ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า มลพิษทางอากาศคร่าชีวิตเด็กๆ ปีละหลายแสนคน และยังทำให้เยาวชนนับร้อยล้านคนมีความเสี่ยงทั้งต่อสุขภาพร่างกาย และต่อพัฒนาการทางระบบประสาทในระดับร้ายแรง องค์การอนามัยโลกเผยแพร่รายงานที่ใช้ชื่อว่า "Air pollution and child health: Prescribing clean air" ในวันก่อนการประชุมระดับโลกเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศและสุขภาพของหน่วยงานสหประชาชาติ ที่จะมีขึ้นเป็นครั้งแรก องค์การอนามัยโลกรายงานว่า กว่า 90% ของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีหรือเกือบ 2 พันล้านคน ต้องสูดดมควันพิษเป็นประจำทุกวัน ปัญหาที่ว่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และต่อเนื่องมาจนเข้าสู่วัยรุ่น รายงานฉบับนี้ระบุว่า หญิงมีครรภ์ที่ได้รับมลภาวะในอากาศ มักจะคลอดก่อนกำหนดและให้กำเนิดทารกที่มีน้ำหนักตัวน้อย Marie Noel Brune Drisse นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษทางอากาศขององค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนว่า ปัญหานี้จะทำให้ทารกจำนวนมากมีปัญหาเรื่องพัฒนาการทางสมอง และส่งผลให้ IQ ต่ำลง เธอกล่าวต่อไปอีกว่า มลพิษในอากาศจะทำให้สมองหยุดการเติบโต แม้กระทั่งตอนอยู่ในครรภ์มารดา และยังอาจนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บที่เราอาจไม่สามารถมองเห็นได้ในทันที แต่จะตรวจพบในเวลาที่โตแล้ว เพราะการทำงานของปอดและระบบทางเดินหายใจของคนเราจะถูกเปลี่ยนแปลงในเวลาที่ร่างกายกำลังพัฒนา คุณ Drisse ผู้เชี่ยวจากองค์การอนามัยโลกผู้นี้ กล่าวต่อไปอีกว่า ปัญหามลพิษอาจนำไปสู่โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจ รวมไปถึงการเป็นโรคมะเร็งบางชนิดในวัยผู้ใหญ่ ในปี ค.ศ. 2016 รายงานการศึกษาคาดประมาณว่า มีเด็กจำนวน 600,000 คนเสียชีวิตจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างอย่างเฉียบพลันที่เกิดจากอากาศที่ปนเปื้อน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับเด็กในประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลาง นอกจากนี้รายงานยังพบว่า อัตราการเสียชีวิตที่สูงที่สุดอยู่ในเด็กอายุระหว่าง 5 ถึง 14 ปี จากมลพิษทางอากาศทั้งภายในและภายนอกครัวเรือนที่เกิดขึ้นในภูมิภาคแอฟริกา อย่างไรก็ตาม รายงานยังแนะนำว่าการเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงและเทคโนโลยีสะอาดในการปรุงอาหาร และการให้ความร้อน จะสามารถช่วยชีวิตเด็กๆ ได้เป็นจำนวนมาก ส่วนมาตรการอื่นๆ ที่จะใช้ในการลดมลพิษทางอากาศ ได้แก่ การเลิกการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล และแนะนำให้ใช้แหล่งพลังงานทดแทนที่สะอาดขึ้น ใช้รถยนต์ส่วนตัวให้น้อยลงหันมาใช้การขนส่งสาธารณะแทน ตลอดจนพัฒนาระบบการจัดการของเสียให้ดีขึ้น เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ผลประโยชน์จากการใช้มาตรการดังกล่าวนี้จะส่งผลให้เห็นได้เกือบจะในทันที Voice of America 11.11.18
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร