คณะกรรมาธิการยุโรปได้ ประกาศ Commission Implementing Regulation (EU) No 1021/2014 of 26 September 2014 amending Annex I to Regulation (EC) No 669/2009 implementing Regulation (EC) No 882/2004 of the European Parliament and of the Council as regards the increased level of official controls on imports of certain feed and food of non-animal origin ใน EU Official Journal L283/32 สำหรับในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย (Review ครั้งที่ ๑๗) ยังคงเป็นมาตรการเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ที่แตกต่างจากการ Review ครั้งที่ผ่านมา โดยสรุปภาพรวมที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ได้ดังนี้
๑. สุ่มตรวจสารฆ่าแมลงตกค้างในผัก ๒ ประเภท คือ ผักในกลุ่มมะเขือ และถั่วฝักยาว ทั้งในรูปของผักสด แช่เย็น และแช่แข็ง ที่ระดับ ๒๐%
๒. สุ่มตรวจสารฆ่าแมลงตกค้างในผัก ๒ ประเภท คือ ผักชี และกะเพรา-โหระพา ในรูปของ ผักสด และแช่เย็น ที่ระดับ ๑๐%
๓. สุ่มตรวจเชื้อซัลโมแนลล่าในผัก ๓ ประเภท คือ ผักชี กะเพรา-โหระพา และสะระแหน่ ในรูปของผักสด และแช่เย็น ที่ระดับ ๑๐%
๔. สุ่มตรวจสารฆ่าแมลงตกค้างในพริก ในรูปของพริกสด และแช่เย็น ที่ระดับ ๑๐%
๕. สุ่มตรวจเชื้อซัลโมแนลล่าในใบพลู (Betel leaves, Piper betle L.) ที่ระดับ ๑๐%
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศอื่นๆ จากการ Review ครั้งนี้ พบว่า
๑. EU เพิ่มการสุ่มตรวจสารฆ่าแมลงตกค้างที่ระดับ ๕๐% ในมะเขือ ขึ้นฉ่ายจีน และถั่วฝัก ยาว จากประเทศกัมพูชา
๒. เพิ่มการสุ่มตรวจเชื้อซัลโมแนลล่าที่ระดับ ๒๐% ในเมล็ดงา จากอินเดีย
๓. เพิ่มการสุ่มตรวจสารฆ่าแมลงตกค้างที่ระดับ ๒๐% ในแก้วมังกร จากเวียดนาม และ
๔. ให้ยกเลิกการสุ่มตรวจเชื้อ Norovirus และ Hepatitis A ที่ระดับ ๕% ในสตรอเบอร์รี่ แช่แข็ง และการสุ่มตรวจสารฆ่าแมลงตกค้างที่ระดับ ๒๐% ในส้มโอ จากจีน
สำหรับรายละเอียดที่เกี่ยวข้องสามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์ดังนี้
http://eur-lex.europa.eu/legal-content/EN/TXT/PDF/?uri=OJ:JOL_2014_283_R_0012&from=EN
กฎระเบียบฉบับนี้จะมีผลตามกฎหมาย ๑ วันหลังจากที่ประกาศใน EU Official Journal (ประกาศในวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๗) และกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป . . . ... |