นักวิทยาศาสตร์พบว่าดาวเคราะห์น้อยรูปซิการ์ชื่อ “โอมูอามูอา” ที่มาจากนอกระบบสุริยะนี้ มีชั้นปกคลุมที่เต็มไปด้วยวัตถุอินทรย์ แต่ไม่พบสัญญาณของสิ่งมีชีวิตต่างดาว (M. Kornmesser / European Southern Observatory / AFP) นักดาราศาสตร์เผย “โอมูอามูอา” ดาวเคราะห์น้อยรูปซิการ์จากนอกระบบสุริยะที่เราตรวจพบได้เป็นครั้งแรกนั้น ปกคลุมไปด้วยวัตถุอินทรีย์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบดาวฤกษ์ที่ดาวเคราะห์น้อยจากมา ซึ่งช่วยปกป้องชั้นน้ำแข็งภายในไม่ให้ระเหยเมื่อได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์เอเอพีรายงานว่านักดาราศาสตร์ได้เผยผลการอ่านค่าสเปกตรัมของ “โอมูอามูอา” (Oumuamua) ดาวเคราะห์น้อยจากนอกระบบสุริยะที่ตรวจจับได้ด้วยกล้องโทรทรรศน์บนโลกเป็นครั้งแรกเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยข้อมูลสเปกตรัมแสดงให้เห็นว่าวัตถุอวกาศดังกล่าวมีชั้นวัตถุอินทรีย์หนาถึงครึ่งเมตร ซึ่งสามารถปกป้องน้ำแข็งที่อยู่ภายในวัตถุไม่ให้ระเหยเมื่อได้รับรังสีจากดวงอาทิตย์ได้ก่อนหน้านี้นักดาราศาสตร์ได้เปิดเผยว่าไม่พบสัญญาณสิ่งมีชีวิตต่างดาวหรือเอเลี่ยนจากหินอวกาศลูกนี้ แต่การวิเคราะห์อาคันตุกะจากต่างระบบครั้งนี้ยังดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยนักดาราศาสตร์มีสันนิษฐานมาอย่างยาวนานว่า วัตถุจากระบบดาวฤกษ์อื่นนั้นจะมีขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายดาวหางและมีส่วนประกอบเป็นน้ำแข็งเป็นหลัก ทว่าดาวเคราะห์น้อยโอมูอามูอาต่างไปจากข้อสันนิษฐานดังกล่าวดาวเคราะห์น้อยโอมูอามูอาซึ่งเป็นชื่อในภาษาฮาวายนั้นมีความหมายว่า “ผู้ส่งสาร” ถูกตรวจพบด้วยกล้องโทรทรรศน์บนโลกหลายตัวเมื่อเดือน ต.ค.2017 ที่ผ่านมา ซึ่งวิถีโคจรที่แปลกได้สร้างความประหลาดใจให้แก่นักดาราศาสตร์ ซึ่งสรุปในทันทีว่าเป็นวัตถุที่มาจากนอกระบบสุริยะของเราอย่างแน่นอนโอมูอามูอาที่มีความยาว 400 เมตร และกว้างเพียง 40 เมตร จนดูเหมือนแท่งซิการ์นั้นไม่ได้ปลดปล่อยที่คล้าย “หาง” ของดาวหาง ซึ่งเป็นฝุ่นและน้ำแข็งที่หลอมละลายเมื่อผ่านดวงอาทิตย์ไปเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา บ่งบอกว่าผิวของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ไม่ใช่น้ำแข็ง และอาจจัดอยู่ในจำพวกดาวเคราะห์น้อย ซึ่งมีองค์ประกอบหลักๆ เป็นโลหะและหินสำหรับธรรมชาติที่แท้จริงของดาวเคราะห์น้อยโอมูอามูอานั้นยังคงเป็นปริศนา แต่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ยังไม่สามารถตัดคุณสมบัติการเป็นดาวหางของวัตถุต่างระบบดาวฤกษ์ดวงนี้ได้ โดยทีมวิจัยได้ระบุในวารสารวิชาการเนเจอร์แอสโตรโนมี (Nature Astronomy) ว่า ไม่สามารถตัดประเด็นองค์ประกอบน้ำแข็งภายในวัตถุอวกาศต่างถิ่นนี้ได้ขณะนี้นักดาราศาสตร์ยังไม่ทราบว่าวัตถุอวกาศรูปร่างแปลกประหลาดและไม่เคยเห็นมาก่อนนี้มีกำเนิดจากที่ใด แต่ได้ประเมินว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้น่าจะท่องอวกาศมาเป็นเวลาหลายพันล้านปีก่อนที่จะมาถึงระบบสุริยะของเรา โดยมีความเร็วอยู่ที่ 95,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหากมองมุมด้านข้างในแนวระนาบที่ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะโคจรรอบดวงอาทิตย์ จะเห็นว่าโอมูอามูอาเข้ามาในระบบของเราจากด้านบนด้วยมุมเกือบๆ 90 องศา แล้วตัดข้าไปด้านในของวงโคจรดาวพุธ ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ดวงในสุดของระบบสุริยะ และเหวี่ยงตัวกลับคืนเมื่อผ่านดวงอาทิตย์อลัน ฟิตซ์ซิมมอนส์ (Alan Fitzsimmons) จากมหาวิทยาลัยควีนส์เบลฟาสต์ (Queen's University Belfast) สหราชอาณาจักร ผู้ร่วมวิจัยในครั้งนี้เผยแก่เอเอฟพีว่า ชั้นปกคลุมที่เสมือนเป็น “เสื้อตัวนอก” ของดาวเคราะห์น้อยโอมูอามูอานั้นมีองค์ประกอบที่เป็นคาร์บอนเป็นหลัก ซึ่งเกิดขึ้นจากวัตถุที่อุดมน้ำแข็งและคาร์บอน ซึ่งมีอยู่ในระบบดาวฤกษ์ที่เป็นถิ่นฐานเดิมของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้“ชั้นปกคลุมนั้นสร้างขึ้นจากปฏิกิริยาระหว่างพื้นผิวเดิมของดาวเคราะห์น้อยและการกระหน่ำระเบิดโอนุภาคพลังงานสูงในอวกาศด้านนอกระบบสุริยะเป็เวลาหลายล้านปีหรือหลายพันล้านปี มันยากที่จะรู้ได้ว่ามันประกบด้วยอะไรบ้าง แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเผ็นผงถ่านไปจนถึงกราไฟต์ซึ่งเป็นส่วนประกอบของไส้ดินสอ” ฟิตซ์ซิมมอนส์กล่าว ซึ่งคาร์บอนนั้นเป็นหนึ่งในธาตุที่พบได้ทั่วไปในเอกภพฟิตซ์ซิมมอนส์ระบุว่า การค้นพบนี้น่าสนใจเพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า ดาวเคราะห์น้อยโอมูอามูอานั้นคล้ายวัตถุอุดมน้ำแข็งที่ถูกดีดออกจากระบบสุริยะของเราตลอดเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะนัยยะว่า แนวคิดทั่วไปของเราเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบดาวฤกษ์เมื่อตอนที่ระบบเริ่มก่อกำเนิดนั้น อาจจะถูกต้องนักวิทยาศาสตร์ยังระบุอีกว่าพวกเขาเชื่อว่า ดาวเคราะห์น้อยจากนอกระบบนั้นผ่านเข้ามาในระบบสุริยะของเราโดยที่เราไม่ทันได้สังเกตประมาณปีละครั้ง สำหรับดาวเคราะห์น้อยโอมูอามูอานี้ได้ผ่านดาวอังคารไปเมื่อเดืน พ.ย.ที่ผ่านมา และจะผ่านดาวพฤหัสบดีในเดือน พ.ค.2018 ก่อนที่จะพ้นจากวงโคจรของดาวเสาร์ในเดือน ม.ค.2019
Manager online 19.12.17
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร