เปิดงาน “สตาร์ทอัพแฟร์” กระทรวงวิทย์จัดเวทีจับคู่ภาครัฐกับสตาร์ทอัพด้าน GovTech ตั้งเป้า เกิดการซื้อขาย ฯ ภายในงานไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท วันนี้ ( 28 กันยายน 2561) ที่อิมแพค เมืองทองธานี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือเอ็นไอเอ จัดงาน “สตาร์ทอัพแฟร์ “Government Procurement Transformation” ขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 กันยายน 2561 ภายใต้แนวคิด “ปลดล็อคข้อจำกัด พัฒนาสตาร์ทอัพ สู่ตลาดภาครัฐ” ซึ่งจัดแสดงนวัตกรรมจากสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจและพร้อมให้บริการแก่ภาครัฐและเอกชน กว่า 80 ราย โดยมีดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ฯ เป็นประธานเปิดงาน พร้อม กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “การพัฒนาตลาดภาครัฐและวิสาหกิจเริ่มต้น” ดร. สุวิทย์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือ การสร้างความพร้อมให้ทุกภาคส่วน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นและเอื้อต่อภาคธุรกิจในยุคดิจิทัล การปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย และการขยายความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาประเทศในมิติต่างๆ เพื่อการก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยมีเป้าหมายในการสร้างเศรษฐกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด และที่สำคัญยกระดับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรม โดย “นวัตกรรม” เป็นตัวแปรที่ช่วยขยายขีดความสามารถและความคิดสร้างสรรค์จนเกิดอาชีพใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทเล็กๆ ทั่วโลกได้แซงขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการธุรกิจ มีการพัฒนาธุรกิจอย่างก้าวกระโดด ธุรกิจเหล่านี้ ก็คือ “สตาร์ทอัพ” ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 3-4 ปี ที่ผ่านมา กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้พัฒนาและส่งเสริมสตาร์ทอัพ เพื่อเป็นนักรบเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ และเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีภาครัฐ (หรือ GovTech) ที่เริ่มมีการตื่นตัวมากขึ้น เพื่อช่วยให้ภาครัฐบริการสาธารณะได้ดีขึ้น ทําให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของภาครัฐได้สะดวก งาน Government Procurement Transformation “ปลดล็อคข้อจำกัด พัฒนาสตาร์ทอัพ สู่ตลาดภาครัฐ” จึงเป็นการเริ่มต้นก้าวแรกที่สำคัญของการนำนวัตกรรมของสตาร์ทอัพมาให้ภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานและพัฒนาการให้บริการแก่ประชาชนทั่วประเทศ และเพิ่มการลงทุนให้กับระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ โดยภาครัฐจะเป็นตัวเร่งการตลาด ตั้งเป้าให้เกิดการซื้อขายระหว่างภาครัฐกับสตาร์ทอัพเป็นครั้งแรกภายในงานนี้ ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดีมูลค่าตลาดภาครัฐสำหรับสตาร์ท สามารถเติบโตได้ถึง 30,000 ล้านบาท (หรือ 1% ของงบประมาณภาครัฐ) ด้านรศ.นพ. สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า งานสตาร์อัพแฟร์ที่กระทรวงวิทย์ร่วมกับหน่วย งานต่างๆ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ มีการจัดแสดงนวัตกรรม จาก 80 สตาร์ทอัพ จัดแสดงนวัตกรรมที่พร้อมให้บริการแก่ภาครัฐและเอกชน ใน 7 โซลูชั่น คือ การพัฒนากำลังคนภาครัฐและการสื่อสารนโยบายสาธารณะ การพัฒนาการท่องเที่ยวและส่งเสริมวัฒนธรรมและพื้นที่เรียนรู้ การบริการสาธารณูปโภค การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ รัฐบาลดิจิตอล ความมั่นคงและการป้องกันประเทศ และการพัฒนาตลาดในประเทศ ทั้งนี้ภายในงานดังกล่าวได้มีการให้บริการจับคู่ธุรกิจระหว่างภาครัฐกับสตาร์ทอัพ มีการให้ความรู้เรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พร้อมการสนับสนุนสตาร์ทอัพจากหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ และเวทีการสัมมนา ให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนา GovTech และกรณีประสบความสำเร็จและการให้บริการในโซลูชั่นต่างๆ โดยสตาร์ทอัพที่มีผลงานกับภาครัฐ และเวทีการแข่งขัน GovTech Awards ชิงความเป็นหนึ่งที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมกับรัฐบาล ดร. สุวิทย์ กล่าวอีกว่า เป้าหมายของการพัฒนาสตาร์ทอัพในปี พ.ศ. 2562 คือ Thailand: STARTUP NATION ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น STARTUP Global Hub โดยรัฐและประชารัฐจะต้องร่วมกัน ขับเคลื่อนพัฒนานวัตกรรม และผลักดันให้นวัตกรรมไทยขยายการลงทุนสู่ตลาดต่างประเทศ ส่งเสริมให้สตาร์ทอัพไทยก้าวข้ามตลาดของไทย 70 ล้านคน ไปสู่ตลาดที่ใหญ่กว่าทั้งในระดับภูมิภาคเอเชีย และตลาดโลกให้ได้ ซึ่งได้กำหนด Position ของประเทศไทยเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสตาร์ทอัพจากทั่วโลกเพื่อเข้าสู่ตลาดเอเชีย ทั้งนี้ตั้งเป้าภายในปี พ.ศ. 2564 จะสามารถเพิ่มจำนวนวิสาหกิจเริ่มต้นที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเป็น 1,000 ราย เพิ่มการจ้างงานผู้มีทักษะสูง 50,000 ตำแหน่ง และสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ 5% ของ GDP ประเทศไทย Dailynews online 01.10.18
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร