ความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อเสนอห้ามใช้สารกำจัดศัตรูพืชกลุ่ม neonicotinoid ของคณะกรรมาธิการยุโรป สรุปประเด็นสำคัญได้ ดังนี้
๑. จากรายงานของหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารประจำสหภาพยุโรป (EFSA) ระบุว่าสารกำจัดศัตรูพืชกลุ่มนีโอนิโคตินอยด์ (neonicotinoid) ๓ ชนิด ได้แก่ clothianidin, imidacloprid และ thiamethoxam เป็นสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพผึ้ง การนำสารดังกล่าวมาใช้อาจเป็นสาเหตุทำให้ประชากรผึ้งมีจำนวนลดลงและนำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรผึ้ง
สารกำจัดศัตรูพืชกลุ่ม Neonicotinoid เป็นสารที่ออกฤทธิ์กับระบบประสาทส่วนกลางของแมลง แต่มีความเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่ำ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้แทนสารกำจัดแมลงกลุ่มอื่นที่มีความเป็นพิษร้ายแรงมากกว่า (เช่น ยาฆ่าแมลงกลุ่มออร์แกโนฟอสเฟตหรือคาร์บาเมต) ปัจจุบันสารกำจัดศัตรูพืชกลุ่ม neonicotinoid ได้รับความนิยมในการเกษตรและถูกใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก
แต่เมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อมโยงการใช้สารกำจัดศัตรูพืชกับปัญหาการลดลงของประชากรผึ้ง โดยให้เหตุผลว่าสารกำจัดศัตรูพืชกลุ่ม neonicotinoid มีส่วนประกอบที่สามารถสะสมอยู่ในพืชได้ การนำสารดังกล่าวมาใช้กับเมล็ดพันธุ์พืชที่ดึงดูดความสนใจของผึ้งจะส่งผลกระทบทางอ้อมผ่านการผสมเกสรหรือการเก็บรวบรวมน้ำหวานจากดอกไม้ของผึ้ง รวมทั้งยังมีสารตกค้างจากการคายน้ำของพืชและฝุ่นละอองจากการเคลือบเมล็ดพันธุ์ก่อนปลูก (seed treatment) ผึ้งที่ได้รับสารจะไม่ตายในทันที แต่จะบินกลับรังไม่ได้จนทำให้ราชินีผึ้งและตัวอ่อนขาดอาหารตาย การล่มสลายของอาณาจักรผึ้งจะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอาหาร
๒. ปัจจุบันมีหลายประเทศในยุโรปที่ห้ามใช้สารกำจัดศัตรูพืชบางตัวในกลุ่ม neonicotinoid (เช่น ประเทศอิตาลีและเยอรมนีห้ามใช้ในข้าวโพด ฝรั่งเศสห้ามใช้ในเรพซีด ส่วนประเทศสโลเวเนียและเนเธอร์แลนด์ห้ามใช้กับพืชที่ดึงดูดความสนใจของผึ้งในทุกกรณี) สำหรับระดับ EU ในการประชุมคณะกรรมการยุโรปด้านห่วงโซ่อาหารและสุขภาพสัตว์ (SCoFCAH) เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม 25๕๖ ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปมีข้อเสนอให้ “ควรระงับการจำหน่ายและใช้สารกำจัดศัตรูพืช ๓ ชนิด ได้แก่ clothianidin, imidacloprid และ thiamethoxam กับพืชที่ดึงดูดความสนใจของผึ้ง โดยเสนอให้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป รวมเป็นระยะเวลา ๒ ปี ภายหลังจากนั้นจะทบทวนสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง” ... ... |