เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ สหภาพยุโรปออกประกาศกฎระเบียบ Commission Regulation (EU) No 488/2014 of 12 May 2014 amending Regulation (EU) No 1881/2006 as regards maximum levels of cadmium in foodstuffs โดยตีพิมพ์ใน EU Official Journal L 138/75 ซึ่งเป็น การกำหนดระดับค่าอนุโลมตกค้างสูงสุดของสารแคดเมี่ยม (cadmium) ในสินค้าอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการ ปนเปื้อน อันเป็นการแก้ไขกฎระเบียบเดิม ซึ่งได้แก่ Regulation (EC) No 1881/2006 เพื่อให้สอดคล้องกับ ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และผลประเมินความเสี่ยงที่เป็นปัจจุบัน และยกระดับการควบคุมความปลอดภัย ของห่วงโซ่อาหารและสุขอนามัยผู้บริโภคในสหภาพยุโรปให้มีความรัดกุมมากขึ้นกว่าเดิม สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
๑. จากที่คณะทำงาน CONTAM Panel ของ EFSA ได้เคยลงมติกำหนดปริมาณสารแคดเมี่ยมที่ร่างกายสามารถรับได้ต่อสัปดาห์โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ (Tolerable Weekly Intake : TWI) ไว้ที่ระดับ ๒.๕ µg/กิโลกรัมของน้ำหนักตัวนั้น ล่าสุดพบว่า ค่าความเสี่ยงที่จะได้รับสารแคดเมี่ยมจากการบริโภคอาหาร มีค่าเท่ากับ ๒.๕ µg/กิโลกรัมของน้ำหนักตัวหรือมากกว่านี้เล็กน้อย โดยพบการ ปนเปื้อนสูงสุดในสาหร่ายทะเล ปลา สินค้าทะเล ชอคโกแลต อาหารโภชนาการพิเศษหรืออาหารลดน้ำหนัก เห็ด เมล็ดพืชน้ำมัน และเครื่องในสัตว์ ดังนั้น ในครั้งนี้ จึงให้มีการปรับค่าอนุโลมตกค้างสูงสุดของสารแคดเมี่ยม ในสินค้าพืชและสัตว์น้ำบางรายการขึ้นใหม่ โดยใช้หลักการการคำนวณของ ALARA (as low as reasonably achievable) ซึ่งเป็นการคำนวณหาค่าที่ต่ำสุดอันควรกำหนดได้โดยคำนึงถึงวิถีการบริโภคของชาวยุโรปเป็นหลัก
๒. สรุปการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้อง ได้ดังนี้
๒.๑ กำหนดค่า MLs ของสารแคดเมี่ยมในสินค้าอาหารกลุ่มเสี่ยง ดังนี้
- ชอคโกแลตและผงโกโก้ ที่ระดับ ๐.๑๐ – ๐.๘๐ µg/kg
- อาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชสำหรับเด็กเล็กและทารก ที่ระดับ ๐.๐๔๐ µg/kg
๒.๒ ปรับเพิ่มค่า MLs ของสารแคดเมี่ยมในสินค้าที่มีโอกาสปนเปื้อนสูงกว่าปกติใน
- นมผงสำหรับเด็กเล็กและทารกที่มีส่วนผสมของถั่วเหลือง หรือที่มีส่วนผสมของทั้งนมวัวและถั่วเหลือง ปรับเพิ่มเป็น ๐.๐๐๕ – ๐.๐๒๐ µg/kg
– ผัก Salsify, Parsnips, Celery และ Horseradish ปรับเพิ่มเป็น ๐.๒๐ µg/kg ให้เท่ากับผัก Celeriac
- ปลาซาร์ดีน (Sardina pilchardus) และ Bichique (Sicyopterus lagocephalus) ปรับค่า MLs เพิ่มเป็น ๐.๒๕ µg/kg เนื่องจากพบว่า เป็นการยากที่จะปฎิบัติตามค่าอนุโลม ตกค้างเดิมที่เคยกำหนดไว้ เนื่องจากมีการปนเปื้อนที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติในระดับค่าที่สูงกว่า อย่างไรก็ดี การบริโภคปลาทั้ง ๒ ชนิดมีปริมาณน้อย จึงไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อสุขภาพ . . . ... |