มาตรการห้ามใช้ถุงพลาสติกเริ่มมีผลบังคับใช้แล้วทั่วนิวซีแลนด์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป โดยหากพบว่าห้างร้านไหนยังให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้า อาจถูกลงโทษปรับไม่เกิน $67,000 หรือราว 2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์หลายคนบอกว่ามาตรการนี้ยังคงน้อยเกินไปสำหรับการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในนิวซีแลนด์ แต่ละปี ชาวนิวซีแลนด์ใช้ถุงพลาสติกราว 750 ล้านชิ้น ซึ่งผลสำรวจชี้ว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนมาตรการห้ามใช้ถุงพลาสติกที่รัฐบาลนิวซีแลนด์บอกว่าเป็นตัวการสำคัญในการทำลายสิ่งแวดล้อม รัฐบาลแดนกีวีขอให้ประชาชนรายงานต่อทางการทันทีหากพบว่าห้างหรือร้านไหนที่ยังคงให้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งแก่ลูกค้าอยู่ นอกจากนี้จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปสุ่มตรวจตามร้านต่างๆ เป็นประจำ ยูจีนี เซจ ผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า คำสั่งแบนครั้งนี้คือส่วนหนึ่งของมาตรการกำจัด "วัฒนธรรมการทิ้งขยะ" ของนิวซีแลนด์ เธอบอกด้วยว่า คนรุ่นเก่าแก่ อย่างเช่นคุณยายของเธอนั้นแทบไม่ต้องใช้ถุงพลาสติกเวลาไปจ่ายตลาดหรือซื้อของ มาตรการนี้จึงเหมือนเป็นการย้อนไปสู่วัฒนธรรมแบบเดิมที่เรายังใช้ถุงพลาสติกไม่มากนัก นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศมาตรการห้ามใช้ถุงพลาสติกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ครอบคลุมถึงถุงพลาสติกบางที่มีความหนาไม่ถึง 70 ไมครอน แต่ทางการยังคงยกเว้นให้ใช้ถุงขยะ ถุงผ้าร่ม และถุงสำหรับเก็บของเสียของสุนัขและสัตว์เลี้ยงต่างๆ อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์นโยบายนี้บอกว่าช่องโหว่ที่เกิดจากมาตรการดังกล่าวคือ ห้างร้านต่างๆ จะสามารถขายถุงพลาสติกแบบหนาที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากขึ้น ซึ่งถุงพลาสติกดังกล่าวสามารถเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าถุงพลาสติกแบบบาง เพราะใช้เวลาย่อยสลายนานกว่า ปัจจุบันมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง จีนและฝรั่งเศส ได้ใช้กฎหมายจำกัดหรือห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบที่นิวซีแลนด์นำมาใช้ในขณะนี้ และอีกหลายประเทศ รวมทั้ง แคนาดา ที่กำลังจะนำมาใช้เร็วๆ นี้เช่นกัน Voice of America 3.07.19
อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม
This site is copyright @ 2005 สำนักหอสมุดและศูนย์สารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 75/7 ถ.พระรามหก แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ : 0 2201 7252-6 โทรสาร : 0 2201 7251,65 e-mail : info@dss.go.th
Wednesday March 18, 2020 7:31 PM 8:49 PM หน่วยงานนี้ทำข้อมูลโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น มิใช่เพื่อการแสวงหาผลกำไร