โรคกุ้งตายด่วนหรือโรคอีเอ็มเอส เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและอุตสาหกรรมกุ้ง จนทำให้ประเทศไทยผลิตกุ้งลดลงถึง 50-60% และเสียแชมป์การส่งออกให้แก่ประเทศอื่น มากกว่านั้นไทยยังต้องนำเข้ากุ้งทดแทนจากประเทศอื่น การตรวจที่ให้ผลแม่นยำและรวดเร็วจะช่วยควบคุมการระบาดของโรคได้อย่างทันท่วงที และนักวิจัยไทยได้พัฒนาชุดตรวจที่สามารถใช้งานง่าย โดยไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ผล เป็นข่าวดีสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งตลอดจนอุตสาหกรรมส่งออกกุ้งระดับประเทศ เมื่อนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีวิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้พัฒนาชุดตรวจ โรคกุ้งตายด่วนหรือโรคอีเอ็มเอส (EMS: Early Mortality Syndrome) ที่ใช้งานง่ายและตรวจได้รวดเร็ว ข้อมูลจากไบโอเทคระบุว่า ประเทศไทยเสียอันดับการส่งออกกุ้งมาตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากปัญหาจากโรคระบาดในกุ้ง โดยเฉพาะโรคกุ้งตายด่วนที่สร้างความเสียหายอย่างมาก และส่งผลกระทบให้ไทยผลิตกุ้งลดลงกว่า 50-60% และแม้ว่าเกษตรกรจะมีลูกกุ้งสายพันธุ์ดี แต่หากยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคให้อยู่ในระดับที่ไม่ก่อโรคในกุ้งได้ โอกาสการติดเชื้อในบ่อกุ้งก็ยังมีอยู่มาก ดังนั้น การตรวจพบเชื้อก่อโรคดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว จะสามารถทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งสามารถวางแผนการกำจัดหรือควบคุมไม่ให้เชื้อระบาดไปในบ่อเลี้ยงกุ้งอื่นๆ ได้อย่างทันท่วงที สำหรับโรคกุ้งตายด่วอีเอ็มเอสหรือกลุ่มอาการตับและตับอ่อนตายเฉียบพลัน เป็นโรคที่เกิดขึ้นในกุ้งขาวแวนนาไม กุ้งกุลาดำ และกุ้งน้ำเงินตะวันออก โดยมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่มวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) เข้าทำลายเซลล์ตับและตับอ่อนของกุ้งอย่างรุนแรง ส่งผลให้ตับและตับอ่อนมีสีซีดขาว ลีบฝ่ออย่างเห็นได้ชัด อาจมีจุดหรือเส้นสีดำที่ตับ เชื้อก่อโรคชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีในน้ำที่มีอุณหภูมิสูงและมีความเค็มมาก การติดเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายใน 20-30 วันหลังจากปล่อยลูกกุ้งลงบ่อเลี้ยง ในช่วงแรกกุ้งในบ่อจะไม่แสดงอาการผิดปกติอย่างชัดเจนมากนัก ไม่มีการเกยขอบบ่อให้เห็น แต่จะมีการว่ายน้ำแบบเฉื่อย กินอาหารลดลง เปลือกนิ่ม และมีสีเข้มขึ้น หลังจากนั้นจะเริ่มพบกุ้งตายในยอ และตายก้นบ่อ สุดท้ายจะพบซากกุ้งลอยขึ้นมา และทยอยตายมากขึ้น จนกระทั่งตายเกือบหมดบ่อ สำหรับการรักษาโรคกุ้งที่ผ่านมานั้น มีการใช้ยาปฏิชีวนะแต่ยังไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และยังเป็นสาเหตุของสารตกค้างในตัวกุ้งอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การตรวจพบการติดเชื้อของกุ้งก่อนปล่อยลงบ่อรวมทั้งมีการตรวจกุ้งในบ่อเพื่อเฝ้าระวังโรค จึงนับเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและลดความสูญเสียเชิงเศรษฐกิจได้ จากปัญหาดังกล่าว กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาชุดตรวจเชื้อก่อโรคตับตายเฉียบพลันสาเหตุหนึ่งของโรคกุ้งอีเอ็มเอส หรือ “Amp-Gold” ขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงเพาะฟักหรือกลุ่มเกษตรกรสามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันการระบาดของโรค ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้งานง่าย รวดเร็ว โดยไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ผล วรรณสิกา เกียรติปฐมชัย หัวหน้าห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีวิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด ไบโอเทค ผู้พัฒนาชุดตรวจ Amp-Gold กล่าวถึงจุดเด่นของชุดตรวจนี้ว่า ชุดตรวจนี้เป็นการพัฒนาวิธีตรวจเชื้อแบคทีเรียวิบริโอพาราฮีโมไลติคัส ด้วยการใช้เทคนิคแลมป์ (LAMP: Loop-mediated isothermal amplification) เป็นเทคนิคเพิ่มปริมาณดีเอ็นเอที่มีความจำเพาะต่อยีนที่สร้างสารพิษ (toxin gene) ของเชื้อดังกล่าว เทคนิคดังกล่าวอาศัยการทำงานของเอ็นไซม์ที่อุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 45 นาที ต่อจากนั้นนำสารละลายที่ได้มาตรวจจับกับดีเอ็นเอ ที่ติดฉลากด้วยอนุภาคทองคำนาโน แล้วเติมเกลือแม็กนีเซียมซัลเฟตลงไป ซึ่งจะทำให้สามารถอ่านผลการตรวจได้ด้วยตาเปล่าจากสีที่เกิดขึ้น คือ สีแดง แสดงว่ามีการติดเชื้อ และสีเทาม่วง แสดงว่าไม่พบการติดเชื้อ วรรณสิกา อธิบายต่อไปว่าเทคนิคนี้ใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ชั่วโมง มีความไว (Sensitivity) มากกว่าเทคนิคพีซีอาร์ (PCR) ซึ่งเป็นเทคนิคดั้งเดิมถึง 100 เท่า และไม่ปรากฎผลบวกเมื่อทดสอบกับดีเอ็นเอของแบคทีเรียชนิดอื่นๆ ที่พบได้ทั่วไปตามบ่อเลี้ยงกุ้ง ด้วยเทคนิคนี้ทำให้ไม่ต้องใช้เครื่องมือที่มีราคาแพงและไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ในการอ่านผลการตรวจ เทคนิคนี้สามารถนำไปตรวจลูกกุ้งหรือกุ้งทุกระยะการเลี้ยงได้ทั้งในฟาร์มขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ทันท่วงที เพื่อช่วยลดความเสียหายจากการระบาดของโรคนี้ และเป็นการลดการนำเข้าชุดตรวจจากต่างประเทศ นำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้แก่อุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งของประเทศอีกทางหนึ่ง นักวิจัยไทยระบุ สำหรับผลงานวิจัยเรื่อง “Amp-Gold” ชุดตรวจเชื้อก่อโรคตับตายเฉียบพลันสาเหตุหนึ่งของโรคกุ้งอีเอ็มเอสนี้ ยังได้รับรางวัลจากสภาวิจัยแห่งชาติประจำปี 2560 ประเภทรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดีมาก สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา ซึ่งมีคณะผู้วิจัย คือ วรรณสิกา เกียรติปฐมชัยในฐานระหัวหน้าคณะผู้วิจัย ณรงค์ อรัญรุตม์, จันทนา คำภีระ และศราวุฒิ ศิริธรรมจักร จากห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีวิศวกรรมชีวภาพและการตรวจวัด ไบโอเทค สวทช. โดยการวิจัยครั้งนี้ได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติ (วช.) ผู้จัดการออนไลน์ 20 ก.พ.60
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร