“กระทรวงวิทย์” พร้อมด้วย "อีอีซี” และ “เจ้าคุณธงชัย” พระพรหมมังคลาจารย์ ประธานสถาบันขงจื่อฯ สร้างเด็กอาชีวะ 4.0 เผยโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ขาดแคลนแรงงานมีฝีมือกว่า 5 หมื่นคน ต้องการอาชีวะที่เชี่ยวชาญใน 10 อาชีพแห่งอนาคตทั้งรถไฟฟ้า หุ่นยนต์ พยาบาลแผนใหม่ที่มีนวัตกรรมการดูแลผู้ป่วย โดยเฉพาะธุรกิจอากาศยาน ต้องการแรงงานเป็นแสนคน “สุวิทย์” ประกาศใช้ วทน. สร้างคน หนุนเด็กอาชีวะสู่ 10 อาชีพใหม่ป้อนอีอีซี ด้าน “เลขาธิการ อีอีซี” เตรียมตระเวนดูวิทยาลัยอาชีวะ ถ้าแห่งไหนแผนงานดีพร้อมสนับสนุนงบประมาณ
มีการประชุมเชิงปฎิบัติเรื่อง “การขับเคลื่อนและพัฒนาระบบการศึกษาเพื่อรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” เมื่อวันที่ 25 ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) และมีพิธีลงนามความร่วมมือ ระหว่างสถาบัน ขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล กับสถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 3 และสถานศึกษาอาชีวศึกษา ในสังกัด 8 แห่ง ใน จ.สุโขทัย อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือในการผลิตกำลังคนคุณภาพของประเทศ มีเป้าหมายเพื่อสร้างเด็กอาชีวะสู่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) และพัฒนาไปสู่อาชีวะ 4.0 มีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เป็นประธาน ร่วมกับ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ในฐานะประธานสถาบันขงจื่อเส้นทางสายไหมทางทะเล และ นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการสำนักงานโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)
นายสุวิทย์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และการพัฒนาประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 เป็นการปฏิรูปประเทศไปสู่ความทันสมัย ดังนั้น การเตรียมคน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การเตรียมคนที่มีคุณภาพเพื่อเข้าสู่อีอีซี จะช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) เพิ่มสูงขึ้นอีก 2% จากเดิมจีดีพีของประเทศที่อยู่ประมาณ 2-3% ซึ่งจะทำให้เกิดจีดีพีถึง 2 แสนล้านบาทต่อปี โดย ปัจจัย ที่จะทำให้ประเทศขับเคลื่อนได้ มี 2 เรื่อง คือ 1.เรื่องคน และ 2. เรื่องวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้ใช้ วทน.สร้างคนให้มีวิชาชีพ ใน 10 อุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่ หุ่นยนต์ การบินและอากาศยานครบวงจร การแพทย์และการดูแลสุขภาพครบวงจร ไอโออีโคโนมี เทคโนโลยีดิจิตอล
"จะร่วมมือกับ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย ที่นำสถาบันอาชีวะ 70 แห่งทั่วประเทศ ไปลงนามความร่วมมือกับประเทศจีน เพื่อให้เด็กอาชีวะ เป็นเด็กอาชีวะยุคใหม่ มีทักษะ ใน 10 วิชาชีพ ที่กำลังขาดแคลน เพื่อนำไปป้อนให้กับโครงการ อีอีซี เด็กอาชีวะ จะเป็นกำลังสำคัญ โดยจะต้องมีการพลิกโฉมเด็กอาชีวะให้เป็นนักเทคโนโลยีให้ได้ โดยมี 3 องค์ประกอบ 1.เด็กอาชีวะ จะต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่อาชีวะ 4.0 เน้นเรื่องของวิชาชีพ แห่งอนาคต 2.อาชีวะจะต้องเป็นนักเทคโนโลยี เป็นแรงงานที่มีทักษะ มีฝีมือ และ 3. สถาบันอาชีวะ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเรียนใน 10 อาชีพใหม่ "
ด้าน นายคณิศ กล่าวว่า การพัฒนาประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 ถ้าไม่มีนวัตกรรม ประเทศจะไปต่อไม่ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องพัฒนาคน ให้มีฝีมือ ตนเชื่อว่า เด็กอาชีวะไทย ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติอื่น ดังนั้น อีอีซี จะร่วมมือกับพระพรหมมังคลาจารย์ ผลิตเด็กอาชีวะเข้าสู่อีอีซี ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ อีอีซี ยังขาดแรงงานอาชีวะที่มีฝีมือมากกว่า 5 หมื่นคน และถ้าทุกประเทศมาลงทุนเพิ่ม อีอีซีต้องการอาชีวะ ที่เชี่ยวชาญใน 10 อาชีพแห่งอนาคต มากกว่า 1 แสน คนโดยเฉพาะเรื่องของรถไฟฟ้า หุ่นยนต์ พยาบาลแผนใหม่ที่มีนวัตกรรมการดูแลผู้ป่วย
"อีกเรื่องคือ ธุรกิจอากาศยาน ที่มีแนวโน้มจะเป็นธุรกิจที่ใหญ่โตมาก เพราะเตรียมยกระดับสู่การเป็นมหานครการบินภาคตะวันออก ในอนาคต ต้องการแรงงานเป็นแสนคน และจะมีรายได้ดีมาก แต่ต้องเป็นคนที่เก่งจริง โลกในอนาคตอันใกล้ จะไม่มีอาชีวะ จะไม่มีวิศวะ จะเป็นโลกที่คนสามารถทำชิ้นงานได้ ทั้งนี้ ตนจะลงไปดูแผนและหลักสูตรการเรียนการสอนของวิทยาลัยอาชีวะที่พระพรหมมังคลาจารย์ นำไปลงนามความร่วมมือกับประเทศจีน ถ้าพบว่าวิทยาลัยอาชีวะแห่งไหนมีแผนงานดี อีอีซีก็พร้อมจะสนับสนุนงบประมาณต่อไป"
ขณะที่ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือ เจ้าคุณธงชัย กล่าวว่า สถาบันขงจื่อฯ ได้ส่งเด็กอาชีวะจำนวนหนึ่ง ไปเรียนวิศวกรรมกับมหาวิทยาลัยของประเทศจีนมาชุดหนึ่งแล้ว สำเร็จการศึกษามาบางส่วน พร้อมจะเข้าไปทำงานในอีอีซีแล้ว หลังจากนี้ จะร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ คัดเลือกนักเรียนอาชีวะ ที่มีพร้อมไปเรียนใน 10 อาชีพอนาคตเพื่อมาทำงานกับอีอีซี

Manager online 26.04.18