 March 2013 amending Annex III to Regulation (EC) No 1333/2008 of the European Parliaent and of the Council as regards the use of Sodium ascorbate (E301) in Vitamin D preparations intended for use in foods for infants and young children โดยได้มีการแก้ไขรายการวัตถุเจือปนอาหาร Sodium ascorbate* สำหรับสูตรทารก (infant formulae) และ follow-on formulae ที่ระบุไว้ใน Directive 2006/141/EC สามารถใช้ Vitamin D preparation ในระดับ 100,000 mg/kg และ carry over in final food สูงสุด 1 mg/l

สำหรับอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก สามารถใช้ coating of nutrient preparations containing polyunsaturated fatty acids ในระดับ total carry over 97 mg/l โดยที่ระเบียบนี้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 เมษายน 2556 เป็นต้นไป  .  .  .