นางสาวภูริชญา อ่อนสุวรรณ สำนัก งานเกษตรอำเภอน้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี เข้าร่วมกิจกรรมการย้อมผ้าบริการประชาชนฟรี โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านมาดำเนินการ นางสาวภูริชญา อ่อนสุวรรณ สำนัก งานเกษตรอำเภอน้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี เข้าร่วมกิจกรรมการย้อมผ้าบริการประชาชนฟรี โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านมาดำเนินการ ด้วยการนำลูกมะเกลือมาใช้ย้อมผ้าให้เป็นสีดำแทนการใช้สีย้อมผ้าทั่วไป ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอน้ำขุ่น ร่วมกับกลุ่มเกษตรกรตำบลขี้เหล็ก และตำบลไพบูลย์ อำเภอน้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี ณ ที่ว่าการอำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันก่อน สำหรับต้นมะเกลือนั้น เป็นไม้ยืนต้น พบขึ้นตามป่าเบญจพรรณทั่วไป เรือนยอดเป็นพุ่มกลมกิ่งอ่อนมีขนนุ่ม ผลดิบของมะเกลือมีสรรพคุณเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง และคนไทยเมื่อครั้งอดีตจะนำเอายางจากผลมะเกลือมาใช้ย้อมผ้า เป็นพันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลของจังหวัดสุพรรณบุรี ในภาคเหนือของไทยเรียกว่า มะเกีย มะเกือ หรือ ผีผา ส่วนทางภาคใต้เรียกว่า เกลือ แถบประเทศเขมร และจังหวัดตราดเรียกว่า มัก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10-30 เมตร เปลือกต้นมีสีดำแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ใบเป็นใบเดียวรูปรี ปลายใบแหลม ผลกลมผิวเกลี้ยง ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีดำ ผลแก่จัดจะแห้ง มีกลีบเลี้ยงติดบนผล 4 กลีบ ผลจะแก่ประมาณเดือนมิถุนายน-สิงหาคม เมล็ด แบนเป็นสีเหลือง 4-5 เมล็ด ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ในทางสมุนไพรไทย ผลมะเกลือดิบมีสรรพคุณเป็นยาขับพยาธิ ที่คนไทยรู้จักและใช้กันมานาน ผลมะเกลือมีรสเมาเบื่อ ขับพยาธิในลำไส้ ถ่ายตานซาง โดยมากจะนำมาใช้กับเด็ก โดยการเอาลูกสดใหม่ไม่ช้ำ ตำแล้วคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำกะทิมะพร้าวดื่มทันที เพื่อขับพยาธิไส้เดือน พยาธิปากขอ พยาธิตัวตืด พยาธิเส้นด้าย ปัจจุบันมีการนำผลมะเกลือมาสกัดเพื่อเอาสารที่มีฤทธิ์ขับพยาธิมาผลิตเป็นยาเม็ดสำเร็จรูปใช้รับประทานเพื่อขับพยาธิในท้อง สำหรับการย้อมผ้าด้วยมะเกลือนั้นคนไทยใช้มานานกว่า 70 ปีแล้ว โดยชาวจีนโพ้นทะเลนำวิธีการมาเผยแพร่ วัตถุดิบที่ใช้ในการย้อมผ้าด้วยมะเกลือ จะเริ่มด้วยการตำผลมะเกลือด้วยครกกระเดื่อง ซึ่งเป็นครกไม้ที่ขุดเป็นหลุม แบบใช้คนเหยียบ นำน้ำที่ได้จากผลมะเกลือที่ตำแล้วมาหมักในถังหมักซึ่งเป็นถังขนาดใหญ่ รวมกับเปลือกไม้ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ย้อมอวนผสมเกลือและน้ำ ใช้เวลา 1 วันก็จะได้สีดำ จากนั้นใช้บุ้งกี๋หวายตักกากใหญ่ ๆ ขึ้น แช่ผ้าที่ต้องการย้อมลงไปหมักในถังหมัก 1 คืน จากนั้นนำซักด้วยวิธีการใช้ไม้ทุบเพื่อเอากากและสิ่งสกปรกออก จากนั้นนำไปตากแดด โดยไม่ต้องบิด การให้บริการประชาชนที่ต้องการเสื้อ ผ้าชุดดำของอำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานีครั้งนี้ นับเป็นการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมา ใช้ประโยชน์ และเป็นการขยายผลการอนุรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนไทยที่ดำเนินมาตั้งแต่อดีตในด้านการใช้เสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเป็นการนำวัสดุทางธรรมชาติที่ท้องถิ่นมีอยู่มาใช้ประโยชน์ เป็นการลดต้นทุนในการดำเนินการอีกทางหนึ่ง เดลินิวส์ออนไลน์ 8 พ.ย.59
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร