เพิ่งเสร็จสิ้นไปกับ “การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างไม่เป็นทางการ” ครั้งที่ 9 และ “การประชุมคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ครั้งที่ 71 ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา โดยมีผู้แทนรัฐบาลจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน เข้าร่วมการประชุม ประเทศไทยนำหัวขบวนโดย “พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ที่เดินทางไปพร้อมด้วยข้อเสนอหลักมากมาย ซึ่งรวมถึงโครงการอาเซียน ทาเลนต์ โมบิลิตี้ และโครงการ ASEAN Science, Technology and Innovation (STI) Partnership Contributions ขับเคลื่อนกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ภายในอาเซียน “ไทยมีความพร้อมที่จะลงทุน 1 ล้านดอลลาร์หรือราว 30 ล้านบาท สำหรับโครงการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวกับอาเซียน หรือโครงการที่ประเทศแถบอาเซียนจะได้ประโยชน์” พิเชฐ กล่าว เดิมที 10 ประเทศอาเซียนลงเงินร่วมกัน ประเทศละ 1 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในโครงการวิจัยและพัฒนาต่างๆ ภายใต้ข้อตกลงคือ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินต้น แต่หยิบเฉพาะดอกเบี้ยออกมาใช้ ซึ่งเป็นจำนวนน้อย ในขณะที่มีงานวิจัยกว่า 50 โครงการรออยู่ ไทยวางกรอบการใช้เงินทุนก้อนนี้ในเบื้องต้นคือ สร้างงานวิจัยที่เอื้อประโยชน์กับภูมิภาค, เป็นหัวข้อที่ภูมิภาคอาเซียนมีแผนรองรับอยู่แล้ว และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ภายในภูมิภาคได้จริง ที่สำคัญ ฟิลิปปินส์ยินดีที่จะสมทบด้วย 1 ล้านดอลลาร์โดยมีจุดมุ่งหมายเช่นเดียวกับไทย แต่มีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวคือ เงินก้อนนี้ของฟิลิปปินส์จะไม่หลุดออกไปนอกเขตประเทศหรือต้องใช้ภายในฟิลิปปินส์เท่านั้น “การที่ฟิลิปปินส์ตอบรับทันทีนั้น แสดงถึงสปิริตว่า พร้อมเดินไปกับไทย แต่ในแง่ของการดำเนินการที่จะนำเงินทุนก้อนนั้นไปใช้ประโยชน์ต้องไปคิดต่อโดยไทยเราเตรียมเขียนแผนการ โครงการที่จะทำ ลักษณะการใช้เงินทุน และการใช้ประโยชน์จาก ASEAN Secretariat ต่อไป และอาจจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางฟิลิปปินส์เพิ่ม เงินทุนก้อนนี้ รมว.วิทย์ฯ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องนำเสนอผลการทำงานแก่ที่ประชุม แต่จะรายงานความก้าวหน้าเพื่อแสดงให้เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมจากแนวคิดนี้ การที่ไทยและฟิลิปปินส์ตอบรับและพร้อมลงขันด้วยนั้น นอกจากจะสร้างประโยชน์ให้กับภูมิภาคอาเซียน ยังจะจุดประกายให้กับ 3 ภาคส่วนคือ ประเทศคู่เจรจา ที่เห็นความสำคัญของการวิจัยและพัฒนา และเข้าใจจุดยืนที่จะพัฒนาอาเซียนด้วย วทน. ก็อาจจะมาร่วมลงเงินลงแรง องค์กรระหว่างประเทศ เช่น อังค์ถัด ที่ไทยร่วมทำงานจนคุ้นเคยและอยากจะทำร่วมกัน โดยให้ไทยเป็นฐานในการทำงานด้านนี้ และการสนับสนุนอาจจะในรูปของเงินทุนหรือมีผู้เชี่ยวชาญมาถ่ายทอดองค์ความรู้และทำงานร่วมกันก็เป็นได้ และภาคเอกชนทั่วทั้งภูมิภาค ที่จะมาในรูปของพาร์ทเนอร์ชิป 3 ฝ่าย เพิ่มโอกาสให้การขับเคลื่อนภูมิภาคด้วย วทน. ไปได้เร็วขึ้น Bangkokbiznews 3 พ.ย.59
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร