บรรดาประเทศในโลกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้การยอมรับว่าสร้างผลงานการจัดการขยะที่ดี “สิงคโปร์”ติดหนึ่งในประเทศแถวหน้ามาอย่างยาวนาน แต่ประเด็นน่าสนใจก็คือ ประเทศต่างๆ ที่มีการจัดการขยะที่ดี รวมถึงสิงคโปร์ กลับยังคงปวดเศียรเวียนเกล้าในการบริหารจัดการขยะ เมื่อพบว่าปริมาณขยะพลาสติกที่ยังเพิ่มพูนขึ้นอยู่ทุกวัน สิงคโปร์ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่มีถนนหนทาง สวนสาธารณะ และชายหาดสะอาดสะอ้าน ปราศจากขยะ ซึ่งมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือแม้กระทั่งประเทศไทย ทั้งนี้เพราะขยะในสิงคโปร์ที่ไม่ได้ถูกส่งไปรีไซเคิลใหม่ จะถูกบริหารจัดการเผาให้เป็นเถ้าถ่าน และขยะที่เป็นของแข็งจะถูกขนส่งไปยังเกาะเทียมที่สร้างขึ้นมาจากฝีมือมนุษย์ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อทับถมให้เป็นผืนแผ่นดิน อย่างเช่นเกาะที่ชื่อ Semakau ถูกวางเป้าหมายไว้ว่าจะสามารถรองรับความต้องการทิ้งขยะของสิงคโปร์ไปได้ถึงปี 2045 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่น่าวิตก มาจากพฤติกรรมการสร้างขยะในสิงคโปร์นั้นยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนอย่างแท้จริง ทำให้ปริมาณของขยะขยายเติบโตในอัตราที่รวดเร็วซึ่งไม่ได้แตกต่างไปจากอดีตมากนัก จึงมีการคาดการณ์ว่าอาจจะทำให้พื้นที่ของเกาะดังกล่าวถูกถมเต็มพื้นที่เร็วกว่าเป้าหมายถึง 10 ปี แต่ขยะที่จะต้องบริหารจัดการให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกก็คือขยะพลาสติก ยังเป็นตัวสร้างปัญหาใหญ่ที่สุดของขยะในสิงคโปร์เช่นเดียวกับหลายประเทศในโลก ข้อมูลที่ได้มาจาก National Environmental Agency หรือ NEA ระบุว่าในปีที่แล้ว สิงคโปร์มีปริมาณขยะทั้งสิ้นประมาณ 763,400 ตัน แต่มีเพียง 8% ของขยะพลาสติกที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิล ตัวเลขที่ได้จากการวิเคราะห์ของ NEA แสดงว่าขยะพลาสติกต่อคน หรือ plastic waste per capital ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 20% ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา หรือเท่ากับพลเมืองสิงคโปร์ทิ้งถุงขยะเฉลี่ย 13 ใบต่อวัน ที่เป็นเช่นนี้ เพราะรัฐบาลสิงคโปร์ไม่ได้นำมาตรการห้ามใช้ถุงพลาสติกหรือภาชนะพลาสติกที่ใช้เพียงครั้งเดียวทิ้ง (SINGLE USE PLASTIC) และยังไม่ได้มีมาตรการที่ชัดเจนใดๆ เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าสิงคโปร์ได้ดำเนินการที่เพียงพอและเหมาะสมโดยการเตรียมกิจกรรมอื่นๆ มาทดแทน หากว่าการนำขยะไปทิ้งเพื่อถมเกาะ Semakau เพียงพอแล้ว ในขณะเดียวกัน มาตรการนำขยะกลับมาใช้ด้วยการรีไซเคิล ที่ดำเนินการประกาศใช้ไปแล้ว ก็มีส่วนช่วยลดปัญหาขยะได้ไม่มาก เมื่อเทียบกับปริมาณขยะจากถังขยะแต่ละวัน เนื่องจากการเติบโตของประชากร และอัตราการเติบโตและขยายตัวทางเศรษฐกิจยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเด็นบ่งชี้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับปัญหาการบริหารจัดการพลาสติกในภูมิภาคเอเชีย ประการแรก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภูมิภาคที่มีประชากรทิ้งขยะพลาสติกมากที่สุดของโลกจนครอง 4 อันดับแรก และมีแนวโน้มสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีมาตรการห้ามการนำเข้าขยะของประเทศจีน ที่เคยใช้เป็นเป้าหมายปลายทางของการจัดการขยะที่เข้ากระบวนการรีไซเคิล ประการที่สอง พบหลักฐานบ่งชี้ว่าขยะพลาสติกคือปัญหาที่ร้ายแรงของโลก เมื่อไม่นานนี้ มีการเสียชีวิตของวาฬ ในประเทศไทยและผลการผ่าพิสูจน์พบการเสียชีวิตมีสาเหตุจากพลาสติก จึงเป็นข้อบ่งชี้ที่ยืนยันให้ทุกประเทศในโลกรับรู้เรื่องราว และมีความจริงจังมากขึ้นในการแก้ไขปัญหา ประการที่สาม สิงคโปร์ได้มีการประชุมพิเศษประเทศในอาเซียน เพื่อหาทางใหม่ๆ ที่มีประสิทธิผลในการจัดการกับเรื่องนี้หนึ่งในมาตรการที่น่าสนใจก็คือ การขอให้ประเทศที่มีความมั่งคั่งเข้ามารับผิดชอบในการติดตาม สอดส่อง การเปลี่ยนแปลงของขยะที่ควรจะถูกนำไปบริหารจัดการอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องการให้บริการส่งสินค้าแบบสะดวกซื้อ ที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ประการที่สี่ สิงคโปร์ประกาศเป้าหมายประเทศของตนว่าเป็น Zero Waste Nation หมายความว่า สิงคโปร์ต้องไม่ปล่อยให้เกิดการทิ้งขยะลงบนพื้นดิน แต่ก็ยังไม่ได้ประกาศวันเวลาที่ชัดเจนว่าจะเป็นปีใดหรือเมื่อใด อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์ได้ให้เงินทุนที่ใช้สนับสนุนการวิจัยใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีการบริหารขยะอย่างยั่งยืน และออกกฎหมายบังคับให้กิจการที่สร้างหีบห่อสินค้าที่จะไปก่อให้เกิดขยะที่รับรู้ตั้งแต่แรกให้รายงานปริมาณหีบห่อที่สร้างและแผนการลดขยะทุกรายภายในปี 2021 ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จหรือใช้ได้ผลหรือไม่อย่างแท้จริง Manager online 15.09.18
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร