วาระระดับโลกเพื่อรับมือ “ขยะพลาสติก”เป็นเรื่องใหญ่ในการพัฒนาด้านกรีน ไม่แพ้การต่อสู้กับภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะเมื่อขยะพลาสติกตกไปอยู่ในทะเล ทำให้ยากต่อการบริหารจัดการ นำกลับมาเข้ากระบวนการรีไซเคิล และปริมาณขยะพลาสติกราว 8 ล้านตันต่อปี จึงยังพบจุดหมายปลายทางอยู่ที่ ท้องทะเลทั่วโลกแม้ว่าการนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือ Reuse จะเป็นหนทางหนึ่งที่ใช้กับถุงพลาสติก ขวดน้ำดื่มและแก้วกาแฟ ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยมของโลกที่มีความเคลื่อนไหวและก้าวหน้าอยู่เสมอสำหรับการหาทางจัดการกับหีบห่อที่เป็นส่วนหนึ่งของขยะพลาสติก แต่ก็ยังมีขยะพลาสติกอีกหลายแบบที่ต้องหานวัตกรรมเพิ่มเติมมาจัดการในแต่ละวัน เช่น ฟิล์มพลาสติกที่ช่วยรักษาอาหารให้มีความสดได้ยาวนานขึ้น หรือแรปที่หุ้มห่อยาเพื่อความปลอดภัยและป้องกันแสงสว่างเข้าก่อนที่จะถึงมือของผู้ป่วยที่ใช้บำบัด เป็นต้นการแสวงหาแนวทางการจัดการบริหารขยะพลาสติกที่เหมาะสม ถูกต้อง ประหยัดรายจ่าย กลายเป็นภาระของทั้งผู้ประกอบการ รัฐบาล องค์กร NGOs และเหล่าเซเลบดังทั่วโลก โดยมี 3 แนวทางหลักๆ ที่พยายามแก้ปัญหากันแนวทางแรก การริเริ่มใช้นวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยในการบริหารขยะพลาสติก ด้วยการปรับเปลี่ยนวัสดุที่ย่อยสลายได้ หรือการนำกลับมาใช้ใหม่ การรีไซเคิลขยะก่อนที่จะหลุดออกไปถึงทะเล เพื่อลดหรือมิให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล ให้เหลือเป็นภาระในการจัดเก็บจากชายหาดน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็ยังคงดำเนินต่อไปแนวทางที่สอง การบำบัดด้วยการทำความสะอาดทะเลโดยตรง ก็เป็นหนทางที่พยายามดำเนินการอยู่ เพียงแต่ได้ผลในสัดส่วนที่เล็กน้อยมาก ว่ากันว่าไม่ถึง 0.5% ของปริมาณขยะพลาสติกในทะเลทั้งหมดที่ถาโถมเข้าสู่ทะเลในแต่ละปี และเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุมากกว่าต้นเหตุ เพียงให้เกิดผลในเชิงของสัญลักษณ์มากกว่าจะเอาผลสัมฤทธิจริงจังแนวทางที่สาม การย้อนรอยขึ้นไปจัดการที่ต้นน้ำ ด้วยการปรับการออกแบบหีบห่อพลาสติกใหม่แต่แรก ให้ปราศจากขยะพลาสติกโดยสิ้นเชิง หรือ Zero Wasteทว่าจุดอ่อนของการบริหารจัดการ คือการปล่อยให้ใช้พลาสติกตั้งแต่ต้นทาง ย่อมนำไปสู่ขยะพลาสติกที่ปลายทางอยู่ดี ไม่ว่าจะมาจากจุดใดๆ บนโลกใบนี้ ที่มีผู้บริโภคนับพันล้านคนในแต่ละวัน บางคนอาจจะพยายามใช้พลาสติกให้น้อยลง ก็มีผลเพียงน้ำหนักขยะพลาสติกในวันนั้นลดลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อใดที่ปล่อยออกสู่ทะเลก็ยากต่อการกำจัดขยะพลาสติกเหล่านั้น ลำพังคนไม่กี่คนบนโลกที่ตระหนักเรื่องนี้ ก็ไม่ได้มีผลให้ความรุนแรงของปัญหาขยะพลาสติกลดลงไปแต่อย่างใดการออกแบบรูปแบบใหม่ในการใช้หีบห่อที่ดีกว่าเดิมแบบยั่งยืน จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้ Ellen MacArthur Foundation ได้ร่วมกับ Prince of Wales's International Sustainability Unit และเงินทุนที่สนับสนุนโดย Wendy Schmidt ได้ก่อกำเนิด The New Plastics Economy Innovation Prize ในปี 2017 ที่ผ่านมา เป็นการเปิดการแข่งขันนำเสนอของนักออกแบบและนักวิทยาศาสตร์วัสดุภัณฑ์ในการทบทวนการออกแบบหีบห่อพลาสติกใหม่ ที่ไม่ต้องกลับไปเก็บขยะและไม่ต้องแม้แต่ละรีไซเคิล ไม่เกิดขยะพลาสติกแบบถาวร ในทุกจุดบนโลกผู้ชนะเลิศรางวัลนี้จะได้รับเงิน 2 ล้านดอลลาร์ เป็นรางวัล และโปรแกรมการส่งเสริมการนำไปใช้จริงอีก 12 เดือน ให้สามารถทำการพัฒนาต่อยอดกับองค์กร Think Beyond Plasticการแจกรางวัลนี้มี 2 ส่วน ในการประชุม the Our Ocean conference ในเดือนตุลาคม จะมีการประกาศกลุ่มที่ชนะ เพื่อเข้าโปรแกรมการแข่งขัน Circular Design Challenge เพื่อเลือกผู้ที่มีผลงานที่เป็นเลิศ ในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกชิ้นเล็กแต่มียอดสะสมรวมกันเกิน 10% ของขยะพลาสติกทั้งหมดกลุ่มที่ผ่านเกณฑ์รอบที่ 2 จะประกาศผลในปีนี้ ในการประชุมประจำปีของ The World Economic Forum ที่ดาวอส ในการพยายามหานวัตกรรมในการรีไซเคิลพลาสติก ไม่ให้เกิดขยะในรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น โดยให้มีผลในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของอุตสาหกรรมพลาสติกของโลกอย่างจริงจังกลุ่มพัฒนานวัตกรรมสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มแรก กลุ่มที่ใช้หีบห่อจากวัสดุธรรมชาติมากขึ้น เพื่อให้ย่อยสลายแบบธรรมชาติกลุ่มที่สอง การใช้หีบห่อที่รีไซเคิลได้ใหม่ๆกลุ่มที่สาม หีบห่อจากขยะอาหารการใช้รางวัลและการยกย่อง รวมทั้งการนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นธุรกิจในเชิงพาณิชย์จริง ที่ทำอย่างต่อเนื่องนี้ จึงเป็นหนทางที่เชื่อว่าจะทำให้การจัดการขยะพลาสติกได้ผลในไม่ช้าก็เร็ว
Manager online 17.04.18
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร